“คุณภูจะสงสัยอะไรดาหวันเหรอคะ”
ดาหวันลอบกลืนน้ำลายลงคอ จะกินข้าวตอนนี้ก็ไม่ลง ในเมื่อภาพมันชัดเจนและเธอไม่อยากนึกถึงเพื่อสมเพชตัวเอง เขามองสภาพเหมือนคนจนตรอก ไม่มีที่จะซุกหัวนอน ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองอยู่อย่างเธอ ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
“ฉันไม่สงสัยอะไรเธอหรอก แต่ที่ฉันอยากรู้แค่ว่าทำไมคนในบ้านหลังนั้นถึงเรียกเธอเป็นเด็กกาฝาก เธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีบ้านอยู่เหรอ ถึงมาอาศัยบ้านคนอื่น ดูท่าคุณหญิงหน้างกคนนั้นคงจะไม่ชอบเธอมากเลย”
“เรียกว่าเกลียดเข้าไส้ เข้ากระดูกดำเลยค่ะ”
“กินข้าวให้อิ่มก่อน แล้วค่อยคุยกัน”
ภูธเนศรู้สึกเป็นห่วงปากท้องของลูกจ้างสาว ดาหวันนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แอบแปลกใจว่าเจ้านายต้อนรับพี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาแต่ละคนดีขนาดนี้เลย เขาเป็นคนเทกแคร์คนอื่นเก่งเสมอ
“อาหารพื้นบ้าน ผักก็เอามาจากสวนผักของคนงานที่ปลูกกันแบ่งมาให้กิน ดาหวันกินได้หรือเปล่า”
“ตอนนี้อะไรก็ได้ค่ะ”
เธอหิวจนตาลาย แทบทั้งวันไม่มีอะไรตกถึงท้อง พ่อเลี้ยงหนุ่มตักอาหารให้เพื่อเป็นการเอาใจ
อาจเป็นเพราะความหิวหรืออาหารวันนี้อร่อยมากกัน ดาหวันจึงซัดกินข้าวจนหมดเกลี้ยง ทำเอาอีกฝ่ายแอบตกตะลึงไม่น้อย รูปร่างเธอผอมเพรียวบาง ไม่น่าเชื่อว่ากินเยอะแต่ไม่อ้วน
“อร่อยหรือเปล่า”
ดาหวันปิดปากกลั้นเสียงเรอหลังกินข้าวอิ่มมาก ซ้ำยังอร่อยในรอบสี่ปี ตลอดเวลาอยู่บ้านหลังนั้น เธอต้องคอยกลับมาช่วยงานป้าแพงทุกอย่าง ข้าวกว่าจะได้กินก็นิดเดียว น้ำตาแอบรื้นไหลออกจากดวงตาคู่สวย
“ค่ะ”
“ร้องไห้ทำไม?”
“ฉันแค่รู้สึกมีความสุขที่ได้กินของอร่อย หลังจากไม่ได้กินมาสี่ปี”
“แต่ถ้าอยู่กับฉัน เธอจะได้กินของอร่อย เต็มอิ่ม ไม่รู้สึกอดอยากเหมือนเคยอยู่บ้านหลังนั้น”
ภูธเนศมองผู้หญิงค่อนข้างน่าสงสารคนหนึ่งใหม่ ชายหนุ่มรับฟังจากปากดาหวันว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นเพื่อนสนิทพ่อเธอ ทว่าเกิดอุบัติเหตุบางอย่างทำให้พ่อเธอฝากฝังลูกสาวคนเดียวไว้กับเพื่อนเป็นเวลาสี่ปี รอให้ดาหวันเรียนจบปริญญาตรี และหางานทำตั้งตัวเลี้ยงชีพตัวเองได้ ถึงจะเป็นอิสระจากบ้านหลังนั้น
ยกเว้นภรรยาท่านผู้ว่าฯ ที่ไม่พอใจ พยายามคอยคัดค้านสามีมาตลอด ส่วนลูกสาวแท้จริงนั้น เธอไม่เคยเห็น รู้จากป้าแพงว่าลูกสาวท่านไม่ชอบอยู่บ้าน
“วันพรุ่งนี้จะเป็นวันครบเวลาสี่ปีที่ดาหวันจะอยู่บ้านหลังนั้น แต่...”
“คุณหญิงคนนั้นคงรอเวลานี้มานานก็เลยทำแบบไม่ให้เกียรติกันสินะ”
เมื่อดาหวันก้มหน้าเงียบปากลงพอจะรู้คำตอบว่าสิ่งที่เห็นคือความจริง ภูธเนศฟังแล้วรู้สึกโกรธแทนลูกจ้าง มิน่าล่ะ เธอถึงแบกหน้าขึ้นมาขอความช่วยเหลือเพื่อนของเจ้าตัว เขาสะดุดความสวยของผู้หญิงคนนี้จึงเผลอส่งสายตาโลมเลียแบบนั้น
“วันนี้ไปพักเถอะ เก็บแรงรอรับฤทธิ์เดชความเอาแต่ใจของยัยลินินได้เลย ลูกสาวฉันไม่เคยยอมรับพี่เลี้ยงคนไหน หวังว่าเธอจะเป็นคนแรกที่ปราบพยศลูกสาวฉันได้”
“ฉันว่าการที่เด็กเอาแต่ใจจนพี่เลี้ยงคนก่อนๆ ทนอยู่ไม่ไหวก็อาจเป็นเพราะพวกผู้ใหญ่เลี้ยงตามใจ หรือไม่ก็ขาดความรัก ความอบอุ่นของคนเป็นแม่เอง บางที ลูกสาวของคุณภูอาจจะโหยหาสิ่งนั้นมาเติมเต็มก็ได้นะคะ”
“พูดเหมือนเธอยังมีพ่อแม่อยู่ ทำมาเป็นรู้ดี หรือว่าเล่นตัว ที่ไหนได้ก็อยากเป็นแม่เลี้ยงใหม่ของลูกสาวฉัน”
“ความคิดต่ำๆ ของเจ้านายมองคนแบบนี้ทุกคนเลยเหรอ ไม่แปลกใจเลยที่ลูกสาวคุณจะกลายเป็นเด็กตามใจ”
“ดาหวัน!"
ภูธเนศรวบตัวร่างของพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่เข้าสู่อ้อมกอด อยากรู้ว่าปากหวานของเธอจะเก่งสักกี่น้ำ
“คุณภูมาว่าฉันก่อน ฉันก็มีพ่อแม่ พวกท่านจะยังคอยอยู่ในใจของฉัน เอาคืนเอานิดนึงถึงกับรับความจริงไม่ได้เหรอคะ” ดาหวันเชิดใบหน้าหวานใส่อีกฝ่าย
“ผู้หญิงปากร้ายอย่างเธอ ฉันไม่แปลกใจหรอกว่าไม่มีผู้ชายเอาทำเมีย เพราะฉันก็ไม่เอามาเป็นแม่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาวฉันเช่นกัน”
“ถ้ารังเกียจฉัน แล้วมากอดฉันทำไม?”
ดาหวันเงยหน้ามอง เห็นได้ชัดคำพูดกับสวนทางกับการกระทำ พ่อเลี้ยงหนุ่มรีบปล่อยหญิงสาวเกือบล้มลง ถ้าหากเธอไม่ยึดเอาเก้าอี้เป็นตัวตั้งหลักไว้
“ก็ไม่อยากจับนักหรอก แค่มือมันพาไป”
“ทีหน้าทีหลังก็จับมือของคุณภูเอาไว้ไม่ให้พาไปจับของสาวอื่นที่ไหนอีกนะคะ ฉันขอตัวขึ้นไปพักก่อน”
ภูธเนศสถบตัวเองขณะพ้นจากแผ่นหลังบอบบางของดาหวันกำลังเดินขึ้นบันไดไปพักผ่อนอยู่ห้องชั้นข้างบนบ้าน เขาเตือนสติตัวเองว่าอย่าหลงกับความสวยใสคล้ายกับแม่ของลินิน สุดท้ายผู้หญิงมันก็แพศยาเหมือนกันหมด
“เธอเป็นแค่ลูกจ้างที่มาทำงานเท่านั้น ห้ามคิดอะไรกับเธอเด็ดขาด ไอ้ภู”
…
ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงรุ่งเช้าของวันใหม่
ในฐานะลูกจ้างอย่างดาหวันไม่ควรมานอนกินบ้านกินเมือง แม้จะบรรยากาศยามเช้าจะดีมากแค่ไหน หญิงสาวตื่นตั้งแต่ตีห้า ลงมาช่วยเป็นลูกมือแม่บ้านของที่นี่พร้อมแนะนำตัวว่าเป็นพี่เลี้ยงดูแลลินินที่พ่อเลี้ยงภูธเนศจ้างวาน
พอทำอาหารเช้าตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อยจึงมีเวลาว่างหนึ่งชั่วโมง ดาหวันขออนุญาตแม่บ้านออกไปเดินเล่นสวนด้านนอก เธอออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ไม่มีเหมือนกรุงเทพฯ เหมือนได้พักผ่อนไปในตัว
“คุณภูธเนศ”
ดาหวันเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มวิ่งออกกำลังกายแต่เช้า รูปร่างสมบูรณ์แบบประกอบใบหน้าหล่อคมเข้ม ถึงเขาจะไม่เคยยิ้มกว้าง ทำหน้าโคตรโหดเลย ตอนนี้ใส่เสื้อกล้ามสีขาวพร้อมกางเกงยืดขาสั้นสีดำ เวลาเหงื่อไหลย้อยลงมาทำให้เสื้อเปียกทำเอาเขาแอบเซ็กซี่นิดนึง
ภูธเนศเห็นพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่แอบจ้องมอง ดาหวันรู้ตัวรีบหลบหลังใต้ต้นไม้ใหญ่ ภาวนาว่าอย่าให้เขาวิ่งมาทางนี้ แต่มันก็เท่านั้น เพราะเขาตั้งใจเดินเข้าหาเธอเอง
“ชอบวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนกันเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ คือดาหวันแค่ออกมาเดินเล่นแถวนี้ กำลังจะกลับบ้าน งั้นขอตัวก่อนนะคะ”
“ฉันก็กำลังจะวิ่งกลับเข้าบ้านพอดี เดินเข้าบ้านด้วยกันไหม”
“แต่คนงานในไร่จะมองดูไม่ดี ดาหวันแค่ลูกจ้าง จะมาเดินพร้อมกับเจ้านายได้ยังไงกัน ลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อคืนคุณภูรังเกียจผู้หญิงเห็นแก่เงินทุกคน และดาหวันก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“ฉันจะพาเธอไปแนะนำให้ลูกสาวฉันรู้จัก ป่านนี้ลินินคงตื่นนอนแล้ว เธอคงยอมใช่ไหม?”
ดาหวันมองคนบอกว่ารังเกียจ ทว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบคว้ามือเธอจับไว้พาเดินเข้าบ้านใหญ่ เธออายมากที่เป็นจุดสนใจพวกคนงานในไร่ส้ม กระทั่งเขาเลิกจับมือเมื่อมาถึงบ้านแล้ว ยื่นใบหน้าก้มมองอีกฝ่าย ระบายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บางอย่าง
“จะทำอะไร?”
“แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำอะไร คิดลึกหรือเปล่าล่ะเรา”
“ดาหวันไม่ได้คิดลึก!”
กล่าวจบเชิดหน้าใส่ต่อหน้าเจ้านายหนุ่ม อีกฝ่ายกลับคิดต่าง พ่อเลี้ยงหนุ่มผู้มีหนวดเครารกรุงรังเหมือนลิงกอริลลาสู้กลับยื่นหน้าใกล้ชิดริมฝีปากหวาน
“ไม่ได้คิดลึกแต่เชิดหน้าทำไม?” เขายอกย้อนถาม
“เอาหนวดของคุณภูออกไปให้ห่างไกลตัวจากดาหวัน ไม่ชอบผู้ชายคนมีหนวด สกปรก!”
“รอให้เมียมาโกนหนวดให้ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนก็เลยไว้เคราแบบนั้นแหละ เธอเดือนร้อนอะไรด้วย” กระซิบถามเสียงแผ่วเบา ดาหวันทั้งอับอายทั้งประหม่าที่ถูกพ่อเลี้ยงโรคจิตย้อนศรจนเจ็บใจตัวเอง
“...”
“หรือว่าอยากใฝ่สูงคิดจับฉันทำผัว แต่ฉันไม่เอาหรอก ผู้หญิงอกแบนแบบเธอ ก้นก็ไม่มี ไม่เอาทำแม่พันธุ์แน่นอน”
“หลงตัวเอง! ฉันไม่คิดพิศวาสผู้ชายมีขนเยอะ เที่ยวร้องเย้วๆ ทำตัวเบ่งใหญ่อันธพาลระรานคนไม่มีทางสู้แบบคุณภู ฉันชอบผู้ชายสะอาด ตัวหอม อาบน้ำวันละสิบรอบ”
คนแบบพ่อเลี้ยงเถื่อนไม่ใช่สเปกของดาหวัน หล่อคมเข้ม รวย แต่นิสัยคิดสกปรกลามก เธอก็ไม่เอาทำพันธุ์ กลัวลูกออกมาเหมือนพ่อ
“ไม่ชอบ แต่แอบมองฉันเวลาวิ่งออกกำลังกาย พิสูจน์สิว่าเธอไม่สนใจฉันจริง”
ดาหวันเบี่ยงริมฝีปากหนีจากปากหนากำลังจูบ เลื่อนมาแตะตรงส่วนอื่นแทน อาจเป็นเพราะหนวดเคราสัมผัสซอกคอขาวเนียนหอมกรุ่นทำเอาเธอแสบคัน จนเกิดรอยแดงขึ้นอย่างตั้งใจจากใครบางคน แสดงรอยความเป็นเจ้าของ
“คุณพ่อภู ทำอะไรกันคะ?”
“ลินิน!”
พ่อเลี้ยงภูธเนศทำให้เด็กอายุห้าขวบมาเห็นภาพที่ไม่เหมาะสมเสียแล้ว...