2. อย่านอกใจ

815 คำ
~ย้อนเหตุการณ์กลับไป~ คอนโด "เอยแต่งตัวสวยทุกวันอย่างนี้ จะไม่ให้เราหวงได้ยังไงนะ" พอลส่งน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนทุกวัน ช่วงที่แฟนสาวอย่างเอิงเอยก้าวเท้าขึ้นนั่งรถสปอร์ตคันหรู หลังตามจีบเธออยู่นานจนอีกฝ่ายใจอ่อนเลยตกลงคบหา เขารีบเร่งทำคะแนนเป็นฝ่ายดูแลรับส่งไปกลับระหว่างมหาลัยและคอนโด เป็นเวลาร่วมหลายเดือนผ่านมาแล้ว "ต่อให้ปากหวานขนาดไหน เอยจะไม่หลงกลคนเจ้าชู้อย่างพอลเด็ดขาด" เอิงเอยรีบเก็บสองมือใต้กระเป๋าสะพายบนตักเล็ก เพราะอีกฝ่ายมีอดีตเป็นเสือเจ้าชู้มากเรื่องสตรี กลัวว่าเธอเองจะหวั่นไหวจากคารมเขา ถึงจะตกลงคบหากัน แต่มันก็เพิ่งเริ่มต้นระดับความสัมพันธ์ ไม่อยากรีบร้อนจนทั้งคู่ลืมหน้าที่การเรียน "เราพูดความจริงนะ ถึงจะเรียนด้วยกันตลอด แต่ในคณะก็รู้ๆ อยู่ว่ามีผู้ชายเยอะกว่าผู้หญิงหลายเท่า จะไม่ให้เราหวงคงไม่ได้" "แต่พอลต้องเข้าใจนะ ว่าเอยเป็นแบบนี้มานานแล้ว เราจะกดดันกันให้ลำบากใจกันเปล่าๆ นะ...อย่าลืมสิ" "ครับ แต่อย่านอกใจเรานะ เพราะเราอยากคบกับเอยจริงๆ " เขาไม่อาจละสายตาจากใบหน้าสวยราวตุ๊กตา ดวงตาคู่โตเป็นประกายรับกับเรียวปากสีชมพูสดใส มันพาให้ใจแกร่งเต้นสั่นระรัวเวลาเธอสบตามองกันพอดี "ตั้งแต่เอยคบกับพอลก็ไม่มีใครมาจีบแล้วนะ แล้วเอยไม่ใช่คนเจ้าชู้ด้วย ไม่มีทางนอกใจแฟนตัวเองแน่ๆ" "จริงนะ ขอเกี่ยวก้อยหน่อย..แค่นิดเดียวก็ได้" สิ้นเสียงขออนุญาต มือหนาเลยเอื้อมไปหาอีกฝ่าย ใช้นิ้วก้อยเกี่ยวกับนิ้วเรียวเล็ก "ตั้งใจขับรถเร็ว" เอิงเอยรีบเบี่ยงหน้าหนี การกระทำของพอลที่แสดงออกว่าต้องการให้เกียรติเธอ ส่งผลต่อใจดวงเล็กเต้นถี่รัว จนทั้งคู่เผลอมองหน้ากันและกันลืมสนใจบนท้องถนน "เกือบไม่ได้มองถนนแล้วเชียว" ปากหยักเผยยิ้มกว้าง ชักมือข้างนั้นกลับมาขยี้ศรีษะ ไม่น่าเชื่อว่าเอิงเอยจะเป็นผู้หญิงที่มีผลต่อใจแกร่งในอกข้างซ้ายอย่างมาก แล้วเขามักจะมีความสุขทุกครั้งเวลาได้อยู่กับเธอ ตึกคณะวิศวะ "เบื่อคนมีความรักหว่ะ!" ชนัตถ์เอ่ยแซว เมื่อเห็นเพื่อนชายคนสนิท และเพื่อนสาวร่วมห้องเรียนอย่างเอย กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะประจำใต้ตึก "งั้นมึงก็ต้องเบื่อทุกวันทุกชั่วโมงแล้วก็ทุกนาทีเว้ย เพราะกูกับเอยตัวติดกันหนึบ" พอลผายมือให้แฟนสาวนั่งลงตรงเก้าอี้ว่าง พอเห็นกระโปรงนักศึกษาทรงเอร่นขึ้น เขารีบยืนบังไม่ให้ใครมองช่วงขาเรียวยกข้ามที่นั่ง "ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ปะว่ะ ตอนไม่มีมึงเอยยังดูแลตัวเองได้เลย" ชนัตถ์บอก เขาก็เห็นหญิงสาวเรียนด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่ง แค่อยู่คนละกลุ่มไม่เห็นจะอ่อนแออย่างที่พอลกำลังทะนุถนอม "นั่นน่ะสิชนัตถ์ คนอะไรไม่รู้เวอร์มาก" เอยบอกพร้อมทำสีหน้าอย่างหมั่นเขี้ยวแฟนหนุ่ม แล้วหยิบสมุดเลคเชอร์ขึ้นมาเปิดรายงานที่อาจารย์สั่ง ให้สองหนุ่มได้ดูเป็นแนวทาง "โถ่เอย...น้อยใจแล้วนะ" คนบอกทิ้งกายข้างร่างบาง แสร้งทำหน้าบึ้งตึงยกแขนใหญ่ๆ กอดอก มีรอยสักพ้นแขนเสื้อออกมาข้างนึง "เมื่อไหร่จะโต" เป็นเสียงจากมิลตันดังขึ้น มาทันเห็นท่าทางญาติห่างๆ ถึงกับรู้สึกเหนื่อยหน่ายแทนเอิงเอย "มึงก็เหมือนกูอ่ะ ตั้งแต่มีน้องเพลงก็มาตึกสายตลอดเลยนะเว้ย" "คนมันมีแฟน" "มิลตันกับน้องเพลงเหมาะสมกันมากนะ น้องเพลงน่ารักมากๆ " เอิงเอยบอก พลางส่งยิ้มทักทายตามประสาเพื่อนร่วมห้องเรียน "อย่ายิ้มให้มันสิเอย เก็บรอยยิ้มไว้ให้เราคนเดียวก็พอ" แขนใหญ่รีบยกมาขวาง ทำราวกับว่าแฟนสาวคือไข่ในหิน ไม่ให้ใครได้พูดคุยด้วย "นี่เราคิดถูกหรือคิดผิดเนี้ย...ปวดหัวเลย" เรียวปากสีชมพูเม้มเป็นเส้นตรงครุ่นคิด "ถอนตัวไม่ทันแล้วนะครับ ตกลงคบกันแล้วไม่มีคำว่าเลิกแน่นอน" "แหวะ! " ทั้งชนัตถ์และมิลตันต่างส่ายหัวให้กับคำพูดชวนแสลงหู เพิ่งเคยเห็นเพื่อนชายจริงจังในความรักครั้งนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น ส่วนเอิงเอยก้มหน้าตั้งใจเขียนหนังสือต่อ บางครั้งแฟนหนุ่มก็ทำให้เธออารมณ์ดี และน่าหมั่นเขี้ยวหลายๆ ครั้งต่อวัน ...........................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม