ไม่นานเกินรอ วันรุ่งขึ้นกัญจน์ก็โทร. มานัดเธอให้ไปที่บริษัทของเขา ราวกับอดใจรอที่จะหย่าขาดจากเธอไม่ไหวแล้ว
“มาเจอกันบ่ายสามวันนี้” น้ำเสียงเอ่ยทั้งห้วนทั้งสั้น
“ตกลง” มธุมาสตอบรับอย่างไม่ลังเล ขอบตาแดงระเรื่อ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยสักหยด
คงเพราะเมื่อคืนหลังจากขนของออกจากเรือนหอกลับถึงบ้านตัวเองแล้ว เธอก็ขังตัวอยู่แต่ในห้อง ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจและความทุกข์ทนทั้งหมดผ่านห่าน้ำตาและเสียงกรีดร้องคร่ำครวญ มีแรงเท่าไร อยากตะโกนหรือด่าทอก็ใส่ไม่ยั้ง
ร้อง...เสียให้สะใจ!
เพิ่งจะหยุดก่อนหน้าที่ชายผู้สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับเธอจะโทร. เข้ามาเพียงไม่นาน มธุมาสจึงตระหนักได้ว่าเวลาของเธอหมดแล้ว คิดในแง่บวกความผิดหวังเสียใจและเจ็บช้ำน้ำใจต่างๆ ที่ได้รับมาตลอดก็จะหมดตามไปด้วย
เธอไม่ต้องทนแบกรับความเจ็บปวดใดๆ อีกแล้ว...
แล้วเธอจะมัวเศร้าอยู่ทำไม?
หญิงสาวเดินมาหยุดยืนหน้ากระจก เพ่งมองสภาพย่ำแย่ของผู้หญิงตรงหน้าแล้วรับไม่ได้อย่างแรง ใบหน้าที่แสนน่าเกลียด จมูกแดงทั้งโตทั้งบาน ตาแดงก่ำแถมยังบวมเหมือนลูกวอลนัต ผมเผ้ารุงรังเหมือนอีเพิ้ง ทำเอาเธอผงะ
ผู้หญิงที่น่าสังเวชใจคนนี้คือใคร?
เธอหรือ?
ใช่...คุณหนูมธุมาส พลประภา แสนหยิ่งทะนงตน ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครมาตั้งแต่เกิด?
น่าสมเพช!
มธุมาสเม้มปากแน่น จ้องมองตัวเองอย่างดุร้าย น้ำตายิ่งไหลพรากรับตัวเองในสภาพนี้ไม่ได้เลย มันน่าหดหู่ใจเกินไป...
แค่เพราะผู้ชายคนเดียว ทำให้เธอจะเป็นจะตายได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?
ไม่! นี่ไม่ใช่เธอ!
เธอเกลียดผู้หญิงในกระจกเข้าไส้ เกลียดจนทนไม่ได้ต้องรีบยกมือปาดน้ำตาขยี้ใบหน้าตามแรงอารมณ์ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นอย่างทะนง แม้หน้าเธอจะแดงเถือกไปหมดจนน่ากลัว แต่ก็สร้างความพึงพอใจให้แก่เธอมากกว่าเป็นไหนๆ เมื่อเห็นแววตาดื้อรั้นไม่กลัวใครวาววับส่องประกายอย่างกล้าหาญเฉกเช่นตัวเธอคนเดิม
คนเราเมื่อทุกข์ถึงที่สุด จะเกิดความท้อแท้เสียใจและสูญสิ้นความหวังทั้งหมดไป เมื่อนั้นถึงอยากจะยึดไว้แค่ไหนก็ต้องปล่อย อยากจะถือก็ต้องวางมันลง เพื่อให้ตัวเองสามารถก้าวเดินต่อไปได้
สำหรับเธอก็คือช่วงเวลานี้...
มธุมาสเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เพิ่งเก้าโมง ยังมีเวลาเหลือเฟือให้เธอเตรียมตัว สองขาเดินอ้อยอิ่งเข้าห้องน้ำ อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ แต่งเนื้อแต่งตัวให้สวยสดใสเปลี่ยนลุกโฉบเฉี่ยวที่ใครมองก็ต้องเหลียวหลัง ก่อนจะสวมรองเท้าส้นสูงออกจากบ้าน แวะทานอาหารร้านโปรดให้สบายใจก่อน จากนั้นจึงขับรถไปตามที่นัดหมายอย่างไม่เร่งรีบ