ธีสิสย่างสามขุมเข้าไปหาไมอาที่มีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเปิดเผย มุมปากหยักเหยียดยิ้มอย่างพอใจเมื่อเจออาหารที่ถูกใจ มือเล็กของไมอาดันไหล่แกร่งออกห่าง กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ เจือกลิ่นน้ำหอมราคาแพงทำหัวใจดวงน้อยสั่นไหวได้ไม่ยาก
ดวงตาคมกริบปรายมองมือเล็กเพียงนิด ก่อนจะปัดออกอย่างไร้เยื่อไย มือหนาจับข้อมือเล็กตรึงลงเตียงนอนส่วนตัวเองคร่อมอยู่ข้างบน การกระทำอุกอาจสร้างความตกใจให้แก่คนใต้ร่างไม่ใช่น้อย
“พะ…พี่ธีสิสอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” เธอไม่เคยใกล้ชิดเขาขนาดนี้มาก่อน อย่างมากแค่ตอนไปสนามแข่งหรือไปดื่มกับพวกเพื่อนๆ จะนั่งข้างกัน แต่ไม่เคยใกล้จนใจสั่นขนาดนี้ เธอเบือนใบหน้าหนีไปทางอื่นพร้อมกับเม้มปากแน่น
“กลัวเหรอ ตัวสั่นเชียว”
“ขอร้องนะคะ อย่าทำแบบนี้เลย”
“เธอขอร้องผิดคนแล้วมั้ง” เขาพูดจบก็เลื่อนมือไปบีบคางของไมอาแน่นแล้วดันให้กลับมามองหน้าเขา
ไมอาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วเย็นเฉียบกดลงบนผิวเนียนของเธอ ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น ธีสิสมองเธอราวกับเหยื่อที่กำลังดิ้นรนหนีจากกรงเล็บนักล่า
ธีสิสหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนโน้มใบหน้าลงใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดข้างแก้ม
“รู้ไหมว่าฉันชอบเวลาที่เห็นเธอทำหน้าตาแบบนี้มากที่สุด” น้ำเสียงเขาเจือความเย้ยหยัน
“ไมอาไม่ได้อยากเป็นของพี่…” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ในเมื่อพ่อเธอเซ็นยกเธอให้ฉันปแล้ว”
เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่ก็ไม่สามารถทำไม่ได้ ดวงตากลมโตเริ่มคลอไปด้วยหยาดน้ำ
ธีสิสจ้องมองเธอ ราวกับกำลังอ่านใจเธออยู่ ก่อนที่มือหนาจะค่อยๆ คลายแรงลงจากข้อมือเธอ และผละออกจากร่างเล็กในที่สุด ไมอาหลุดหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ยังคงระแวดระวัง เขายังนั่งอยู่บนเตียง มองเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
“อยากกลับไหม?” เขาถามเสียงเย็น
เธอพยักหน้าทันที
“ประตูอยู่ตรงนั้น ถ้าเธอก้าวออกไปแล้ว…ไม่มีสิทธิ์กลับมาอีกแล้วนะ”
เธอนิ่งชะงักลงไป ทำไมเขาถึงปล่อยเธอไปง่ายดายขนาดนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าพ่อเซ็นยกเธอให้เขาแล้ว ประโยคนั้นของธีสิสทำให้เธอครุ่นคิด และจู่ๆ ประโยคหนึ่งของพ่อที่เคยพูดก็ฉายเข้ามาในหัว ราวกับกำลังเตือนความทรงจำเธออยู่
‘แกเลิกต่อปากต่อคำสักทีไมอา! ถ้าแกไม่ยอมไปบ้านหลังนั้นที่ตากับยายแกอยู่ฉันจะขายทิ้งซะ! ดูสิว่าคราวนี้แกจะทำยังไง!’
เธอช้อนสายตามองธีสิสที่ยืนหันหลังเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมองออกไปข้างนอกห้อง มือเล็กจิกผ้าปูที่นอนแน่น ที่เขาพูดเมื่อครู่ เพราะเขารู้ว่ายังไงเธอก็คงไม่ยอมเปิดประตูบานนั้นออกไปแน่ๆ
“…ไมอาต้องอยู่แบบนี้ไปนานแค่ไหนคะ”
ประโยคนั้นของไมอาเรียกรอยยิ้มมุมปากจากธีสิสได้ไม่ยาก ชายหนุ่มไม่ได้หันมามองหากแต่ขยับริมฝีปากตอบกลับแค่นั้น
“จนกว่าฉันจะเบื่อ”
“นานแค่ไหนคะที่พี่ธีสิสจะเบื่อไมอา”
“ฉันเป็นคนเบื่อง่าย”
“ละ…แล้วไมอาต้องทำอะไรบ้างคะ”
คราวนี้ธีสิสหมุนตัวกลับไปมองไมอาที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงนอนด้วยแววตาหวาดหวั่น ชายหนุ่มก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปหาไมอาอีกครั้ง มือหนาเชยคางมนขึ้นเล็กน้อย สายตาคมกริบมองใบหน้าสวยหวานไร้ที่ติ ดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตารับกับหน้าม้า ทั้งสวย น่ารัก และดูเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน
“หน้าที่ของเธอ แค่นอนเป็นที่ระบายอารมณ์บนเตียง แค่นั้นพอทำได้ไหม?”
“ตะ…แต่ไมอา…” เธอหลุบตาต่ำลงพร้อมกับน้ำเสียงที่ค่อยๆ แผ่วเบา ก่อนจะขยับริมฝีปากพูดต่อโดยไม่สบสายตากับธีสิส “ไม่เคย”
คำตอบจากไมอาทำธีสิสประหลาดใจ ทว่าในเวลาเดียวกันก็ไม่อยากปักใจเชื่อเต็มร้อยว่าเป็นความจริง มือหนาปล่อยลงจากคางมนมาล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ
“ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ก่อนสิ”
“…” เขาคงไม่เชื่อเธอหรอก เธอเองก็เที่ยวกลางคืนและชอบดื่มกับเพื่อน แต่ใช่ว่าคนที่เที่ยวกลางคืนจะต้องผ่านเรื่องบนเตียงมาอย่างช่ำชองนี่ เธอไม่ปริปากเถียงเพราะจะเชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเขา
เฮือก! เธอสะดุ้งโหยงเมื่อเขาใช้หลังมือเย็นเฉียบสัมผัสลงหัวไหล่ เมื่อเธอขยับเขาก็เปลี่ยนเป็นจับไว้แน่นจนเธอต้องนั่งนิ่งๆ ให้เขาสัมผัสตามใจ
“ผิวเนียน ขาว…” จังหวะที่เขาโน้มใบหน้าลงมาสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอทำให้เธอเบือนใบหน้าหนีไปทางอื่นตามสัญชาตญาณ “ตัวก็หอม”
“…” เธอนั่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปไหน การกระทำเมื่อครู่บวกกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากลมหายใจอุ่นทำหัวใจของเธอเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
ไมอาลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หัวใจสั่นระรัวทั้งเพราะความกลัวและความไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ตรงหน้า
ธีสิสเลื่อนใบหน้าออกมามองเธอตรงๆ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่กำลังสั่นระริก เขาไล้ปลายนิ้วไปตามแนวไหล่เปลือยของเธอช้าๆ
“ขอฉันเช็กของหน่อยได้ไหม”
“ชะ…เช็กของ? ว๊าย! พี่ธีสิส!” เธออุทานร้องเสียงหลงเมื่อเขาผลักให้นอนราบลงไปกับฟูก หัวใจดวงน้อยเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะกระดอนออกมาจากขั้ว เธอยกมือดันแผงอกแกร่งแต่กลับถูกจับกดลงเตียง “ไมอายังไม่พร้อม”
“เธอไม่ได้มีตัวเลือกมากขนาดนั้น”
“แต่พี่ธีสิสทำไม่ถูก”
“อย่าลืมสถานะของตัวเองตอนนี้สิไมอา”
“ไมอาไม่ได้ลืม…” เธอตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พลางเบือนใบหน้าไปทางอื่น เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีตัวเลือกมากมายอย่างที่เขาบอก เพียงแค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม ‘เป็นของเขา’
“นอนนิ่งๆ ให้ฉันเช็กของ”
เธอทำใจนอนนิ่งๆ ให้เขา ‘เช็กของ’ ตามต้องการ จังหวะมือหนาลูบไล้ไปตามร่างกายทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เนื้อตัวพลอยสั่นเกร็งตามไปด้วย
“ถอดเสื้อผ้าของเธอออกซะ”
“พี่ธีสิส…”
“ห้ามต่อรอง”
ธีสิสผละตัวออกจากร่างบาง สายตาคมกริบมองหญิงสาวอย่างไม่กดดัน ไมอาค่อยๆ ดึงตัวขึ้นมานั่งแล้วถอดชุดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอเม้มปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงพร้อมกับก้มหน้าด้วยความกระดาก ทว่าเธอไม่มีตัวเลือกมากมายนัก ถ้าไม่ยอมอีกคนอาจจะไม่พอใจแล้วใช้อารมณ์นำพา
ตอนนี้ร่างกายของไมอาเหลือเพียงชั้นในสองชิ้นที่ปกปิดความสวยงาม โดยท่อนบนเธอใส่เป็นบราเกาะอกและท่อนล่าง…แพนตี้ลายลูกไม้สีขาว
“ทีนี้ก็…อ้าขาออก”
“พี่ธีสิส…” เธอเรียกชื่อเขาแผ่วเบาราวกับขอให้เขายังมีเมตตากับเธออยู่บ้าง
“จะอ้าเองดีๆ หรือจะให้ฉันทำเอง?”
“ไหนพี่ธีสิสบอกแค่จะเช็กของไงคะ”
“เลือกเอาระหว่างถอดหมดกับเหลือไว้แค่นี้” เขาให้ตัวเลือกไมอาได้แค่นั้น คราวนี้สายตาจับจ้องคนตรงหน้าอย่างกดดัน
ไมอาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ‘ยอมทำตามคำสั่ง’ เธอค่อยๆ แยกขาออกจากกันจนเผยให้เห็นกลีบอวบอูมที่ดันแพนตี้ลายลูกไม้สีขาว ธีสิสมองแค่นั้นก็เริ่มหอบหายใจหนัก นัยน์ตาที่เคยมองไมอาค่อยๆ ดำมืดลงแฝงไปด้วยอารมณ์ปรารถนา
สวยไปหมด…
“พะ…พอรึยังคะ”
ธีสิสไม่ตอบ สายตาช้อนมองไมอาที่เริ่มหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือหนาเลื่อนไปหมายจะสัมผัสความสวยงามที่ซ่อนอยู่ใต้แพนตี้ลายลูกไม้ หากแต่ไมอากลับหุบขาเข้าหากันอย่างไว
“พี่ธีสิสบอกแค่จะเช็กของไม่ใช่เหรอคะ”
“อ้าขาออก”
“พี่ธี…”
“อ้า ขา ออก” คราวนี้เขาย้ำเสียงเข้มจนแววตาไมอาไหววูบ เธอค่อยๆ แยกเรียวขาออกจากกันอีกครั้ง เขาใช้มือสัมผัสจุดอ่อนไหว ลูบไล้ไปมาตรงติ่งเกสรที่นูนออกมาเล็กน้อยด้วยอารมณ์กระสัน
“อึก” เธอกระตุกเบาๆ ตอนที่ถูกเขาสัมผัสตรงนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่โดนผู้ชายจับส่วนจุดลับที่หวงแหน มันรู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสือนับพันตัวกำลังบินวนตรงท้องน้อย
ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต…
ยิ่งเขาคลึงหนักมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกว่ากางเกงในเปียกแฉะมากขึ้นเท่านั้น เธอเม้มริมฝีปากแล้วหันไปทางอื่นเพื่อซ่อนความรู้สึกตอนนี้จากสายตาเสืออย่างเขา จะบอกว่ารู้สึกดีก็ไม่เชิง จะบอกว่าเสียวจนทรมานและไม่อยากให้เขาหยุดทำก็อาจใช่ เธอไม่ควรรู้สึกแบบนี้สิ
“หึ แค่เอานิ้วลูบก็แฉะแล้วเหรอ” เขาพูด พลางกระตุกยิ้มมุมปาก ไมอาทำให้เขาเกือบหน้ามืดตามัวกระชากแพนตี้ลายลูกไม้สีขาวนั่นออกแล้ว
“…” เธอไม่ตอบ ค่อยๆ หุบขาเข้าหากันเมื่อเขาหยุดการกระทำดังกล่าว ในใจแอบรู้สึกเสียดายแต่ก็ไม่กล้าปริปากขอให้เขาทำต่อ
“ฉันจะเห็นแก่ที่เธอเป็นเพื่อนของเมียเพื่อนฉัน ฉันให้เวลาเธอคิดถึงพรุ่งนี้”
เธอมองหน้าเขาแล้วนิ่งเงียบ
“ถ้าเปลี่ยนใจ…ก็คลานสี่ขาเข้ามาหาฉัน”