ตอนที่3 แค่คนที่คู่ควร

1840 คำ
ไม่นานหลังจากนั้นคณาภัทรก็เดินกลับออกมาพร้อมกับชุดนอนที่เรียบร้อยเพื่อที่จะเตรียมเข้านอนในค่ำคืนนี้ "พรุ่งนี้มีงานเลี้ยงการกุศล บริษัทถูกเชิญไปด้วย เธอก็ไปกับฉันด้วยล่ะ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับนั่งลงบนเตียงฝั่งของตัวเอง ล้มหัวลงนอนตะแคงหันหลังให้กับภรรยาในทันทีเลย "ไม่ไปได้ไหมคะ ขี้เกียจไปปั้นหน้าฝืนยิ้ม ไม่ชอบงานสังคมแบบนั้นเท่าไหร่ด้วย มันทำให้อึดอัด" "อึดอัดก็ต้องทน เขาเชิญก็ต้องไป อย่าเรื่องมากเรื่องเยอะได้ไหม น่าเบื่อชะมัดเลย" คณาภัทรไม่ได้หันมามองจ้องหน้าแต่ตอบกลับด้วยความรู้สึกหงุดหงิดหัวเสียเหมือนเช่นเคย "ทำไมกลับมาบ้านถึงอารมณ์ไม่ดีตลอดเลยคะ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันจะฝืนทนมากขนาดนี้ เกือบ 2 ปีแล้วมันก็ไม่ควรจะฝืนหรือเปล่า?" ทำเอาคนที่นอนหันหลังให้อยู่ต้องรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง หันกลับไปมองจ้องหน้าคนที่กำลังมองจ้องเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าหญิงสาวที่ดูเศร้า มองเห็นกี่ครั้งยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดหัวเสียมากขึ้นไปอีก "จะมาชวนทะเลาะอีกงั้นสิ ชีวิตเธอมันว่างนักหรือไงลันล์ เธอก็รู้ว่าเราแต่งงานเพื่อธุรกิจไม่ใช่เพราะความรัก ถ้าฉันเลิกได้ฉันก็เลิกไปนานแล้วสิ ทำไมฉันต้องฝืนทนอยู่กับคนน่ารำคาญแบบนี้ด้วย" "น่ารำคาญงั้นเหรอคะ คำนี้ควรจะเป็นลันล์ไหมที่ต้องพูด พี่กลับบ้านดึกทุกวัน อย่าคิดนะว่าลันล์ไม่รู้ว่าพี่ไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง" "รู้แล้วมันยังไง ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าชีวิตฉันถึงจะแต่งงานกับเธอ ฉันก็ยังมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ เธอก็อยู่ในที่ของเธอไป ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายเรื่องของฉัน!" "แต่ลันล์เป็นเมียพี่นะคะ ลันล์ก็อยากได้ความรัก อยากได้ความใส่ใจ อยากเห็นสามีให้ความสำคัญกับชีวิตบ้าง" "อยากได้ฉันก็ไม่มีให้หรอกนะลันล์ลลิต เพราะงี่เง่าแบบนี้ไงฉันถึงไม่ค่อยอยากกลับบ้าน กลับมาทีไรก็ชวนให้ทะเลาะน่ารำคาญหู!" "ถ้าวันหนึ่งไม่มีลันล์ พี่ภัทรจะมีความสุขมากกว่านี้ใช่ไหมคะ?" ดวงตาคมดุจับจ้องมองคนตรงหน้า การที่มีเธออยู่ในชีวิตหรือไม่มีอยู่มันก็คงไม่ต่างอะไรกันเลย เขาแสดงออกอย่างชัดเจนมาตลอด แม้จะรู้ว่าหญิงสาวรู้สึกบางอย่างพิเศษกับตัวเองมากมายก็เถอะ ลันล์ลลิตจับจ้องมองหน้าสามีด้วยดวงตาที่แดงก่ำ สายตาเขาที่มองจ้องเธอมีแต่แววตาที่ว่างเปล่า นับวันเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอยากถอยห่างจากเขาให้ได้สักวัน ยิ่งอยู่ความรู้สึกยิ่งถลำลึก ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ อีกไม่ถึงสองอาทิตย์ก็จะครบรอบ 2 ปีที่แต่งงานมาใช้นามสกุลของเขาแล้ว หลายครั้งเคยนั่งถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องทน แล้วทนไปเธอจะได้อะไรนอกจากความเสียใจที่คนเป็นสามีมอบให้มาโดยตลอดเวลา "นอนเถอะ ถ้ายังมัวชวนคุยอยู่ฉันจะไปนอนที่อื่นนะรำคาญหู" แสงไฟภายในห้องนอนดับวูบลงจนมืดสนิท ลันล์ลลิตถึงกับน้ำตาร่วงหล่นลงอาบแก้ม พยายามที่จะไม่สะอื้นไห้ให้เขาต้องได้ยิน เพราะไม่ว่าจะเป็นเสียงอะไรจากเธอเขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสาร แต่เขากลับรำคาญใจเสียมากกว่า ความเสียใจความน้อยใจถูกกลืนลงลำคออีกครั้งด้วยความฝืนทน ก่อนจะล้มหัวลงนอนหันหลังให้กับเขาไม่ต่างกันนัก แม้จะอยู่ใกล้กันเพียงมือที่เอื้อมถึงแต่ความรู้สึกที่มีกลับไม่ได้ใกล้กันแบบนั้น ไม่เคยได้โอบกอดกันนอนอย่างมีความสุขเหมือนคู่รักคนอื่น ๆ ที่เขาชอบทำกันเลย แม้จะมีบางครั้งที่มีสัมพันธ์ทางกายกันเกิดขึ้น มันก็เป็นเพียงแค่กิจกรรมหนึ่งที่ต้องมีระหว่างสามีและภรรยาสำหรับเขา เธอแทบจะไม่ใช่เมีย แทบจะเป็นเพียงแค่ที่ระบายอารมณ์ของเขาก็เท่านั้น ได้แต่บอกตัวเองให้อดทน ได้แต่บอกตัวเองให้เข้มแข็ง เพราะคิดมาตลอดว่าสักวันมันจะดีขึ้น สักวันเขาจะรักเธอ แต่สักวันนั้นเธอต้องรออีกสักกี่วันกี่เดือนและกี่ปีกัน บริษัทKP เวลาสายของวันต่อมา ลันล์ลลิตต้องเดินทางมาที่บริษัทของสามีกะทันหัน เพราะสิ่งสำคัญที่เขาลืมเอาไว้ที่บ้าน ทำให้เธอต้องรีบเอามาส่งให้อย่างรีบร้อน ทันทีที่เดินเข้าไปภายในบริษัททุกคนทักทายหญิงสาวด้วยทีท่าที่นอบน้อม เพราะรู้ดีว่าเธอเป็นภรรยาของเจ้าของบริษัทนี้ ลันล์ลลิตยิ้มทักทายกับทุกคนด้วยความเป็นมิตรและเป็นกันเอง หญิงสาวเป็นคนน่ารัก ไปไหนมาไหนก็เลยมีแต่คนชื่นชมและรักใคร่ตลอด ขาเรียวยาวก้าวไปหยุดยืนที่หน้าห้องทำงานของสามี พร้อมกับดวงตาคู่สวยหันไปมองจ้องเลขาสาวที่กำลังนั่งแต่งหน้าทาปากอยู่ที่โต๊ะทำงานประจำของตัวเอง "ฉันมาหาพี่ภัทรค่ะ" ญาดาหันไปมองจ้องหน้าคนที่เธอเกลียดแสนเกลียด พร้อมกับยิ้มเยาะส่งให้เพียงเล็กน้อย "อยู่ข้างในค่ะ ลมอะไรนะหอบให้มาถึงบริษัทเลย ดีใจที่ได้เจอนะคะคุณลันล์" "ฉันเข้าไปข้างในได้หรือเปล่า?" "เข้าไปได้ค่ะ เพราะภัทรเขาเพิ่งว่างพอดีเลยค่ะ อย่าทำอะไรให้ภัทรหงุดหงิดอีกนะคะ เพราะว่าฉันเพิ่งช่วยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ เหนื่อยเป็นบ้าเลย เฮ้อ..." ไม่พูดเปล่าญาดาถึงกับปัดปกคอเสื้อเผยให้เห็นรอยจ้ำสีแดงปรากฏอยู่บนเนื้อขาวนวลชวนให้สะดุดตา หล่อนตั้งใจให้อีกคนได้มองเห็น ก่อนจะยกแป้งตลับในมือบรรจงซับปิดทับรอยคิสมาร์คที่คณาภัทรเพิ่งฝากเอาไว้ ลันล์ลลิตเมินสายตาออกจากสิ่งที่เห็น หัวใจของหญิงสาวสั่นสะท้านจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ ก่อนจะรีบเปิดประตูห้องทำงานของเขาให้กว้างออกเดินเข้าไปปรากฏตัวตรงหน้าสามีอีกครั้ง คณาภัทรกำลังนอนเอนกายพิงเก้าอี้ทำงานและนอนหลับตาเหมือนกำลังพักผ่อนสายตาอยู่ "ลันล์เอาเอกสารที่พี่บอกว่าลืมไว้มาให้ค่ะ" ใบหน้าหล่อคมคายค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพร้อมกับมองจ้องหน้าภรรยาแต่งด้วยสายตาที่นิ่งเรียบเช่นเคย "ขอบใจ จริง ๆ ให้คนรถเอามาให้ก็ได้ ไม่เห็นเธอต้องมาถึงที่นี่เองเลย" "ทำไมคะ กลัวว่าลันล์จะมารู้มาเห็นงั้นสิว่าพี่ทำอะไรลับหลังลันล์เอาไว้บ้าง?" ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่ง เดินไปยังหน้าต่างเพ่งมองสายตาออกไปยังนอกตึกสูง หันหลังให้กับภรรยาที่กำลังยืนมองจ้องเขาอยู่จากทางด้านหลัง "ถ้าคิดจะมาหาเรื่องถึงที่นี่ ก็กลับบ้านไปเลยไป" "ทำไมเหรอคะ เพราะลันล์ไม่เคยยุ่ง ไม่เคยวุ่นวายกับชีวิตพี่ พี่เลยคิดว่าจะทำอะไรกับใครที่ไหนก็ได้แบบนี้ใช่ไหมคะ?" คณาภัทรหันหน้ากลับมามองจ้องดวงตาไม่กระพริบ เธอก็กำลังมองจ้องหน้าเขาอยู่เหมือนโกรธจัด "แล้วมันจะทำไม ฉันจะทำอะไรกับใครมันก็ไม่ผิด เธอเป็นแค่เมียนะ ไม่ใช่เจ้าชีวิตของฉันลันล์ลลิต!" "ลันล์รู้ค่ะว่าไม่ใช่เจ้าชีวิตของพี่ แต่พี่ภัทรช่วยให้เกียรติลันล์หน่อยไม่ได้เหรอคะ นั่นมันเลขาหน้าห้องนะ ที่นี่เป็นที่ทำงาน มันไม่ใช่สถานที่ที่พวกพี่จะมาสมสู่กันแบบนี้นะคะ" "ฉันจะทำอะไรที่ไหนก็ได้ เพราะที่นี่ฉันเป็นเจ้าของ ไม่มีใครกล้ามาว่าอะไรฉันทั้งนั้น แม้แต่เธอก็เถอะลันล์ลลิต!" "ลันล์เคยขอแล้วใช่ไหม ว่าให้พี่เลิกยุ่งกับเลขาคนนั้นซะ พี่กับเขาจะมีความสัมพันธ์กันมาก่อนที่เราจะแต่งงานกันลันล์ไม่ว่า แต่ตอนนี้พี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนไหนแล้วนะคะ พี่ควรรู้ตัวเองไหมว่าตัวเองแต่งงานแล้วนะ" "แต่งงานแล้วมันยังไง ฉันก็เป็นฉันแบบนี้แหละ ฉันพอใจจะเอากับใคร พอใจจะนอนกับใคร ฉันก็จะทำแบบนั้น ทำไม! คิดว่าตัวเองมีทะเบียนสมรสแล้วฉันต้องให้เกียรติมากงั้นสิฮะ? จะไปฟ้องพ่อฟ้องแม่งั้นสิ?" "ลัลล์ไม่บอกหรอกค่ะ เพราะลันล์ไม่ใช่คนขี้ฟ้อง ลันล์ไม่มีวันเปลี่ยนใจพี่ได้เลยใช่ไหมคะ ไม่มีวันไหนที่พี่ภัทรจะรักลันล์จริง ๆ ได้เลยใช่ไหมคะ?" คณาภัทรจับจ้องมองดวงตาที่แดงก่ำของภรรยาสาวไม่วางตา แววตาที่หญิงสาวจ้องมองมานับวันเขาก็รู้สึกว่ามันดูน่าสงสาร แต่เพราะนิสัยตัวเองเป็นแบบนี้เลยไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร เขายังชอบชีวิตที่เป็นอิสระ ยังชอบทำอะไรที่ตามใจตัวเองได้ไม่ต้องขออนุญาตใครทั้งนั้น แล้วกับคนตรงหน้าทำไมเขาต้องแคร์ ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างสอดเข้าในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง จับจ้องมองหน้าภรรยากลับด้วยสายตาที่ดุดันเช่นเคย "พูดจบหรือยัง กลับไปสิฉันจะได้ทำงานต่อ ไม่ต้องมาบีบน้ำตาให้เห็นได้ไหม มันน่ารำคาญลูกตา มันไม่ได้น่าสงสารนะลันล์ลลิต แต่มันน่าสมเพช! เธอคิดว่าผู้ชายแบบฉันต้องรู้สึกอะไรกับเมียแต่งแบบเธองั้นสิ? วันแรกไม่ได้รู้สึกรักยังไง วันนี้ก็ยังไม่ได้รู้สึกรักเหมือนเดิมนั่นล่ะ พอใจหรือยัง กลับไปได้หรือยัง?" "ค่ะ ลันล์จะกลับ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะ ลันล์จะได้จำเอาไว้ ลันล์จะย้ำเตือนตัวเองเอาไว้ วันนี้ถ้าลันล์ยังอยู่ แสดงว่าลันล์ยังรักพี่อยู่นะคะ" พูดจบเพียงเท่านั้น ลันล์ลลิตก็รีบเดินหันหลังให้กับสามีไปอีกครั้ง ก่อนที่ประตูห้องทำงานจะถูกปิดลง ความเงียบและสายตาคมมองจ้องแผ่นหลังของภรรยาที่หายลับไปกับตา เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่อธิบายได้ยาก เขารู้สึกเช่นไรกับเธอกันแน่นะ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม