“จัดการอารมณ์ของเธอให้ดี เข้าไปได้แล้ว”
เขากระชับอ้อมแขนแนบแน่น สัมผัสได้ถึงร่างกายที่โงนเงนว่างเปล่าของคนในวงแขน คล้ายกับเธอหมดใจกับใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง...
หมดใจ... กับใคร?
เขาหรือ?
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหยัน แม้ในใจจะบังเกิดความรู้สึกตรงกันข้าม แต่เขาไม่เชื่อและไม่มีทางเชื่อว่ามธุมาสจะตัดใจจากเขาได้
มธุมาสรักเขา!
กัญจน์รู้และมั่นใจ...
พวกเราอยู่ด้วยกันมาครึ่งชีวิต ตั้งแต่เริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ความรักความผูกพันที่มีต่อกันลึกซึ้งยาวนาน มีเรื่องราวทั้งร้ายทั้งดีติดอยู่ในความทรงจำที่ยากจะลบเลือน ไม่มีทางที่ใครคนใดคนหนึ่งพูดว่าจะตัดก็ตัดได้ฉับ
แม้แต่เธอหรือตัวเขาเอง...
ทั้งที่ใจอยากเกลียด แต่...ก็ทำไม่ได้!
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย คุณย่ากำลังมองมาทางเรา”
เขาก้มกระซิบข้างหูแล้วกดจูบข้างขมับหนักๆ หนึ่งที ภายนอกเหมือนกำลังแสดงความรักของคู่สามีภรรยา แต่แท้ที่จริงแล้วเขากำลังข่มขู่เธออยู่ต่างหาก
มธุมาสหลุบตาลงต่ำ ไม่ต้องการเผยให้คนข้างกายรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าคุณหญิงจรรยา รอยยิ้มหวานปานน้ำผึ้งก็แต่งแต้มบนริมฝีปากอิ่มอมชมพู สีหน้าเบิกบานราวกับไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอันใด
“สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณย่า”
คุณหญิงใหญ่วัยชราผู้น่าเกรงขามคลี่ยิ้มเอ็นดูหลานสะใภ้ ก่อนจะละสายตามองมายังหลานชายที่เรียกขานนาง
“คุณย่าครับ ปีนี้ผมกับมาร์มีของขวัญชิ้นพิเศษมาให้คุณย่าด้วย เราตั้งใจเลือกกันมากเลย หวังว่าคุณย่าจะชอบ”
มธุมาสมองคนที่พยักพเยิดส่งซิกให้เธอ มือก็บีบกล่องไม้จนข้อนิ้วขาวซีดอีกครั้ง พยายามข่มอารมณ์อย่างสุดกำลัง
“มาร์ มีอะไรรึเปล่าลูก” คุณหญิงจรรยาเอ่ยถาม รู้สึกได้รางๆ ว่าหลานสะใภ้ผิดปกติ
มธุมาสไม่ทันตอบ หลังของเธอก็ถูกมือหนาของสามีผลักให้ก้าวออกมายืนข้างหน้า เธอเม้มปากนิดหนึ่งแล้วคลี่ออกเป็นรอยยิ้มกว้าง พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้กับท่าน
“ขอให้คุณย่ามีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานนานๆ นะคะ”
“ขอบใจนะลูก”
คุณหญิงใหญ่รับกล่องไม้แกะสลักมาลูบๆ คลำๆ ด้วยความพึงพอใจ พอเปิดฝาออกดวงตาก็เปล่งประกาย เมื่อเห็นหยกสีเขียวเนื้อดีแกะสลักเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมที่นางเคารพสัการะอยู่เป็นประจำ การแกะสลักนั้นประณีตมาก เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เนียนกริบสมบูรณ์แบบ เนื้อหยกสีเขียวมรกตน่าจะเป็นหยกพม่า ซึ่งหายากและสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
“สวยมากลูก หยกดีเนื้อง้ามงาม ถูกใจย่าที่สุด เดี๋ยวจะให้คนนำไปขึ้นหิ้งบูชา” ยิ้มรับหลานสะใภ้ ก่อนจะตีหน้าขรึมบอกหลานชายว่า
“แกโชคดีแค่ไหนแล้วตากัญจน์ที่ได้หนูมาร์มาเป็นคู่ครอง ผู้หญิงดีๆ แบบนี้หายาก แกควรจะจับน้องให้อยู่หมัด ส่วนแม่ผู้หญิงกเฬวรากพรรค์นั้น แกควรจะเลิกไปได้ตั้งนานแล้ว”
กัญจน์หน้าตึง แม้คำพูดของคุณย่าจะเป็นไปในเชิงกว้าง แต่ความหมายนั้นชัดเจนตรงตัว ตราบใดที่ท่านยังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของตระกูลวัสวัตธาดา พิมพ์รวีจะไม่มีวันแต่งงานเข้ามาเป็นศรีสะใภ้ของท่านได้เป็นอันขาด
“หัวใจคนเรามันบังคับกันได้ด้วยเหรอครับ” เขาย้อนถามเสียงเรียบ