ล่อลวงรัก 1 มรสุมชีวิต
ล่อลวงรักคุณอามาเฟีย 1 มรสุมชีวิต
สายลมในต้นเดือนมกราคมที่พัดเอาความเย็นโชยมากระทบใบหน้าหวานที่ตอนนี้ทั้งสองแก้มเนียนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
ทิพย์ธารา หรือน้ำมนต์หญิงสาวในวัยยี่สิบเอ็ดย่างยี่สิบสองปีที่วันนี้เธอได้รับข่าวร้ายจากโรงพยาบาลที่แจ้งมาบอกว่าพ่อเธอมีอาการไม่ค่อยดีและทรุดลงเรื่อยๆสาเหตุเป็นเพราะโรคมะเร็งและโรคที่รุมเร้าเข้ามาอีกหลายโรค
ปีสองปีมานี้นี้ทิพย์ธาราเธอเจอแต่เรื่องไม่ดีเข้ามาในชีวิตของเธอมาตลอด ในช่วงต้นมกราคมเมื่อปีที่แล้วเธอเพิ่งเสียแม่ไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ และมาในตอนนี้เธอก็ยังได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลมาอีกว่าพ่อของเธอที่ป่วยมาหลายปีตอนนี้มีอาการโคม่าต้องผ่าตัดด่วน มันทำให้เธอต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษาพ่อครั้งนี้
"เกิดอะไรขึ้นกับแกน้ำมนต์ ทำไมมานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้" เสียงมุกมณี หรือไข่มุกเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอถามขึ้น
"เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"
"ไม่มีได้ยังไงร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้ มีอะไรให้ฉันช่วยบอกมาได้เลย"
"ขอบใจแกมากนะไข่มุก ตั้งแต่เรียนมาจะสี่ปีแล้วแกช่วยเหลือฉันมาตลอดเลย"
"ก็เราเป็นเป็นเพื่อนกันนี่ ฉันยินดีช่วยแกทุกเรื่องนะน้ำมนต์ หรือแกไม่ให้ฉันช่วยถ้ามีอะไรหนักใจระบายออกมาได้เลยฉันพร้อมรับฟังเสมอ"
ทิพย์ธาราตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มุกมณีฟัง แต่ครั้งนี้เธอจะไม่รับความช่วยเหลือจากเพื่อนแล้ว เพราะตลอดระยะเวลาสามปีกว่าๆที่ผ่านมามุกมณีหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เธอมาตลอด
ไม่ว่าจะเป็นงานศพของแม่เธอ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในบางเดือนที่มุกมณีแอบช่วยเหลือโดยการโอนเงินไปให้พ่อของเธอ ซึ่งหญิงสาวได้มาทราบตอนที่เธอได้โทรไปคุยกับพ่อ แต่ครั้งนี้เธอรับความช่วยเหลือจากเพื่อนไม่ได้จริงๆยิ่งเพื่อนดีแสนดีกับเธอมากเท่าใดเธอก็ยิ่งเกรงใจมากเท่านั้น
"โห ผ่าตัดเหรอใช้เงินเยอะมากเลยนะ แกจะหามาจากไหนทัน เอากับฉันไปก่อนเถอะ"
"อย่าเลยไข่มุก ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะรับถ่ายแบบเพิ่มดีไหม"
