บทที่7 อาการคนท้อง

1678 คำ
บทที่7 อาการคนท้อง what's coming is better than what is gone. เช้าวันต่อมา... “อ้วก!!! อ้วก!!!! แค่กๆ” “อ้วก!!!!” พรึบ! เฮ้อ~ เสียงอ้วกขนาดนั้นไม่นงไม่นอนแล้วก็ได้ว่ะ หงุดหงิดฉิบหาย ผมลุกออกจากเตียงด้วยสภาพหัวฟูตายังไม่เปิดเต็มที่เดินไประชากประตูแล้วออกไปที่ห้องของชฎาที่กำลังอ้วกเสียงดังสนั่นตั้งแต่เช้าด้วยความรำคาญ ยัยนี้แม่งอ้วกได้โลกแตกมาก อ้วกจนขี้หูของผมจะออกมาเต้นระบำกันอยู่แล้ว “นี่เธอ...อ้วกอะไรขนาดนั้นว่ะ” ผมยืนพิงขอบประตูห้องน้ำแล้วถามชฎาที่นั่งคุกเข่ากอดส้วมไปด้วยความหงุดหงิดผสมง่วงนอน คือเมื่อคืนนี้ผมออกไปกินเหล้ากับพวกไอ้เธียรมา กว่าจะกลับมาที่ห้องก็เกือบเช้า แล้วดูตอนนี้ดิผมยังไม่ได้นอนเต็มอิ่มเลยต้องตื่นละ เซ็งฉิบหาย “ช่วยลูบหลังให้ฉันหน่อย” ชฎาหันมาหาผมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและน้ำหูน้ำตาที่ไหลจนผมต้องรีบขยับเท้าไปลูบหลังให้เธอ ยัยนี้แพ้ท้องหนักขนาดนี้เลยเหรอว่ะ? “เธอแพ้ท้องหนักขนาดนี้เลยเหรอว่ะชฎา” “อืม แต่วันนี้หนักกว่าทุกวัน ฉันเวียนหัวคลื่นไส้จนนอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน อยากกินของเปรี้ยวๆ ก็ลงไปซื้อไม่ไหว เปิดตู้เย็นนายก็มีแต่กระป๋องเบียร์” หน้าเจื่อนเลยว่ะ ก็ห้องผมมันไม่มีของสดอะไรสักอย่างแล้วผมก็ไม่เคยซื้อพวกผักผลไม้มาตุนเก็บไว้กินด้วย นอกจากซื้อเบียร์มาตุนไว้ดื่มตอนพวกไอ้เธียรมา แล้วแบบนี้ผมต้องออกไปจับจ่ายซื้อของเข้าห้องใช่ไหมวะ วุ่นวายฉิบหายเลย “เดี๋ยววันนี้ก็ออกไปซื้อของด้วยกันละกัน เดินไหวไหม” “ตอนนี้ไม่ไหว แต่ถ้าได้กินยาแล้วนอนพักอาจจะไหว” “อืม แล้วนี่จะอ้วกอีกไหม” ชฎาไม่ตอบผมแต่ส่ายหัวไปมาแทน ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นกดชักโครกแล้วย้ายไปที่อ่างล้างหน้า ล้างหน้าล้างตาเสร็จก็หันมามองหน้าผมเงียบๆ “...” อะไรวะ? “อุ้มหน่อย ขาสั่นเดินไม่ไหว” นึกว่าอะไรที่แท้ก็รอให้อุ้ม พูดว่าภาระได้ไหมวะ แต่อย่าดีกว่า ฟึบ! ผมช้อนร่างบางของชฎาขึ้นมาแนบอกแล้วมองใบหน้าของเธอแวบหนึ่ง มองเฉย ๆ ไม่ได้คิดอะไร ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงของเธอ วางเธอลงบนเตียงเสร็จผมก็ถามถึงยาที่เมียไอ้เธียรสั่งให้เธอกินเมื่อวาน “ถุงยาอยู่ไหน” “นายจะบ้าหรือไง ฉันไม่ได้อยู่ในสถานะที่นายจะมาถามหาถุงยางกับฉันแล้วน่ะ หิวมากก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นไปอย่ามายุ่งกับฉัน” “...” เฮ้อ~ อ้วกจนหูอื้อใช่ไหมวะ “ฉันถามว่าถุงยาอยู่ไหนไม่ได้ถามวาถุงยางอยู่ไหน เข้าใจว่าอ้วกจนหูอื้อแต่ช่วยมองฉันให้ดีหน่อย ไม่ได้เป็นคนเอาไม่เลือกเวลาล่ำเวลาน่ะเว้ย” “นะ...นายว่าอะไรน่ะ?” ชฎาที่หันหลังให้ผมเมื่อกี้หันขวับกลับมาพร้อมกับใบหน้าฉายแววฉงน นี่ผมต้องพูดซ้ำใช่ไหมว่ะ “ฉันพูดว่าถุงยา...ไม่ใช่...ถุงยาง เข้าใจ๊” ผมเท้าเอวแล้วพูดด้วยใบหน้าหงุดหงิด คือแม่งมันน่าหงุดหงิดมากเลยน่ะรู้ไหม นอนก็ไม่อิ่มแถมยังต้องมาเผชิญกับยัยชฎาที่หูไม่ดีอีก โคตรของความเซ็งเลย “ถุงยาเหรอ?” “เออ!” “เอ้า ก็คนมันได้ยินว่าถุงยางอะถ้าได้ยินว่าถุงยาแต่แรกมันจะเป็นแบบนี้ไหมล่ะ นู้นถุงยาอยู่บนโต๊ะแป้งตรงโน้นอะ” หูไม่ดีแล้วยังมีหน้ามาทำเสียงฉุนเสียงแข็งใส่คนอื่นอีกนี่ถ้าไม่ติดว่าท้องอยู่น่ะ พ่อจะอุ้มโยนไปทิ้งข้างนอกแม่ง หลังจากที่ผมได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจเงียบๆ คนเดียวผมก็หันไปตามที่ปากยัยชฎาชี้ก็เห็นว่าถุงยากระดาษโลโก้โรงพยาบาลที่ผมพาเธอไปเมื่อวานวางอยู่บนนั้น ผมก็เลยเดินไปหยิบแล้วเดินกลับมานั่งบนขอบเตียงข้างๆ ชฎาต่อ ก่อนจะหยิบถุงยาที่เป็นซองเล็กๆ ออกมาให้หมดเพื่อดูว่ามันเป็นยาอะไรบ้าง เรียนจบตรีวิศวะ จบโทบริหาร แต่ต้องมารับหน้าที่เป็นบุรุษพยาบาลแบบนี้เหรอว่ะโคตรเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นจริงๆ โฟลิค...ไดเมนไฮดริเนท ชื่อยาอะไรวะอ่านยากฉิบหายเลย “อะ ยาแก้แพ้ท้องของเธอ” ผมแกะยาที่บรรจุอยู่ในแผงออกมาหนึ่งเม็ดแล้วส่งให้ชฎา มันคือยาไดเมนไฮดริเนทอะไรสักอย่างนี่แหละเห็นเขียนภาษาไทยว่าแก้แพ้ท้อง กินๆ เข้าไปจะได้หาย “น้ำ” ห่างกันแค่เอื้อมมือแต่เหมือนอยู่แสนไกล ยื่นมือไปหยิบเองไม่ได้เหรอว่ะ โต๊ะหัวเตียงก็อยู่แค่นั้นเอง “โต๊ะมันไม่ได้อยู่ไกล หยิบเอง” “น้ำใจอะรู้จักไหม” จึ๊ ยัยนี้แม่งไปรับความปีกกล้าขาแข็งมาจากไหนวะถึงได้กล้ามีปากมีเสียงกับผมขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากขนาดนี้ แล้วดูเธอตอนนี้ดิ นอนจ้องหน้าผมนิ่งแบบที่ไม่มีความเกรงกลัวอะไรต่อผม ประหนึ่งว่าคนที่ต้องยอมเธอคือผม หึ คิดผิดแล้วครับคนอย่างไอ้ตฤณเคยยอมใครที่ไหน มาดิมาจ้องกันให้ตาแตกไปเลยสัส “...” “...” ผมจ้องหน้าชฎานิ่งๆ แบบไม่ไหวติง เอาดิระหว่างผมกับเธอใครจะยอมหยิบแก้วน้ำก่อนกัน หึหึ! หมับ! ให้มันได้อย่างนี้สิวะไอ้ตฤณ “ขอบใจ” ครับ ผมเป็นคนหยิบแก้วน้ำให้เธอเอง ไม่ใช่ผมยอมแพ้น่ะ แต่เห็นแก่เด็กในท้องอีกอย่างผมรำคาญสายตาที่ชฎามองผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อแบบนั้นด้วย นี่ถ้าเป็นเมียผมน่ะผมจะจับกดกับเตียงให้มันรู้ฤทธิ์เดชกันบ้างว่าผมไม่ใช่คนที่เธอจะมาจ้องหน้าเล่นแบบนี้แต่นี่ไม่ใช่เมียไงแต่เป็นแม่ของลูก...หรือเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกันรอผลตรวจออกละกัน หลายชั่วโมงผ่านไป... @ซูเปอร์มาร์เก็ต “นี่เธอ หยิบเฉพาะที่จะกินไม่ได้เหรอวะ โลกมันยังไม่ได้แตกไม่ต้องซื้อมาตุนขนาดนั้นก็ได้” ผมเดินเข็นรถเข็นของซูเปอร์มาร์เก็ตพร้อมเดินตามหลังชฎาที่กำลังเดินหยิบทุกอย่างที่ผ่านหน้าของเธอมาใส่ไว้ในรถเข็นด้วยความเหนื่อยใจ จะไม่ให้ผมบ่นจนเหนื่อยใจได้ไงว่ะก็แม่คุณเล่นหยิบทุกอย่างที่อยากกินมาถมรถขนาดนี้ แล้วถามว่าใครจ่ายก็ผมสิครับ โอเคเรื่องเงินอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม แต่ปัญหาคือซื้อไปแล้วใครจะกิน รู้ว่าตอนนี้มีสองคนในร่างเดียว แต่ถ้าเล่นหยิบทุกอย่างมาแบบนี้ของมันจะเน่าก่อนได้กินอะดิ “ก็มันน่ากินไปหมดอะ” “แต่มันเยอะเกินไปไง เธอจะกินหมดนี้ไหวเหรอชฎา” “ใครบอก ฉันไม่ได้จะกินคนเดียวฉันซื้อเผื่อนายด้วยต่างหาก” “ของเปรี้ยวพวกนี้นี่นะ...ฉันไม่กินอะ” “ต้องกิน เพราะลูกอยากให้นายกิน” “ลูก?” ยัยนี้เพี้ยนหรือเปล่าว่ะ มาอ้างว่าลูกอยากให้ผมกิน เด็กมันยังไปไม่ถึงไหนเลย มั่วละ “อย่ามามั่ว เธออยากกินก็กินไปคนเดียวอย่ามาลากฉันไปเกี่ยวด้วย” “...” “งั้นนายก็เอาไปวางคืนให้หมด ฉันไม่กินละจะกลับบ้านพาฉันกลับเดี๋ยวนี้เลย” เหี้ยอะไรอีกวะเนี่ย อยู่ดีๆ ก็กอดอกทำหน้าบึ้งแล้วสั่งให้เอาของที่เต็มรถเข็นตอนนี้ไปวางคืน บ้าไหมว่ะ “เธอจะบะ...” “ฮึก T_T” !!! “เฮ้ย! ร้องไห้ทำไมวะ” ซวยแล้วไอ้ตฤณ ก็ชฎาแม่งอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ออกมาแถมยังสะอื้นตัวโยนจนชาวบ้านชาวช่องที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้หันมามองที่ผมยกใหญ่ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยน่ะเว้ย “หน้าตาก็ดีทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจผู้หญิงแบบนั้นกันน่ะ” “นั้นนะสิ สงสารแม่หนูจังเลยที่มีแฟนแบบนั้น” “ดีน่ะที่สมัยสาวๆ ฉันเลือกที่จะโสดมาถึงตอนนี้ ไม่งั้นก็ต้องมานั่งเสียน้ำตาแบบแม่หนูคนนั้น” โธ่เว้ย! ไปกันใหญ่แล้ว “ชฎา หยุดร้องไห้ก่อน โอเคฉันยอมแล้วฉันจะกินของที่เธอซื้อด้วยกันกับเธอ กินมันทุกอย่างที่เธอซื้อเลย” แม่งเอ๊ยผมโคตรไม่ชอบบรรยากาศตอนนี้เลย อึดอัดฉิบหาย คนแม่งก็มองกันไม่เลิก “ฮึก! จริงนะ” “อืม” “เค งั้นไปซื้อทุเรียนกันเถอะ ฉันอยากกินทุเรียนด้วยอะ” What the f*ck เหี้ยไรวะเนี้ยเปลี่ยนอารมณ์ไวฉิบหาย แล้วคือจะไปซื้อทุเรียนผมเกลียดกลิ่นทุเรียนไอ้สัส! “ดะ...เดี๋ยวก่อน คือฉันไม่ถูกกับทุเรียน” “แต่ฉันถูก ฉันชอบ และฉันอยากกินด้วย” โอ้โห่ยังมีหน้ามาทำตาแป๋วมองผมตาปริบๆ อีก ยัยนี้แกล้งผมหรือเปล่าว่ะ “ไปกันเถอะ ซื้อทุกเรียนเสร็จจะได้กลับห้องกัน ฉันเมื่อยขาแล้วอะ” เฮ้อ~ ใครก็ได้ช่วยเอาผมไปโยนทะเลที กูจะประสาทแดกแล้วไอ้เหี้ยเปลี่ยนอารมณ์ไวยิ่งกว่ากิ้งก่าอีกไอ้สัส
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม