บทที่4 พ่อเลี้ยงลูกติดที่แสนเอาแต่ใจ

1538 คำ
ดาหวันตื่นขึ้นมาเวลาตีห้าครึ่ง เธอบ่นกับตัวเองว่าปล่อยให้หลับต่อหน้าต่อตาเจ้านายคนใหม่ได้อย่างไรกัน หญิงสาวนอนพักอยู่บนเตียงด้วยชุดเดิมตั้งแต่เมื่อวาน และก็ไม่มีใครนอกจากเธอคนเดียว “คุณภู คุณภูธเนศ” ที่นี่คงเป็นโรงแรมของเพื่อนพ่อเลี้ยงภูธเนศ เมื่อคืนเขาอุ้มพาเธอขึ้นมานอน แล้วเจ้าตัวหายไปไหนหรือว่าจะเปิดห้องอื่น ทว่าความสงสัยกลับกระจ่างเพียงเห็นแผ่นกระดาษโน้ตติดไว้บนโต๊ะข้างเตียง ลายมือของเขาเขียนข้อความเองพร้อมส่งตั๋วเครื่องบินรอบเช้า ‘พอดีเมื่อคืนฉันต้องรีบกลับไร่ชรันธรด่วนก็เลยรอพร้อมกลับกับเธอพรุ่งนี้เช้าไม่ได้แล้ว แม่บ้านดูแลหนูลินินส่งข่าวมาบอกว่าลูกสาวฉันเป็นไข้สูง ไม่สบายหนัก ฉันโทรเรียกหมอประจำตระกูลดูแลแล้ว แต่ฉันเป็นห่วงหนูลินิน ส่งตั๋วให้เธอมาทีหลัง ถึงจังหวัดเชียงรายตอนไหนก็ส่งข้อความมาบอก เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับ’ มันก็ถูกต้องแล้ว ที่ภูธเนศเป็นห่วงลูกสาวตัวเอง ดาหวันภาวนาขออย่าให้คุณหนูลินินเป็นอะไรแล้วกัน หลังข้อความสุดท้ายมีช่องทางการติดต่อส่วนตัวของพ่อเลี้ยงหนุ่ม “แค่พ่อของลูกตั้งรับมือแทบไม่ไหว หวังว่าลูกสาวของคุณภูคงจะน่ารัก ใจดี ไม่เอาแต่ใจเหมือนพ่อของเธอหรอก” ดาหวันรีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวชุดใหม่พร้อมออกเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่จัดหวังเชียงราย อิสระของการทำงานต่างจังหวัดเป็นระยะเวลาหนึ่งปีกำลังจะเริ่มต้น หวังว่าจะเป็นการทำงานราบรื่น ไม่มีอุปสรรค นอกจากมีสาวๆ บนดอยติดพันพ่อเลี้ยงหนุ่มเนื้อหอม “คุณภูธเนศสั่งให้ผมมารับคุณดาหวันไปยังสนามบินครับ” ขนาดเจ้าตัวไม่อยู่ก็ยังมีคนของเขากับคนของเพื่อนคอยวนเวียนอยู่รอบตัว ดาหวันชักสงสัยแล้วสิว่าเขาคงไม่ใช่พ่อเลี้ยงธรรมดาที่เป็นเพียงเจ้าของไร่ส้ม มีอำนาจอิทธิพลมากมาย เธอจะมีอำนาจอะไรไปต่อกรกับเขา … ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ดาหวันขบเมื่อยตามตัวร่างกายหลังจากเดินทางยาวนานกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เธอส่งข้อความบอกเจ้านายตอนใกล้จะถึงจัดหวังเชียงราย เหมือนภูธเนศรอคอยข้อความจากเธอจึงอ่านเร็วและตอบเร็ว รถคันกระบะเก่าแล่นเข้ามาจอดตรงหน้าร่างบางที่วันนี้สวมใส่ชุดธรรมดา เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวสวมทับป้องกันแดดร้อน ฝุ่นควัน ชายหนุ่มน่าจะอายุน้อยกว่าเธอสักสองปีลงมาแนะนำตัวว่าเป็นลูกน้องคนสนิทพ่อเลี้ยงภูธเนศส่งมารับพี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ “ผมชื่อไข่ พ่อเลี้ยงภูสั่งผมมารับคุณคนสวยครับ” “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณคนสวยก็ได้ค่ะ ฉันชื่อดาหวัน” “คือรถของพ่อเลี้ยงภูธเนศเสียกะทันหัน เอาไปซ่อมตั้งแต่เมื่อวานยังไม่เสร็จ ในไร่ก็มีแค่รถกระบะคันเดียว คุณดาหวันไม่รังเกียจใช่ไหมครับ” ปกติไข่ทำหน้าเลิ่กลั่ก ความจริงพ่อเลี้ยงภูธเนศก็ส่งรถคันกระบะเก่าๆ รับพี่เลี้ยงเด็กทุกคนที่อยากเข้ามาทำงานที่ไร่ชรันธร ส่วนมากเขาเจอพวกผู้หญิงสวยแต่เปลือก ทว่าข้างในทำหน้ารังเกียจ บางคนอยู่ได้แค่วันเดียวเจอฤทธิ์เดชอาละวาดลูกสาวพ่อเลี้ยงถึงกับหอบเก็บเสื้อผ้าหนีกลับบ้านแทบไม่ทัน แต่พี่เลี้ยงเด็กคนใหม่คนนี้แตกต่างจากพวกผู้หญิงคนอื่นหวังต้องการจีบภูธเนศ เธอเข้มแข็งมากกว่าที่คิด แบบนี้พ่อเลี้ยงก็ตาถึง แล้วลูกสาวของเสี่ยเข้มอย่างคุณฝนทิพย์ส่งข้าวส่งน้ำทุกวัน เจ้าของไร่ภาสร ข้างไร่ของพ่อเลี้ยงจะทำยังไง แค่คิดก็ความวุ่นวายกำลังตามมาคูณสอง “ดาหวันนั่งรถคันนั้นก็ได้ค่ะ” ยืนโหนรถเมล์ไปเรียนประจำสี่ปี ดาหวันก็เคยทำมาหมดแล้ว หรือว่าเขาอยากพิสูจน์พี่เลี้ยงเด็กคนใหม่ว่าจะอดทนได้ดีมากแค่ไหน “งั้นเชิญครับ” ไข่ยกกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอขึ้นท้ายรถ ดาหวันยิ้มรับพลางขึ้นรถกระบะขับเข้ามายังไร่ชรันธรที่มีไร่ส้มพื้นที่กว้างขวาง ข้างไร่ก็เป็นปางไม้ใหญ่ที่สุดแถบภาคเหนือ บ้านใหญ่ของพ่อเลี้ยงภูธเนศ หากไม่มาเห็นกับตาก็คงไม่เชื่อ เทียบเท่าคฤหาสน์หรูหรากับพวกคนรวยกรุงเทพฯ ได้เลยนะเนี่ย พอดีดาหวันมาถึงไร่ชรันธรก็มืดค่ำ เวลาตอนนี้สามทุ่มกว่า รู้อย่างนี้ขอไข่แวะพาร้านสะดวกซื้อ หาอะไรกินรองท้องก็ยังดี เสียงท้องร้องดังขึ้นเพราะเธอรีบร้อนกินเพียงกาแฟดำและขนมปังปิ้งของทางโรงแรมจัดหาให้ กลัวไม่ทันขึ้นเครื่อง ดาหวันลูบท้องตัวเอง กินน้ำเปล่าเพื่อประทังความหิวไปพลางๆ ขณะไข่พาเธอมายังบ้านใหญ่ที่มีไฟเปิดแสงสว่างจากชั้นด้านล่าง “มากันแล้วเหรอ” “ครับพ่อเลี้ยงภู” “เอาของของเธอไปวางไว้บนห้องชั้นบนติดกันกับห้องของลินิน ฉันจัดเตรียมรอเรียบร้อยแล้ว” พ่อเลี้ยงภูธเนศสั่งลูกน้องคนสนิททำงานบนไร่ชรันธร ไข่พยักหน้ารับขนหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าของดาหวันเข้าด้านในบ้านต่อ “เป็นยังไงบ้าง เดินมาทางที่นี่ ดูแล้วอยากเปลี่ยนใจอยากกลับกรุงเทพฯ ตอนนี้หรือเปล่า” “ความจริงฉันชอบบรรยากาศแบบนี้ สงบสุข ได้อยู่ใกล้กับธรรมชาติ ไม่ชอบความวุ่นวายในเมือง หรือว่าคุณภูไม่ต้องการให้ฉันมาอยู่ที่นี่เหรอคะ แล้วทำไมต้องให้ฉันขึ้นไปพักบนห้องเทียบเท่ากับเจ้านาย” “เธอมาเป็นพี่เลี้ยงลูกสาวฉัน อยู่ข้างบนน่ะดีที่สุด จะได้ดูแลลินินสะดวก” ภูธเนศตอบเพื่อให้ดาหวันหายความสงสัย เธอพยักหน้ารับ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปเทียบชั้นกับเจ้านาย เขาทำก็เพราะห่วงลูกสาวของตัวเอง เสียเงินมากเท่าไหร่ไม่ว่า ขอแค่หาคนดูแลลูกแทนเวลาที่เขาออกไปทำงานในไร่ส้มช่วงกลางวัน “คุณภูคงรักคุณหนูลินินมาก” “ใครบ้างจะไม่รักลูกตัวเอง” ‘ถึงมันจะเกิดจากความไม่ตั้งใจ ขาดสติช่วงนั้น แต่เขาสัญญาว่าจะเลี้ยงดูลูกสาวให้เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีภายในอนาคต ฐานะคนเป็นพ่อเฝ้าดูการพัฒนาของลูกสาว'’ “ดาหวันขอโทษค่ะที่พูดแบบนั้นไป คือว่าแล้วแม่ของคุณหนูลินินเขาไม่มาหาลูกตัวเองบ้างเลยเหรอคะ” “อย่าพูดถึงแม่ของลูกสาวฉันอีก ถ้าไม่อยากให้ฉันโมโหเปลี่ยนใจไล่เธอกลับจากไร่นี้” “ค่ะคุณภู” ดาหวันรีบหลบสายตาจากเขาแน่น เพิ่งเห็นเวลาพ่อเลี้ยงหนุ่มโกรธจัดเวลาพูดถึงแม่แท้จริงของลินิน สีหน้าโหดเกรี้ยวกราดมาก เขาคงมีความหลังฝังใจเจ็บปวดกับแม่ของลินินมาก “คลอดลูกแล้วก็โยนทิ้งปัดความรับผิดชอบเหมือนหมูเหมือนหมา ผู้หญิงเห็นแก่ตัวพรรค์นั้นไม่เหมาะสมจะถูกเรียกคำว่าแม่ด้วยซ้ำไป!” “ดาหวันจะไม่พูดเรื่องนี้ให้คุณภูหรือแม้แต่คุณหนูลินินได้ยินนะคะ” ดาหวันขอเก็บปากเอาไว้กินข้าว ใช้ชีวิตตัวเองอย่างสงบสุข ไม่กล้าเอาตัวเองเดือดร้อนเพราะความสงสัยเรื่องเจ้านายลูกติด “ว่าแต่กินอะไรมาหรือยัง หน้าซีดเชียว” “คือ...ดาหวันกินแล้วค่ะ” เสียงท้องร้องดังประท้วงความหิวต่อหน้าเจ้านาย คนเป็นลูกจ้างอับอายรีบลูบท้องตัวเองไปมา ภูธเนศจับมือเธอเดินเข้ามาด้านในห้องโถงกว้าง เขาหิ้วท้องรอกินข้าวพร้อมกันกับดาหวัน “ฉันสั่งแม่บ้านของที่นี่ทำกับข้าวรอ เผื่อว่าเธอจะหิว” “บ้านนี้ไม่มีใครอยู่เหรอคะคุณภู ทำไมเงียบจัง ว่าแต่คุณหนูลินินเป็นยังไงบ้าง” “หมอมาตรวจดูอาการแล้วก็ให้น้ำเกลือหมดกระปุก ตอนนี้นอนพัก พรุ่งนี้เช้าก็คงหายดี ส่วนพ่อแม่ฉันไม่ได้อยู่ประจำที่ไร่ชรันธรหรอก พวกท่านพักอยู่บ้านพักตากอากาศที่ภูเก็ต สวีทกันสองคนทิ้งภาระงานให้ลูกชายคนเดียวทำทั้งหมด นานๆ ทีถึงจะกลับมาบ้าน ทำไม ถามแบบนี้ อยากฝากตัวเป็นว่าที่สะใภ้ชรันธรเหรอ” “เปล่าค่ะคุณภู ดาหวันก็แค่อยากสวัสดีพวกผู้ใหญ่นะคะ มาอยู่บ้านเขาฟรีตั้งหนึ่งปีก็เกรงใจ” เธอโบกมือเป็นระวิง อีกอย่างพ่อเลี้ยงภูธเนศเป็นผู้ชายเจ้าชู้ ทำตัวโรคจิต ซึ่งไม่ใช่สเปกของดาหวัน “เธอรู้ไหมดาหวัน ว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันพาเธอเข้าบ้านใหญ่ พี่เลี้ยงผู้หญิงคนอื่นก็ย้ายอยู่บ้านหลังเล็ก อยากเป็นมากกว่าพี่เลี้ยงลูกสาวฉันไหมล่ะ” “ดาหวันขอกินข้าวก่อนได้ไหมคะ หิวมาก” ภูธเนศมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แพรวพราว จนดาหวันรู้สึกแปลกเกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง พูดออกมาได้อย่างไรว่าอยากเป็นมากกว่าพี่เลี้ยงเด็กลูกสาวเขา ทั้งที่เธอทำงานตามหน้าที่ก็เท่านั้น “ถ้าหากกินข้าวเสร็จ แล้วคุยกันเรื่องของเธอกับบ้านหลังนั้น?” “....” ดาหวันเพิ่งรู้ว่าเขากลายเป็นพ่อเลี้ยงลูกติดที่แสนเอาแต่ใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม