บทที่8
เซฟทุเรียน
@คอนโดตฤณ
"ฮัลโล่ไอ้เธียรมึงอยู่กับเมียมึงหรือเปล่า กูขอคุยด้วยหน่อย"
"อะไรของมึงว่ะไอ้ตฤณโทรหากูแต่ขอคุยกับเมียกู"
"ก็ถ้ากูมีเบอร์น้องสวยกูจะโทรหามึงไหมไอ้สัส คิดสิคิด แล้วรีบให้กูคุยกับเมียมึงสักทีไอ้เวร"
"เออๆ รอแป๊บหนึ่ง มึงนี่มันมารขัดจังหวะกูง้อเมียตลอดเลยไอ้สัส"
"..."
แล้วไอ้สัสเธียรก็หายไปประมาณ20นาทีหลังจากที่มันด่าผมจบ ปล่อยให้ผมนั่งรอคุยกับเมียมันจนแก่ส่วนมันก็นั่งทะเลาะกับเมียมันจนเสียงเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์ มันถึงจะยอมปล่อยให้เมียมันมาคุยโทรศัพท์กับผม ไอ้เวรนี่แม่งหวงเมียไม่เข้าเรื่อง
"ฮัลโล่ค่ะพี่ตฤณ"
"สวย...นี่พี่เองน่ะ พอดีพี่มีเรื่องจะปรึกษาหน่อยครับ" พอได้ยินเสียงของสวยจากที่ผมเกือบจะหลับอยู่แล้วก็ตื่นทันที
"ได้เลยค่ะ เรื่องน้องชฎาหรือเปล่าคะ"
"ครับ"
"ว่ามาเลยค่ะ สวยพร้อมให้คำปรึกษาเสมอ"
"ครับ...คืออย่างนี้น่ะวันนี้ชฎาเขาไปมาร์เก็ตกับพี่มา แล้วเธอก็เล่นซื้อของกินมาเยอะมาก พี่อยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับอาการของคนท้องไหม"
ผมเริ่มตั้งคำถามกับสวยทันทีถึงเรื่องแปลกๆ ของชฎาวันนี้ คือผมอยากรู้ไงว่าอาการพวกนี้มันเกี่ยวกับที่เธอท้องหรือเปล่าหรือแค่เป็นอาการปกติของผู้หญิงที่กินจุแบบเธออยู่แล้ว
"อืม...จะว่าเกี่ยวมันก็ว่าได้นะคะเพราะฮอร์โมนของคนท้องเขาก็จะมีความไม่แน่นอนเยอะค่ะ พูดง่าย ๆ ก็คือเอาแน่เอานอนไม่ได้ คืออาการแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนค่ะ แต่ถ้าถามว่ามันเกี่ยวกันไหมก็มีส่วนเกี่ยวค่ะเพราะเอสโตรเจนฮอร์โมนนั้นส่งผลต่ออารมณ์ของคุณแม่ตั้งแต่ท้องไตรมาสแรกเลยค่ะ สวยถึงได้บอกพี่ไงค่ะว่าน้องชฎาอาจจะมีหลายอารมณ์ในหนึ่งวันรวมถึงการอยากกินของแปลกๆ ด้วยค่ะ"
"ถ้างั้นเรื่องที่เธออยากกินทุเรียนก็คงจะเกี่ยวด้วยสินะ"
"ทุเรียน? "
"ครับ ชฎาเธอซื้อทุเรียนมาด้วย บอกว่าอยากกิน แล้วสวยรู้อะไรไหม พี่เป็นพวกไม่ถูกกับกลิ่นทุเรียนแต่พี่ก็ห้ามไม่ได้เพราะกลัวจะไปขัดใจเธอเอา แต่พี่ก็ทนกลิ่นที่มันอบอวลในห้องพี่ตอนนี้ไม่ได้เหมือนกัน สวยพอจะมีวิธีช่วยพี่ไหม"
"เอ๋อ...อันนี้สวยว่าพี่ต้องค่อยๆ คุยกับน้องเขาแล้วละค่ะ เพราะสวยก็ไม่รู้จะให้คำปรึกษาแบบไหนดีเหมือนกันแต่อย่าให้น้องเขากินเยอะละกันนะคะ"
"ครับ ขอบคุณนะครับ"
ติ๊ด.
ผมคุยกับเมียไอ้เธียรเสร็จก็กดวางสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างกายก่อนจะนั่งเงียบคิดหาวิธีที่จะทำให้กลิ่นทุเรียนที่ทำให้ผมปวดหัวตุบ ๆ ตลอดทางที่กลับคอนโดหายไป ในขณะที่สายตาผมก็มองตรงไปยังประตูห้องนอนของชฎาไปด้วย
ใช่ครับ ตอนขับรถกลับคอนโดผมแทบจะเหมือนคนโดนฆาตกรรมอยู่แล้ว คือกลิ่นแม่งไม่ได้จริงๆ ว่ะ มันชวนเวียนหัวคลื่นไส้เกินไปรวมถึงตอนนี้ด้วย นี่ขนาดทุเรียนมันอยู่ในตู้เย็นน่ะแล้วผมก็นั่งอยู่ที่โซฟามาได้สักพักใหญ่แล้ว กลิ่นมันยังอยู่คงกระพันที่จมูกผมอยู่เลย
อ่า~ แล้วคืนนี้ผมจะนอนในคอนโดตัวเองยังไงว่ะ
Trin end part
chada part
22.00 น.
กลิ่นหอมกรุ่น เนื้อที่หวานละมุน รสชาติที่กลมกล่อม เห้อ~ ทำไมทุเรียนหมอนทองถึงได้อร่อยอย่างนี้น่ะ
นี่แหละคือสวรรค์ของฉัน ทุเรียนคือเดอะเบสท์สำหรับฉันตอนนี้แล้ว ไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันหายคลื่นไส้ได้ดีเท่าทุเรียนแล้วแหละ
อร่อยจริงๆ! ^^
ปึก! ปั่ง!
!!!
เสียงอะไรนะ?
ฉันสะดุ้งตกใจที่อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้องเสียงดังลั่นเหมือนลมโกรธ ทำให้ฉันที่กำลังนั่งกินทุเรียนอยู่ในห้องครัวถึงกับชะงักค้างทุเรียนในมือไว้กลางอากาศแล้วหันไปทางต้นเสียงที่ดังเมื่อกี้
แต่พอเห็นภาพตรงหน้าระยะหลายเมตรเท่านั้นแหละ....ก็ต้องตาโตอ้าปากค้างกับบุคคลหน้าประตูห้องนอนข้างๆ ห้องฉันอย่างอื้ออึ้งทันทีที่เห็นเขาสวมหน้ากากป้องกันแก๊สพิษสีดำครอบทั้งหน้าแบบที่เห็นกันในหนังกำลังเดินมาทางฉัน
นี่เขาดูหนังมากไปเหรอ หรือกลิ่นทุเรียนของฉันทำให้สมองของเขาเพี้ยน แต่ไม่น่าใช่น่ะเพราะกลิ่นทุเรียนของฉันหอมมาก
"เป็นบ้าอะไรเนี้ย" ฉันพึมพำออกไปเบาๆ กับตัวเองก่อนจะกัดทุเรียนเข้าปากไปอย่างงงๆ เมื่อเห็นคนตรงหน้าเดินสวมหน้ากากครอบทั้งหน้าแบบนั้นมาทางฉัน แล้วเดินผ่านข้างหลังฉันไปเปิดตู้เย็น ฉันเลยเอี่ยวตัวหันไปมองเขาก่อนจะพูดว่า...
"นายโอเคใช่ไหม"
"..." เงียบกริบ เงียบนี่คือไม่ได้ยินเหรอแต่หน้ากากมันก็ไม่ได้ปิดหูของเขาน่ะ ลองขยับไปเรียกใกล้ๆละกันเผื่อไม่ได้ยิน
"เฮ้ นายโอเคไหม"
ขวับ!
"เฮ้ย! "
"ยัยบ้าเอ๊ย เอาทุเรียนของเธอออกไปไกลๆ ฉัน! "
อะไรของเขาเนี้ยจะทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้นละ ฉันเป็นคนน่ะไม่ใช่ผีสักหน่อย แล้วเมื่อกี้ว่าอะไรนะ ไม่ค่อยได้ยินเลยอะเสียงมันอู้อี้ฟังไม่ชัด
"อะไรน่ะ ไม่ค่อยได้ยินเลยอะ" ฉันถามซ้ำพร้อมเขย่งเท้าพยายามเข้าใกล้เขาให้มากขึ้นเพื่อให้หูตัวเองไปจ่อที่ปากหน้ากากของเขาเผื่อจะได้ยินชัดกว่าเมื่อกี้ แต่...
หมับ!
ฟึบ!
ตฤณดันจับข้อมือข้างขวาที่ฉันถือทุเรียนไว้แล้วดึงหน้ากากของตัวเองออกเผยให้เห็นใบหน้าที่หงุดหงิดสุดๆ ของเขาต่อหน้าฉัน
"จะเขย่งเท้าขึ้นมาใกล้ฉันทำไม ฉันบอกว่าให้เอาทุเรียนของเธอไปไกลๆ ฉัน กลิ่นมันเหม็นไม่ได้ยินหรือไงว่ะ! "
เอ้า! ถ้าได้ยินแล้วจะเขย่งเท้าเอาหูไปจ่อปากเขาไหม
"ก็ไม่ได้ยินนะสิ ถ้าได้ยินแล้วจะเข้าใกล้นายทำไม แล้วอีกอย่างหนึ่งนายไม่มีสิทธิ์มาว่าทุเรียนของฉันเหม็นด้วย ของเหม็นมันไม่ได้อร่อยแบบนี้หรอกน่ะ ช่วยให้เกียรติราชาผลไม้หน่อย"
ฉันเถียงกลับไปขาดใจที่มาว่าทุเรียนของฉัน คนไม่เคยกินทุเรียนแบบเขาจะเข้าใจฟิลความอร่อยและหอมกรุ่นแบบที่ฉันสัมผัสได้ไง
"เหอะ เธอฟังฉันน่ะ ของเหม็นมันก็คือของเหม็น ถึงจะอร่อยแต่ถ้ามันเหม็นมันก็คือเหม็น! แล้วไอ้ทุเรียนพวกนี้อะฉันก็จะทิ้งแม่งไปให้หมดเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องกงไม่ต้องกินมันแล้ว"
พรึบ!
!!!!
ตาบ้าตฤณสะบัดมือฉันทิ้งจากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปหยิบจานทุเรียนของฉันที่อยู่บนโต๊ะไปเททิ้งในถังขยะ ไม่พอเขายังเดินกลับไปที่ตู้เย็นอีกครั้งแล้วเปิดประตูหยิบทุเรียนที่อยู่ในกล่องโฟมซึ่งฉันยังไม่ได้กินเลยออกมาโยนทิ้งในถังขยะจนไม่เหลือสักพูเดียวท่ามกลางสายตาของฉันที่เบิกกว้างด้วยความตกใจไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายกับของกินของฉันได้ขนาดนี้
คือเขาดูโมโหจนฟิวส์ขาดอะ แต่! เขาจะทำแบบนี้กับทุเรียนของฉันไม่ได้!! ฉันไม่ยอม!
"นี่!!! นายทำบ้าอะไรหะ! "
"ทิ้งทุเรียนของเธอไง ไม่เห็นเหรอ" ฉันเห็น แต่ไอ้บ้าเอ๊ยมันต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ฉันแค่อยากกินทุเรียนอะมันจำเป็นต้องทำร้ายจิตใจอันเปราะบางของฉันขนาดนี้เลยเหรอ รู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันต้องทนทรมานเพราะอยากกินมันแค่ไหน ฉันต้องทนดูรูปทุเรียนในโทรศัพท์จนผล็อยหลับไปเองเพราะมันคือสิ่งเดียวที่ช่วยฉันได้เมื่อคืน
เขารู้ไหม...เขาไม่รู้นะสิ เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่ห้องดูแลฉันนี่ เขาทิ้งให้ฉันอยู่ที่ห้องคนเดียวกับกระป๋องเบียร์โง่ๆ ของเขาในตู้เย็น แล้วดูตอนนี้สิ ดูสิ่งที่เขาทำกับทุเรียนของฉัน
"นายมันเป็นผู้ชายที่เฮงซวย เป็นผู้ชายที่ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย เป็นผู้ชายที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น ฉันเกลียดนาย! ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! "
ว่าจบฉันก็ยืนจ้องหน้าของตฤณด้วยความเกรี้ยวโกรธ โกรธและโมโหจนไม่รู้ว่าน้ำตามันไหลออกมาตอนไหนอะคิดดู รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกแก้มเปียกแล้ว
ใช่ ฉันคงจะรู้สึกโมโหคนตรงหน้าจนร้องไห้ออกมาเพราะฉันเองก็รู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองมันพังลงมาไม่เป็นท่าเลย มันอธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกมันปนกันมั่วไปหมด คือโกรธที่เคยมอบความรู้สึกดีๆ ให้เขาแล้วหนึ่ง แล้วยังต้องมาเสียความรู้สึกเพราะเขาเอาทุเรียนฉันไปทิ้งอีก
"เธอต้องเข้าใจน่ะชฎาว่านี้มันคอนโดของฉัน และเธอเป็นแค่ผู้อาศัยชั่วคราวเพราะฉะนั้นก็หัดเกรงใจฉันหน่อยสิวะ ฉันไม่ชอบของทุกอย่างที่มันมีกลิ่นเหม็น แล้วทุเรียนของเธอแม่งก็ตีจมูกของฉันจนนอนไม่หลับ ใจคอเธอจะให้ฉันนอนใส่ไอ้หน้ากากบ้าๆ นี้ทั้งคืนเลยเหรอวะ"
"...ถ้าฉันมาอยู่แล้วมันทำให้นายใช้ชีวิตลำบาก งั้นฉันย้ายกลับไปอยู่คอนโดตัวเองละกัน"
ว่าจบฉันก็ก้าวขาเดินผ่านหน้าตฤณ
แต่...
หมับ!
ฉันยังเดินไม่ทันพ้นตัวของตฤณแขนของฉันก็ถูกร่างสูงข้างหลังจับไว้สักก่อนทำให้ฉันไม่สามารถเดินต่อไปได้ แต่ถึงแม้ว่าเขาจะจับแขนฉันไว้ ฉันก็ไม่หันกลับไปหาเขา ฉันเลือกที่จะยืนท่าเดิมมองตรงไปข้างหน้าอย่างไม่คิดจะหันกลับไป และฉันก็คิดว่าเขาเองก็ไม่ได้หันมาทางฉันเหมือนกันเพราะมือเขาที่จับแขนฉันไว้ยังอยู่ในท่าเดิม
"เธอไม่ควรเอาแต่ใจตัวเองชฎา"
เหอะ ฉันแค่นหัวเราะในลำคอแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ยออกมาที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น
คือฉันกำลังเอาแต่ใจตัวเองเหรอ?
ถ้าไม่ให้ฉันกลับไปอยู่ที่คอนโดตัวเองแล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ อยู่คอนโดของเขาก็ทำให้เขาลำบากอีก ฉันกลับไปอยู่บ้านตัวเองนั่นแหละดีแล้ว มันจะเป็นอะไรสักแค่ไหนกัน คลื่นไส้ก็ลุกไปอ้วก ปวดหัวเวียนหัวก็หายาดมมาดม เป็นลมก็นอนมันตรงนั้นแหละถ้าไม่ตายเดี๋ยวมันก็ฟื้นขึ้นมาเองอีกครั้ง
เพราะในเมื่อชีวิตของฉัน ฉันมีแค่ยัยมีนาคนเดียวที่เป็นเพื่อนและเป็นที่พึ่ง ตอนนี้ฉันไม่มีมันฉันก็ต้องหัดอยู่คนเดียวให้ได้ไม่ใช่เหรอ
"ฉันไม่ได้เอาแต่ใจน่ะ แต่ฉันคิดดีแล้วว่าฉันควรกลับไปอยู่ในที่ของฉัน ฉันไม่ควรมาเป็นภาระและสร้างความลำบากให้กับนาย"
ขวับ!
"อย่ามาดราม่าชฎา เธอไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วน่ะ เธอมีลูกอีกคนที่อยู่ในท้องถ้าเธอกลับไปอยู่คอนโดคนเดียวเกิดเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไงใครจะช่วยเธอทัน"
ขวับ!
"นายพูดเหมือนกับว่าถ้าเมื่อคืนฉันเป็นอะไรไปในขณะที่อาศัยอยู่ในห้องของนาย แล้วนายสามารถจะช่วยฉันได้ทันงั้นแหละ นายอย่าลืมสิว่าเมื่อคืนนายก็ไม่ได้อยู่ห้องกับฉัน นายออกไปเที่ยวดื่มเหล้ากลับมาเกือบเช้า คิดดูสิถ้าเกิดว่าเมื่อคืนฉันเป็นอะไรไปจริงๆ ขึ้นมา นายไม่กลับมาเจอฉันนอนกองกับพื้นในห้องน้ำเหรอ"
ใช่ เมื่อคืนฉันแพ้ท้องหนักมากนั่งอ้วกอยู่ในห้องน้ำคนเดียวจนแทบจะเป็นลม น้ำหูน้ำตาไหลรวมกันจนตาฉันพร่ามัวไปหมดในขณะที่เขาไม่รู้นั่งทำอะไรอยู่ที่ผับ อาจจะกำลังเอากับผู้หญิงคนไหนสักคนก็ได้ หรืออาจจะกำลังนั่งนัวเนียกับผู้หญิงนมโตๆ เท่าหัวเด็กสักคน แต่ฉัน...ฉันกลับต้องมานั่งกอดชักโครกอ้วกจนหมดแรงเพราะลูกของเขาที่แผลงฤทธิ์ใส่ฉันไม่เลิก
แล้วแบบนี้นะเหรอที่จะช่วยฉันทัน
"..."
"..."
พรึบ!
"นายจะลากฉันไปไหน"
"ไปนั่งคุยกันข้างนอกในนี้มันเหม็นกลิ่นทุเรียนของเธอ ฉันทนยืนดมกลิ่นจนข้าวที่กินไปก่อนหน้านี้ตีขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหมดแล้ว"
ไอ้บ้าเอ๊ยแล้วคิดจะฉุดแขนฉันก็ฉุดไปง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ ไม่ได้สนใจอารมณ์ของฉันที่กำลังดราม่าเมื่อกี้เลยใช่ไหม
ฉันเกลียดตาบ้านี้จริงๆ เลย -_-