หลังจากที่วราลินนอนป่วยอยู่สองวันเต็มๆ เธอก็ตื่นขึ้นมาในเช้าอันสดใส เพราะวันนี้เธอต้องเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องในช่วงท้าย หลังจากที่ไม่ได้เข้าเรียนมาหลายวัน เพราะอาการป่วยยังไม่หายดีด้วย จึงทำให้ต้องหยุดพักไป
ตอนนี้เธอนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำกิจกรรมนัก โดยมีเพื่อนอีกสามคนนั่งอยู่ด้วยเหมือนเช่นทุกครั้ง เสื้อช็อปสีแดงที่เธอใส่อยู่ขับกับผิวของเธอได้ดีเลยทีเดียว รวมถึงเพื่อนในกลุ่มของเธอด้วย เรียกว่าเป็นดาวเด่นของคณะเลยก็ว่าได้
"หายดีแล้วแน่นะริน" ดินถามขึ้น
"อืม ขาก็หายเจ็บบ้างแล้ว"
วราลินตอบเพื่อนออกไป พร้อมกับเสียงพูดคุยถึงใครบางคน ที่ยืนอยู่ลานจอดรถไม่ไกลจากจุดทำกิจกรรม ไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มหล่อที่ชื่อเหมราชคนนี้ การปรากฏตัวขึ้นที่มหาลัยทำเอานักศึกษาเก่าใหม่ต่างก็มีความหวัง ที่จะให้หนุ่มใหญ่สนใจ
"พวกสาวๆ สนใจอะไรเหรอวะ"
ต้นกล้าถามขึ้นพร้อมกับมองไปยังต้นเหตุ และกำลังเดินมาพร้อมกับคนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องเสียมากกว่า
"ทำไมเดิมมาทางนี้เขามาหาใคร" นทีพูดขึ้นบ้าง
"เชี้ย! นั่นมันคุณเหมราช เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจสีเทารวยมากติดอันดับเอเชียเลยนะมึง ว่าแต่มาที่นี่ทำไม"
เมื่อต้นกล้าเห็นหน้าชัดๆ เลยพูดขึ้นไขความกระจ่างให้กับเพื่อน
"สงสัยมาหาเด็กไปเลี้ยงล่ะมั้ง อาจได้ยินว่าที่มหาลัยรับน้องเลยมา"
ดินพูดขึ้นก่อนจะเงียบเสียงลง เมื่อทั้งสามเดินตรงมาหาพวกตนที่นั่งอยู่โต๊ะใต้ต้นไม้ วราลินแหงนหน้ามองคนที่หยุดยืนตรงหน้า เธอรู้ดีว่าเขาเป็นใคร
"วันนี้ไม่มีเรียนแล้วนี่ ไปด้วยกันหน่อยสิ"
เหมราชพูดขึ้นพร้อมกับสายตาคม ที่จ้องมองคนตัวเล็กผ่านแว่นตาสีดำที่ทำให้เขายิ่งดูดีขึ้นไปอีก วราลินยืนขึ้นเต็มความสูงที่มีแค่ไหล่ของอีกคน เธอไม่คิดว่าเขาจะตามมาถึงที่นี่
"คุณอาพูดกับหนูเหรอคะ"
ทันทีที่อีกคนเรียกแทนตัวเองและเขาแบบนั้น ก็ทำเอาเหมราชหน้าถอดสีเลยทีเดียว เพราะเกิดมาไม่เคยมีใครเรียกเขาแบบนี้ ยิ่งถ้าเป็นสาวๆ ส่วนมากก็เรียกพี่ทั้งนั้น แต่ดูเด็กคนนี้สิ
"ไม่พูดกับเธอจะพูดกับใคร ในเมื่อฉันยืนอยู่ตรงหน้าเธอ"
"ใครจะไปรู้ล่ะคะ ก็เล่นใส่แว่นตาแบบนี้นึกว่ามองไปทางอื่นไม่ได้คุยกับหนูซะอีก ว่าแต่ทำไมหนูต้องไปด้วยคะ ขอเหตุผล"
เหมราชมองหญิงสาวตรงหน้า ไม่เคยมีใครตั้งคำถามแบบนี้กับเขามาก่อน ส่วนมากมีแต่เดินตามไปเลยมากกว่า แค่เพียงเขากระดิกนิ้วก็พอ
"เธอไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ"
"หนูจะไปรู้จักคุณอาได้ไง เพื่อนในห้องยังรู้จักไม่หมดเลย"
คำตอบที่ได้ทำเอาเหมราชนิ่งอึ้ง พอๆ กับกลุ่มเพื่อนและคนสนิทของเขา เหล่านักศึกษาที่อยากรู้ต่างก็มายืนออ ดูว่าหนุ่มหล่อนคนนี้มาหาใครกันแน่
"วราลิน อย่าดื้อไปกับฉันดีๆ เรามีเรื่องต้องคุยกัน ถ้าไม่ไว้ใจพาเพื่อนไปด้วยก็ได้"
เหมราชเรียกชื่อคนตรงหน้า พร้อมกับพยายามหว่านล้อมอีกคนให้ตอบตกลง วราลินยิ้มน่ารักออกมาจนคนที่ยืนมองเธอ ภายใต้แว่นกันแดดอดที่จะจ้องมองไม่ได้
"พวกมึงจะไปด้วยหรือเปล่า"
"มึงไปเถอะคุณเหมราชคงไม่ทำอะไรมึงหรอกถ้ามึงไม่เต็มใจ ใช่ไหมครับ"
ต้นกล้าพูดขึ้นจนทำให้เหมราชแปลกใจ
"นายรู้จักฉันด้วยเหรอ แล้วทำไมเพื่อนนายไม่รู้จักฉันล่ะ"
"ไม่แปลกหรอกครับ เพราะรินมันพึ่งกลับมาอยู่ไทยแค่สามปี แล้วมันก็ไม่เคยสนใจคนดังด้วย"
นทีพูดขึ้นเพื่อคลายความสงสัย
"จะไปหรือยัง แล้วคุณอามีอะไรที่จะคุยกับหนู หรือว่าเรื่องที่หนูแอบเข้าไปในห้องในวันนั้น"
"อืม รู้แล้วก็ดี"
เหมราชพูดแค่นั้นก็เดินนำคนตัวเล็กไปที่รถ ทุกคนต่างก็มองตามด้วยความสงสัย จนบางคนอดไม่ได้ที่จะถามกลุ่มเพื่อนของวราลินขึ้น แต่คำตอบที่ได้ก็คือสายตาที่มองอย่างไม่พอใจ ทุกคนเลยได้แต่แยกย้ายกันไป
ภายในรถคันหรูที่นั่งกว้างขวาง วราลินนั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอคิดว่าคนข้างๆ จะจำเธอได้เสียอีก แต่มันก็นานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอเขา มันก็ไม่แปลกที่เขาจะลืมหลานสาวที่เคยขี่หลังในตอนเด็ก
"ฉันอยากรู้ว่าเธอเข้าไปในห้องฉันได้ยังไง ทั้งที่มันล็อคอยู่"
วราลินหันมาหาคนที่ถามเธอ ตอนนี้เหมราชถอนแว่นออกแล้ว เลยทำให้เธอเห็นใบหน้าคนตัวโตชัดขึ้นแถมยังอยู่ใกล้มากด้วย
"หนูเรียนวิศวะเรื่องแค่นี้ทำไม่จะแก้ไม่ได้"
"ไม่มีทาง ต่อให้เธอเรียนเก่งแค่ไหนก็ไม่น่าจะปลดล็อคประตูได้"
เหมราชยังคงไล่ต้อนคนตรงหน้า เพื่อที่จะได้เอามาเป็นข้อต่อรองให้กับตัวเอง และดูเหมือนวราลินเองก็รู้ว่าอีกคนต้องการต้อนให้เธอจนมุม
"ของก็ไม่ได้หายไม่ใช่เหรอคะ หนูเองก็คิดว่าจะกลับไปขอบคุณที่ช่วยอยู่เหมือนกัน แต่กลับมาหนูก็ป่วยพึ่งจะมาเรียนได้นี้แหละ"
เหมราชนึกขึ้นได้ว่าวราลินบาดเจ็บที่ขา เขาเลยเลื่อนสายตาลงที่กระโปรงบานเลยเขาของเธอ วราลินมองตามสายตาอีกคนก่อนจะพูดขึ้น นิ้วเรียวจับกลีบกระโปรงเอาไว้สื่อให้รู้ว่าเธอเห็นว่าเขามอง
"ดีขึ้นแล้วค่ะ เดินได้ปกติ"
"ขอดูหน่อย อยากเช็คให้แน่ใจ"
คำพูดสองแง่สองง่าม ทำเอาวราลินหันควับมาหาคนตัวโตทันที เหมราชเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของอีกคนเลยขยับเข้าใกล้ ก่อนจะพูดขึ้น
"เธอคิดว่าใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอฮึเด็กน้อย"
"รินไม่ใช่เด็ก" วราลินตอบออกไปด้วยเสียงหงุดหงิด จนเหมราชอดที่จะดีดนิ้วลงที่หน้าผากกว้างของอีกคนไม่ได้
"ไม่เด็กแต่แทนตัวเองว่าหนูน่ะเหรอ แต่อันที่จริงก็ไม่เด็กอย่างว่าแหละ เพราะตรงไหนก็ใหญ่ไม่ว่าบนหรือล่าง"
เหมราชพูดหน้าตาเฉย ผิดกับอีกคนที่อายหน้าแดงไปแล้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าคุณอาที่แสนอ่อนโยนคนเก่าเธอหายไปไหน ทำไมคนตรงหน้าถึงดูหื่นกามขนาดนี้
"คนลามกหื่นกามแบบคุณอา ถ้ามีอีกสักสิบคนโลกนี้คงอยู่ยากแล้ว"
"ว่าไปนั่น ถ้าฉันหื่นกามจริงๆ เธอคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอรอดมือฉันหรือไง"
พออีกคนพูดแบบนี้วราลินก็เงียบไป มันก็จริงถ้าเป็นคนอื่นถอดชุดเธอออกหมดขนาดนั้นคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่ เหมราชเห็นอีกคนเงียบไปจึงได้พูดขึ้นอีก
"เธอต้องตอบแทนบุญคุณฉันที่ช่วยเธอ"
"ตอบแทนอะไรยังไงคะ รินไม่นอนกับคุณอานะ รินจะเก็บไว้ให้คนที่รินรัก"
คำพูดที่ดูจะต่างออกไปจากตัวตนของวราลิน ทำเอาเหมราชถึงกับอึ้ง เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดออกมาแบบนี้ เพราะไม่ว่าใครก็อยากเสนอตัวให้เขาทั้งนั้น
"แล้วถ้าเธอเกิดหลงรักฉันล่ะ"
"ฮ่าฮ่า รินจะหลงรักคุณอาได้ไงในเมื่อ อ่ะ"
พอคิดได้วราลินก็เงียบไป เพราะเธอไม่อยากบอกกับอีกคนว่าเธอคือลูกของรุ่นพี่ที่สนิทของเหมราช ไม่งั้นเรื่องที่เธอหนีมาเรียนที่ไทยคงรู้ถึงหูคุณแม่แน่
แม้แม่ของเธอจะช่วยเรื่องหนีออกมาก็เถอะ แต่ทางนั้นก็เข้าใจว่าเธออยู่ที่ฝั่งยุโรป เธอยังส่งข่าวถึงแม่ทุกอาทิตย์โดยผ่านอีเมล์ เพราะไม่ต้องการให้ตามตัวเธอได้
"ในเมื่ออะไรพูดมาให้หมด"
"ในเมื่อ เอ่อคุณอาอายุเยอะกว่ารินตั้งหลายปี ให้เป็นเพื่อนคุณพ่อยังได้เลย"
วราลินพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแห้งใส่อีกคน แต่เหมราชกลับรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ พอมาถึงก็เดินลงจากรถเข้าโรงแรมไป โดยไม่รอคนตัวเล็กที่พึ่งจะลงรถเลยแม้แต่น้อย วราลินหันมาหาแสนและชิตเชิงถาม
"เดินตามไปเถอะครับ แล้วก็ทางที่ดีอย่าพูดเรื่องอายุกับนายนะครับ เดี๋ยวจะไม่ปลอดภัยเอาได้"
แสนพูดขึ้นด้วยความเอ็นดู เพราะไม่เคยมีใครทำให้เจ้านายเขาหงุดหงิดแบบนี้เลย วราลินยิ้มแห้งให้ก่อนจะเดินตามรณชิตเข้าลิฟท์ เพราะคนที่พาเธอมาขึ้นลิฟท์ไปก่อนหน้านี้นานแล้วโดยไม่รอเธอ
เหมราชเดินเข้ามาภายในห้องพัก เสียงมือถือก็ดังขึ้น
"มีอะไรอีกไอ้แสน"
"นายจะให้พาคุณรินไปที่ห้องหรือรอที่ห้องทำงานครับ"
"พาขึ้นมา"
เหมราชพูดจบก็ตัดสายทันที
"แก่กว่าตั้งหลายปีเหรอ เธอไม่รู้เหรอว่าคนแก่มันแซ่บแค่ไหน ฉันจะทำให้เธอหลงฉันหัวปักหัวปำเลยเด็กน้อย"
เหมราชพูดขึ้นไม่นานประตูก็ถูกเปิดเข้ามา เหมราชถือแก้วเหล้าสีอำพันอยู่ในมือ ก่อนจะยกขึ้นจิบเล็กน้อย สายตายังคงจ้องมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบ ไม่มีท่าทีตื่นกลัวเขาเลยสักนิด
"นั่งลงสิ เรามาตกลงกัน"
เหมราชบอกให้คนตัวเล็กนั่งลง ก่อนจะหันไปหาชิตที่ยืนอยู่ไม่ไกล รณชิตเมื่อเห็นสายตาของเจ้านายจึงเดินออกไปเงียบๆ แต่วราลินก็หันตามคนที่ก้าวออกไป
"กลัวเหรอที่ต้องอยู่กับฉันลำพัง"
"เปล่าค่ะเพราะรินเชื่อว่าคุณอาคงไม่ทำอะไร ผู้หญิงที่ไม่เต็มใจหรอก"
"หึ เธอรู้จักฉันดีขนาดนั้นเชียวเหรอ"
เหมราชไม่เพียงแต่พูด แต่เขากลับขยับเข้ามาใกล้อีกคน ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน วราลินรู้สึกประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ยิ้มร้ายผุดขึ้นทันที
"ถ้าเธอเรียกฉันว่าอาแล้วก็เรียกต่อไปก็แล้วกันนะ ฉันอยากให้เธอมาเป็นพนักงานฝึกหัดที่นี่ จะเอาเพื่อนมาทำด้วยก็ได้ เดี๋ยวต้องฝึกงานแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันอยากได้เธอมาคอยตรวจสอบระบบความปลอดภัย เธอคิดว่าไง"
"จริงเหรอค่ะ งั้นรินขอเริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ มีเงินเดือนใช่ไหมคะ"
"ร้อนเงินเหรอ ฉันช่วยได้นะแต่ต้องทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่งานที่พูดถึงเมื่อกี้"
"พอเลยค่ะ วนกลับมาเรื่องนี้ทุกที หื่นมากทำไมไม่เรียกเด็กในสังกัดมาล่ะคะ"
วราลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พอเธอได้ยินว่าจะมีคนจ้างเธอก็อดดีใจไม่ได้ เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม่ของเธอบอกว่าทางนั้นจับได้ว่าแม่ส่งเงินให้เธอจากนี้จึงส่งให้ไม่ได้อีกแล้ว
หากได้ทำงานที่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อยที่นี่เธอก็เป็นผู้ออกแบบระบบป้องกันภัย เหมราชยิ้มให้กับท่าทางหงุดหงิดของอีกคน ที่มันดูน่ารักน่าแกล้งสำหรับเขา
"ก็ได้ไม่แกล้งแล้ว ฉันจะรับเธอเข้าทำงานที่นี่ เงินเดือน 20000 ตำแหน่งตรวจเช็คระบบ แต่เธอต้องมาพักที่นี่นะ ฉันมีห้องให้"
"หมายถึงห้องข้างล่างใช่ไหมคะ"
"เปล่า ห้องที่เธอนอนป่วยในตอนนั้นแหละ"
วราลินขมวดคิ้วเข้าหากัน คิดว่าเขาจะให้เธอพักข้างล่างเสียอีก เพราะถ้าทำงานที่นี่เธอก็เป็นพนักงานคนหนึ่ง อีกอย่างชั้นบนสุดที่มีลิฟท์ส่วนตัวแบบนี้ ก็แสดงว่าเป็นห้องของเขาน่ะสิ
"แต่ห้องนี้ของคุณอาไม่ใช่เหรอคะ ทำไมถึงจะให้พนักงานอย่างรินพักล่ะ"
"เพราะอีกอย่างที่เธอต้องทำคืออาหาร หวังว่าจะทำเป็น ส่วนเรื่องทำความสะอาดไม่ต้องมีแม่บ้านของที่นี่ดูแลอยู่"
เหมราชพูดขึ้นพร้อมกระดกเหล้าจนหมด วราลินมองคนตัวโตที่ยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว ก็อดที่จะกลืนน้ำลายลงคอตามไม่ได้ เหมราชหันกลับมาสบตาเข้าพอดี ทำเอาใจดวงน้อยหล่นวูบจนต้องรีบหันหนี
เหมราชยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปเติมเหล้าที่เคาร์เตอร์บาร์อีกมุม แต่สายตาคมดุจเหยี่ยวก็ยังคงจ้องเหยื่อตัวน้อย ที่นั่งนิ่งในกระจกที่สะท้อนออกมา
# คุณอาจอมวางแผน คิดจะกินเหยื่อตัวน้อย ขุดหลุมไว้แล้ว ก็อย่าเดินไปตกหลุมเองซะล่ะ
#ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