"มันไม่พอหรอกน้ำมนต์ แกเอากับฉันไปก่อนชีวิตพ่อแกสำคัณกว่าที่จะมานั่งเกรงใจฉันแบบนี้นะ เรียนจบมีงานทำแล้วแกค่อยทยอยเอามาคืนฉัน" มุกมณียังคงยืนยันที่จะช่วยเหลือเพื่อน
"ฉันขอบใจแกจริงๆไข่มุก แต่ครั้งนี้ฉันรับไม่ได้จริงๆฉันว่าจะลองติดต่อพี่แยมมี่ไปเรื่องถ่ายงาน"
"ถ่ายแบบนู้ดที่แกเคยบอกอะหรอ"
"อืม...มันก็ไม่โป๊ถึงขั้นแก้หมดหรอกฉันว่าจะไปคุยกับพี่แยมมี่ก่อนว่าดีเทลมันจะประมาณไหน"
"จะเอางั้นจริงๆหรือน้ำมนต์"
"มาถึงขั้นนี้แล้วฉันคงต้องลองดู ช่วงบ่ายฉันไม่เข้าคลาสฝากแกแลคเชอร์ให้หน่อยนะไข่มุก"
"อื้อ ได้สิ โชคดีนะแกได้ความว่ายังไงส่งข่าวฉันด้วยนะ"
"ได้จ้า ฉันไปละ"
ทิพย์ธาราตัดสินใจที่จะไม่เข้าเรียนตอนบ่าย เธอติดต่อไปหาแยมมี่สาวประเภทสองคนที่เคยติดต่องานถ่ายแบบให้เธอในตอนแรกและหญิงสาวก็ได้ลองดูปรากฏว่าเธอทำออกมาได้ดี และทิพย์ธาราก็ได้เงินจากส่วนนั้นมาเป็นค่าเทอมและรักษาพยาบาลของพ่อเธอมาตลอด
ทิพย์ธาราเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยผิวพรรณดีบวกกับหุ่นที่แสนจะเซ็กซี่สมส่วนทำให้แยมมี่ที่เจอเธอเมื่อตอนไปเดินที่สยามได้ชักชวนมาถ่ายแบบชุดให้กับแบรนด์ต่างๆ
เมื่อทิพย์ธาราได้ลองรับงานดูปรากฏว่าเธอทำออกมาได้ดี ถ่ายแบบออกมาได้สวย แยมมี่เห็นหุ่นและรูปร่างเธอสวยขนาดนี้จึงได้ลองชักชวนเธอไปถ่ายแบบวาบหวิวอยู่บ่อยครั้งแต่ทิพย์ธาราเธอก็ปฏิเสธไปทุกครั้งเช่นกัน
แต่มาครั้งนี้ทิพย์ธาราเธอจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ หญิงสาวจึงต้องใช้ร่างกายของตัวเองหาเงินให้ได้เยอะที่สุด และที่สำคัญการถ่ายแบบนี้มันก็ไม่ได้เปลือยหมดสักหน่อยอีกทั้งคนที่มองหรือพบเห็นเขาก็แค่เห็นไม่สามารถเอาไปได้และมันก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายเธอสึกหรอด้วย
เมื่อคิดได้แบบนี้เธอจึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้างและกล้าที่จะติดต่อแยมมี่ไป โดยทางแยมมี่นั้นนัดเจอกับเธอที่ร้านคาเฟ่ไม่ไกลนัก
"รอนานไหมจ๊ะน้องน้ำมนต์" แยมมี่เดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามกับเธอ
"ไม่นานค่ะพี่แยมมี่"
"ทำไมตัดสินใจง่ายจังรอบนี้ ทุกทีพี่ชวนเราปฏิเสธพี่ทุกครั้งเลย" แยมมี่จีบปากจีบคอพูดด้วยความอารมณ์ดีที่นางแบบสุดสวยของเธอยอมรับงานนี้ได้
"คือ...หนูจำเป็นตัองใช้เงินอ่ะค่ะ"
"ใช้เงิน?"
"ใช่ค่ะ"
"เยอะไหม เอาไปทำอะไร" แยมมี่ถามด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วทิพย์ธาราถ่ายแบบไปแต่ละครั้งก็ว่าได้ไม่น้อยและน้องมันยังเป็นเด็กที่รู้จักใช้เงินพอสมควรจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าหญิงสาวต้องการเอาเงินไปทำอะไร
"ก็เยอะค่ะ พ่อหนูจะผ่าตัดคิดว่าคงใช้เงินเกือบล้านเลยค่ะ"
"เกือบล้านเลยหรอ แต่ถ่ายแบบมันไม่เยอะขนาดนั้นนะถึงจะถ่ายแบบวาบหวิวก็ตาม"
"หนูทราบค่ะ แต่จะทำไงได้ล่ะคะหนูไม่มีวิธีอื่นนอกจากนี้แล้ว พ่อหนูต้องเข้าผ่าตัดอีกสามวันข้างหน้านี้แล้วค่ะ หนูต้องมีเงินสักครึ่งเพื่อจ่ายโรงพยาบาลก่อนก็ยังดี"
"พี่มีวิธีนะ เว้นเสียจากว่าเราจะกล้าหรือเปล่าเท่านั้นแหละ"
"วิธีไหนคะ" แยมมี่ลังเลไปครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกกับเธอ
"คืองี้ พี่มีลูกค้ารายหนึ่งเขาเพิ่งออกมาจากเหมืองที่อเมริกาแล้วบินตรงมาที่ไทยเลย"
"แล้วไงคะ"
"เขากลับมาที่ไทยเมื่อไหร่ต้องมีผู้หญิงคอยบริการเขาเมื่อนั้น และค่าตัวที่เขาเปย์แต่ละทีนั้นหนักเป็นบ้าเลยนะ ดีไม่ดีถ้าถูกใจนี้เป็นล้านเลยนะ"
"ล้าน?"
"ใช่ และถ้าคนไหนที่ทำให้เขาติดใจหรือชอบใจมีจ่ายเพิ่มเป็นเท่าตัวเลยแหละ แล้วน้ำมนต์ว่าไงจะรับไหมถ้ารับพี่จะได้ไม่ต้องไปหาคนอื่นให้ยาก"
"......."
"แต่ถ้ายังไม่กล้าก็ไม่เป็นไรแค่ถ่ายแบบก็ได้ พี่เข้าใจแหละเรื่องแบบนี้"
"แล้วถ้าหนูตกลงละคะพี่แยมมี่ หนูจะค้องทำยังไงบ้าง"
"ถ้าหนูตกลง เดี๋ยวพี่ส่งโปรไฟล์ของหนูให้ลูกค้าเลย ส่วนตัวหนูเองต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลว่าเราไม่มีโรคติดต่ออะไร พร้อมกับขอใบรับรองจากแพทย์มาด้วยนะ"
"แค่นี้หรือคะ แล้วเขาจะมาวันไหนคะลูกค้าพี่"
"ลูกค้าพี่เขาจะมาถึงกรุงเทพในวันพรุ่งนี้เย็นๆจ้ะ สรุปที่ถามแบบนี้หนูยอมที่จะทำชัวร์ใช่ไหม" แยมมี่ยังคงถามย้ำเพื่อความมั่นใจกับเธอ
"หนูตกลงค่ะพี่แยมมี่หนูจะรับงานนี้ แล้วเงินหนูจะได้ตอนไหนคะ"
"ถ้าหนูตกลงพี่จะโอนให้หนูครึ่งหนึ่งก่อนคือห้าแสน บาทที่เหลือลูกค้าพี่จะเป็นคนจ่ายหลังจากที่หนูไปเจอกับลูกค้าแล้ว"
"โอเคค่ะพี่แยมมี่ หนูรับค่ะ"
"ได้จ้าน้ำมนต์ เดี๋ยวพี่โอนเงินให้เราเลย"
หลังจากที่แยมมี่จัดการโอนเงินให้กับทิพย์ธาราเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอส่งรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นชื่อ อายุ โรงแรมและเบอร์ห้องของลูกค้าของเธอให้กับทิพย์ธารา
"มิสเตอร์โนอาร์ อายุ50เลยเหรอ" ทิพย์ธารานั่งอ่านชื่อและอายุของคนที่เธอจะต้องเสียความบริสุทธิ์ให้ขณะนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ ซึ่งหญิงสาวกำลังจะไปโรงพยาบาลเพื่อไปตรวจโรคตามที่แยมมี่แนะนำ
ทิพย์ธารานั่งมองออกไปข้างนอกกระจกอย่างไม่มีจุดหมาย ในใจก็คิดภาวนาให้คนที่เธอยอมขายความบริสุทธิ์ให้ในครั้งนี้เขาจงมีความปราณีและไม่รุนแรงหรือซาดิสท์กับเธอเลย