รถสปอร์ตคันหรูดับเครื่องลงที่หน้าตึกใหญ่ ที่มีความสูง 35 ชั้นก่อนจะก้าวลงจากรถด้วยร้องเท้าหนังอย่างดี กางเกงสแลคที่เรียบหรู พร้อมด้วยเสื้อสูทสีครีมทำให้ผู้ที่สวมใส่ดูหล่อคมเข้มขึ้นไปอีก
บรรดาพนักงานต่างก็ให้ความเคารพประธานของบริษัท บ้างก็ส่งสายตาหวานให้อย่างเปิดเผย หวังเพียงจะได้เป็นเด็กเลี้ยงของท่านประธานก็ยังดี แต่คนอย่างเหมราชก็ไม่เคยที่จะเอาพนักงานตัวเองมาเป็นเด็กเลี้ยง เพราะฐานะอย่างเขามีคนมาเสนอให้มากมายอยู่แล้ว
"ท่านประธานมาถึงแล้ว"
เหล่าบอร์ดบริหารต่างก็โค้งให้กับประธานบริษัทที่น่าเกรงขาม ยกเว้นคนที่คิดว่าตัวเองเป็นบุพการีเท่านั้นที่นั่งเฉย สีหน้าและท่าทางยังคงเรียบนิ่งมองลูกชายที่หยิ่งจองหองนั่งลงในที่ ที่เขาคิดว่าควรจะเป็นของเขามากกว่า
"เริ่มประชุมได้"
เหมราชพูดขึ้นโดยไม่ทักทายพ่อตนเลยสักนิด ทำเอานายอัศวินถึงกับขบกรามแน่น แต่ก็ต้องทำเป็นไม่สนใจ จนการประชุมจบลงทุกคนแยกย้ายออกไปหมดแล้ว นายอัศวินถึงได้เอ่ยขึ้น
"จิตใจแกไม่คิดจะทักฉันเลยหรือไง ห๊ะ!"
เหมราชจำต้องยกมือไหว้ผู้เป็นพ่ออย่างเสียไม่ได้
"สวัสดีครับ ผมมีธุระต้องขอตัวก่อนนะครับ"
เขาเดินออกมายังไม่พ้นประตูห้องประชุม แต่ก็ถูกพ่อเรียกเอาไว้ซะก่อน
"หยุดก่อน! ฉันมีเรื่องจะพูดกับแก"
"คุณมีอะไรเหรอครับ"
เหมราชหันมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ทำเอาอีกคนถึงกับหน้าชา แต่ก็ยังพูดในสิ่งที่ตนเองต้องการออกมาอยู่ดี
"ฉันอยากให้แกยกหุ้นให้อลันสัก 10% น้องจะได้มีรายได้บ้าง"
"หึ! อยากมีรายได้แต่ไม่คิดจะทำงานอย่างนั้นหรือ แล้วทำไมคุณไม่ยกของคุณให้เองล่ะ ผมไม่มีทางยกอะไรให้พวกคุณอีกแล้ว ขอตัวนะครับ"
เหมราชพูดจบก็เดินออกจากห้องประชุมไป โดยที่นายอัศวินยังคงส่งเสียงตามมาไม่หยุด แต่ก็ถูกลูกน้องของประธานขวางเอาไว้ซะก่อน
"นายจะกลับเลยหรือเปล่าครับ"
"ฉันจะเข้าไปดูว่ามีเอกสารที่ต้องเซ็นหรือเปล่า นายเฝ้าหน้าห้องไว้ด้วยแล้วกัน ฉันอยากอยู่เงียบๆ"
เหมราชสั่งรณชิตเสร็จก็เดินตรงไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุด ภายในห้องถูกตบแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง โต๊ะทำงานหันหน้าออกมาด้านซ้ายของประตู เพราะอีกฝั่งจะมีห้องนอนที่เขาเอาไว้ใช้พักผ่อน
เหมราชตรวจเช็คเอกสารอยู่พักใหญ่ก็ได้รับรายงานจากแสนที่เฝ้าอยู่ที่คาสิโน ว่าคนตัวเล็กหายออกจากห้องไปแล้ว เพราะเขาหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเลยแม้แต่น้อย
"บ้าจริง! หายไปได้ไงรหัสก็ใส่ใหม่แล้วแท้ๆ เด็กนี่ถอดรหัสได้ไงกัน"
เหมราชพูดขึ้นพร้อมกับสั่งให้คนออกตามหาทันที แต่คำตอบที่ได้กลับมามีเพียงแค่คำว่าไม่พบ เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะไม่รู้ว่าเด็กสาวจะเอาข้อมูลในห้องไปด้วยหรือเปล่า เมื่อคิดได้แบบนั้นก็รีบกลับโรงแรมทันที
วราลินลงจากแท็กซี่ก็รีบตรงไปยืมเงินที่ล้อบบี้คอนโด เพื่อจ่ายค่าแท็กซี่เพราะเธอไม่มีเงินติดตัวเลย หลังจากที่ไปงานวันเกิดเพื่อนสมัยมัธยม แต่ดันถูกรุ่นพี่เพื่อนมอมยา ยังดีที่เธอพอมีสติอยู่บ้าง เมื่อจ่ายเสร็จเธอก็กลับขึ้นห้องทันที
"ไม่ไหวแล้วขอนอนต่อก่อนเถอะนะ"
วราลินล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวโดยที่ยังอยู่ในชุดเดิมของเธอ ตอนแรกที่พนักงานคอนโดเห็นก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เพราะเธอมีคราบเลือดติดตามเสื้อและกางเกง แต่พอเธอบอกว่าเป็นเลือดของหมาที่เธอช่วยไว้เลยไม่มีใครสนใจ
วราลินหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่เธอก็ตื่นขึ้นมาเพราะความหิว ก่อนจะพาร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อกดโทรสั่งอาหารให้ขึ้นมาส่ง ไม่นานอาหารและยาลดไข้ก็ถูกนำขึ้นมาจากเพื่อนของเธอ
"ปิ๊งป่อง!!"
เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก ทันทีที่ต้นกล้ามองเห็นเพื่อนสาวสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจก็ผุดขึ้น
"อีรินมึงไปฟัดกับใครมา บอกกูมานะ"
"ฟัดห่าอะไรกูทำตัวเองทั้งนั้น เอาข้าวมาดิกูหิวจะตายแล้วเนี่ย"
วราลินพูดขึ้น ใครจะคิดว่าสาวน้อยหน้าตาน่ารัก จะกลายเป็นคนพูดจาโผงผางแบบนี้ แต่ก็คงเป็นเฉพาะตอนอยู่กับเพื่อนสนิทเท่านั้นแหละ
"ไอ้ทีกับไอ้ดินมันรู้ยังว่ามึงมีสภาพแบบนี้"
"กูพึ่งกลับมาแล้วเผลอหลับเพราะมีไข้ เลยยังไม่ได้บอกอะไรใคร มือถือกูก็หายไม่รู้ไปหล่นที่ไหน"
"มึงรั่วขนาดนั้นเลยเหรอ รู้งี้พวกกูตามไปก็ดีหรอก"
ต้นกล้าพูดขึ้นพร้อมกับมองเพื่อนสาว ที่นั่งกินข้าวเหมือนตายอดตายอยากมา และมันก็คงเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะเธอไปถึงไม่ทันได้นั่งก็ถูกรุ่นพี่ของเพื่อนสมัยมัธยมมอมซะก่อน ปัญหาก็ตรงมันไม่ใช่แค่เหล้านั่นแหละถึงทำเธอเป็นแบบนี้
พอเธอรู้ว่าโดนอะไรก็รีบชิ่งหนีทันที แต่จะให้สู้กับคนที่แรงมากกว่าคนตัวเล็กอย่างเธอจะสู้ได้ไง เลยใช้วิธีหนีเอาตัวรอด และความรู้ที่เรียนมานี่แหละพาตัวเองเข้าห้องของเหมราช เทคโนโลยีที่ว่าแน่วราลินก็แก้ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะกลไกลของรหัสทุกอย่าง
"กูไม่ได้รั่ว แต่ถูกมอมยาปลุกเซ็กส์"
"ห๊า! ถูกวางยาปลุกเซ็กส์ แล้วแบบนี้มึงก็ได้ผัวแล้วสิ"
"โครม!"
เสียงเก้าอี้ที่ต้นกล้านั่งอยู่เซล้มไปทั้งคนทั้งเก้าอี้
"โห! แรงดีขนาดนี้แสดงว่ายัง"
ต้นกล้าลุกขึ้นพร้อมกับยกเก้าอี้ขึ้นมานั่งลงข้างๆ อีกครั้ง ส่วนวราลินก็รู้สึกเจ็บขาขึ้นมาทันที เพราะดันใช้ขาข้างที่เจ็บถีบเก้าอี้เพราะลืมตัว
"กูเจ็บขา กล้าอุ้มกูไปวางที่โซฟาที"
"มึงนี่ช่างกล้านะ ถีบกูเมื่อกี้แต่กลับมาใช้กูเฉย"
"ได้กูเดินเองก็ได้" วราลินพูดขึ้นพร้อมกับเดินเขย่งไป
ต้นกล้าเห็นแบบนั้นก็อุ้มเพื่อนสาวขึ้นทันที
"เดี๋ยวมึงเข้าไปเปลี่ยนชุดเน่าๆ ของมึงก่อนแล้วกัน กูออกไปบอกพี่หมอมาดูแผลมึง แล้วต้องเล่าทุกอย่างให้กูฟังด้วย"
"เออรู้แล้ว"
วราลินตอบออกมาเสียงเบา พอเพื่อนของเธอออกไปแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่อีกคนเตรียมไว้ให้ โดยที่ไม่ได้อาบน้ำตามเคย
"เหม็นไปก่อนแล้วกันนะรินเอ้ย ไม่น่าเชื่อว่าจะรอดมาได้ ขอบคุณนะคะคุณอาที่ช่วยรินเอาไว้"
วราลินนึกถึงคนตัวโตที่อยู่ในความทรงจำตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เธอรู้จักชายหนุ่มเป็นอย่างดี เพราะอีกคนเป็นรุ่นน้องของพ่อเธอตั้งแต่เรียนมหาลัย จากนั้นพ่อเธอและเหมราชก็คบหากันเรื่อยมา ทั้งที่มีอายุห่างกันถึงแปดปี
ที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันได้เพราะพ่อเธอดันทำคุณแม่ท้องตั้งแต่มัธยม เลยต้องหยุดเรียนไปหลายปี พอกลับไปเรียนก็ได้ไปเจอกับรุ่นน้องอย่างเหมราช จึงคบหากันมาจนกระทั่งเธอโตจนเรียนมัธยม คุณพ่อเธอก็เสีย
แม่เธอเลยพาเธอไปอยู่ที่เมืองจีนแล้วแต่งงานกับมหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจไมโครซอฟท์ และการออกแบบระบบความปลอดภัย ซึ่งระบบทั้งหมดของโรงแรมเหมราชก็มาจากบริษัทพ่อเลี้ยงของวราลิน ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบอายุน้อยของบริษัท
แต่เพราะจู่ๆ บริษัทของพ่อเลี้ยงเกิดปัญหา มีหนี้สินมากมายจึงบังคับเธอแต่งงานเพื่อล้างหนี้ แต่วราลินไม่อยากแต่งจึงหนีออกมาจากบ้าน
แล้วพาตัวเองกลับมาบ้านเกิด โดยที่ไม่มีใครรู้แม้แต่แม่ของเธอ วราลินเข้าเรียนในมหาลัยของเพื่อนสนิท อย่างต้นกล้า ดินและที ตอนนี้เธอก็เรียนอยู่ปีสามแล้ว ด้วยอายุ 21
ต้นกล้ากลับมาอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกสองคน ดินรีบเดินเข้ามาประคองคนที่กำลังเดินกระเพกออกมาจากห้อง
"อย่าเดินมากมันจะอักเสบนะครับ"
เชนพูดขึ้นเขาคือนักศึกษาแพทย์ที่ใกล้จะจบแล้ว เดินเข้ามาดูแผลพร้อมกับแก้ผ้าพันแผลออก ก่อนจะเช็ดล้างแล้วใส่ยา พร้อมกับพันเอาไว้อีกครั้ง
"มึงไปโดนอะไรมา เกิดเรื่องทำไมไม่โทรหาพวกกู"
นทีพูดเสียงดังทำเอาทุกคนตกใจ วราลินยิ้มแห้งก่อนจะพูดขึ้น
"กูก็ไม่รู้โทรศัพท์กูอยู่ไหน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องหนี ดีแค่ไหนที่รอดมาได้ มึงอย่าเสียงดังสิกูตกใจนะ"
วราลินหันมาทำเสียงอ่อนใส่นที จนต้นกล้าอดหมั่นไส้ไม่ได้
"แหม! ที่เป็นไอ้ทีเสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะมึง ที่กับกูนี่ถีบตกเก้าอี้"
"ก็มึงว่ากูก่อนทำไม"
ทั้งสองเถียงกันไปมาจนเพื่อนต่างก็ส่ายหัว จนเป็นดินที่ถามขึ้นถึงเรื่องราวทั้งหมด วราลินจึงเล่าทุกอย่างให้เพื่อนเธอฟัง
"มึงแม่งใจเด็ดว่ะเอาปากกาแทงขาตัวเอง เป็นกูนะยอมเสียตัวดีกว่า"
"นั่นมันมึงแล้วไอ้กล้า"
ดินพูดขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะของเพื่อนตามมา
"มึงจำได้ด้วยเหรอว่าใครที่ช่วยมึงไว้"
นทีถามขึ้นบ้างเพราะอยากรู้ว่าใครที่ช่วยเพื่อนเขาให้พ้นจากเรื่องนี้
"อืม คิดว่าหายดีจะไปขอบคุณเขาอยู่เหมือนกัน"
"แบบนั้นก็ดีนะพี่ว่า ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่กลับก่อนนะ ทานยาแล้วก็พักผ่อนเถอะ ต้นกล้าไปส่งพี่หน่อยสิ"
เชนหันไปหาต้นกล้าที่นั่งอยู่ข้างดิน ทำให้ดินรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นรุ่นพี่ชอบทำตัวสนิทกับเพื่อนคนนี้ของเขา วราลินนั่งมองพร้อมกับอดยิ้มออกมาไม่ได้ ที่ดินมีท่าทีห่วงเพื่อนขนาดหนัก
"กลัวพี่เชนคาบไปกินมึงก็ตามไปสิ เดี๋ยวไอ้กล้าถูกลากเข้าห้องทำไง"
"ตัวเท่าควายใครจะลากไว้ มีแต่มันอยากจะไปเองมากกว่า"
ดินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดงอน ยิ่งเห็นสีหน้าของหมอหนุ่มที่ทำตัวติดกับต้นกล้า ก็ยิ่งไม่พอใจ วราลินและนทีรู้ดีว่าดินแอบชอบเพื่อนตัวเอง จะมีก็แต่ต้นกล้านั้นแหละที่ไม่รู้ เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชายเลยคิดว่าความรู้สึกที่มีให้กันนั้นมันแค่เพื่อน
"มึงก็กินยาแล้วก็นอนพักเถอะ"
นทีพูดขึ้นแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ต้นกล้าก็วิ่งเข้ามาด้วยความร้อนรน
"รินเมื่อกี๊เบอร์มึงโทรเข้ามา กูว่าคงเป็นคนที่เก็บโทรศัพท์มึงได้ มึงว่าจะเป็นไอ้พวกนั้นหรือเปล่าวะ จัดมันเลยไหม"
"แล้วมึงรับสายหรือเปล่า?"
"เปล่ากูเห็นโทรเข้ามากูเลยรีบวิ่งกลับมานี่เลย"
สามคนมองหน้ากันก่อนจะหันมามองหน้าคนที่นั่งหอบเพราะรีบวิ่งมา
"เอามือถือมึงมานี่เดี๋ยวกูโทรกลับไป"
วราลินโทรกลับไปยังเบอร์ของเธอแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ติดแล้ว
"สงสัยแบตมือถือกูหมดแน่เลย"
"ไม่ก็คงปิดเครื่องแล้วเอาไปขาย"
ดินพูดขึ้นทำเอาวราลินหงอยลงทันที เพราะในนั้นมีรูปและความทรงจำหลายๆ อย่างที่เธอเก็บเอาไว้
อีกด้านที่โรงแรมหรูของเคลือ HL กรุ๊ป เหมราชนั่งมองมือถือที่แบตหมดไปแล้ว ก่อนจะสั่งลูกน้องให้หาที่ชาร์จมา เขากำลังครุ่นคิดเรื่องที่เด็กคนนี้เปิดประตูเข้าออกเหมือนเป็นบ้านตัวเองก็ไม่ปาน หลังจากที่ดูคลิปจากกล้องวงจรปิด
"หึ ทำเหมือนเป็นคนใส่รหัสเองแบบนี้เลยเหรอ เราต้องได้พบกันอีกแน่ ไปสืบมาว่าเด็กนี่อยู่ที่ไหน ยังเรียนอยู่หรือเปล่า"