วันถัดมาพินดาราเดินมาทำงาน เพราะบริษัทของเธอ อยู่ใกล้ที่พักเพียงไม่ถึงกิโล จึงประหยัดไปได้อีกทางแล้ว ทั้งยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย วันนี้เป็นเช้าที่สดใสอีกวันเพราะเธอได้งานใหม่
หญิงสาวเดินยิ้มทักทายกับประชาสัมพันธ์ที่ด้านล่าง
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ น้องที่มาเมื่อวานใช่ไหมคะ ดีใจด้วยนะคะที่ท่านประธานเลือก ก่อนหน้านี้เปลี่ยนคนสัมภาษณ์มาหลายคนแล้วค่ะ ไม่ถูกใจสักที”
พินดาราได้แต่ยิ้มให้ไม่รู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร จึงได้แต่รับฟังไว้เท่านั้น การไม่ไปร่วมผสมโรงเรื่องการเมืองในบริษัทย่อมดีที่สุด
ต่อให้เธอถูกปลูกฝังให้คิดดีทำดี คิดบวก แต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่พบคนที่อยากบวกกับเธอทั้งนั้น กว่าจะเรียนจบก็โดนบูลลี่ว่าจน แต่เธอก็ไม่สนใจมาเรียนไม่ได้มาอวดใคร ใครอยากรวยก็ช่างปะไร เสื้อผ้าเพื่อน ๆ เธอต้องแบรนด์หรูกระเป๋าแพง ของพวกนั้นไม่มีค่าในสายตาเธอสักนิด
ต่อให้คนใช้ของแพง อยู่บ้านหลังใหญ่ แต่จิตใจโสโครก เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นหรอก ยิ่งมีให้เห็นอยู่ทุกวันแบบเธอ จนรู้สึกเอียน
พอพินดาราถึงโต๊ะทำงานเธอก็หยิบแซนด์วิชขึ้นมากิน เพราะเห็นข้างทางขายจึงซื้อมากินตอนเช้า และมันก็อิ่มสะดวกดี
ขณะที่เธอกัดไปได้เพียงคำเดียว ป้องภพก็เดินเข้ามาถึงออฟฟิศพอดี
“สวัสดีค่ะ คุณป้องภพ”หญิงสาวรีบกลืนมันลงท้องและยืนขึ้นสวัสดีเขาอย่างมีมารยาท เมื่อวานเธอรู้สึกขอบคุณเขามาก ๆ ที่พาเธอไปหาที่อยู่ใหม่ซึ่งค่อนข้างดีและปลอดภัย
“ครับ...นั่นกินอะไรอยู่เหรอ”
“แซนด์วิชค่ะ” หญิงสาวบอกไปแต่ทว่าคนที่เพิ่งมากลับแย่งของเธอไปต่อหน้าต่อตา
“ผมขอแล้วกัน คุณไปซื้อมาใหม่” ป้องภพหยิบแบงก์พันให้กับเธอแล้วก็กัดเข้าไปหนึ่งคำ
“รสชาติพอใช้ได้” เขาเคี้ยวตุ้ย ๆ โดยไม่สนใจว่าเธอกัดไปแล้วด้วยซ้ำ
“คุณชอบกินแซนด์วิชเหรอคะ” พินดาราถามเขา หากเขาชอบ เธอจะทำให้ ดีกว่า อร่อยกว่าที่ขายแล้วแถมยังเลือกของดี ๆ ได้อีกด้วย
“ผมกินง่าย ๆ ”
“อย่างนั้นพินทำมาให้ทุกเช้าก็แล้วกันค่ะ อันนี้ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เงินนี้ไว้พินซื้อของมาทำให้ก็แล้วกัน” พินดารายิ้มให้กับประธานที่คนทั้งบริษัทต่างเกรงกลัว แต่กับเธอเขาดูเป็นคนง่าย ๆ คงเบื่อจะปั้นหน้าแล้วกระมัง
“เอาตามที่คุณว่าทุกวันศุกร์มารับเงินจากผมไปเป็นค่าอาหาร รบกวนฝากปิ่นโตด้วยนะครับ” ป้องภพเดินยิ้มแล้วก็เข้าห้องไป
พินดาราอมยิ้มให้กับเจ้านายตัวเอง คงไม่มีเวลาดูแลเรื่องปากท้องสินะ สังเกตจากที่เมื่อวานพาเธอลากยาวยันเย็น
พินดาราสรุปรายงานการประชุมเมื่อวานให้กับคุณป้องภพ ส่งไปทางอีเมลและเข้าไปรายงานสิ่งที่เขาต้องทำวันนี้รวมทั้งนัดต่าง ๆ ที่เธอได้ทำตารางไว้ให้เขาเพื่อเตือนความจำ
เอกสารต่าง ๆ ที่เขาต้องเซ็นก็จัดไว้เป็นระเบียบ อันไหนเร่งด่วน อันไหนรอได้ ทำให้ป้องภพทำงานได้เร็วขึ้นไม่ต้องเสียเวลาหาเอกสาร
“ว้าว คุณนี่สุดยอดเลขาจริง ๆ เลยนะครับ ผมทำงานง่ายขึ้นแยะ” ป้องภพชมลูกน้องสาวคนสวย
“ขอบคุณค่ะ ถ้าจัดเป็นระเบียบก็ง่ายแค่ทำงานตามแผนที่วางไว้ ก็จะเสร็จได้ทัน”
“คุณพูดเหมือนกับว่ามีประสบการณ์ทำงานมาก”
“คุณหญิงวาดนภา แม่ของคุณตุลย์ภพสอนค่ะ พินก็จำมา เผื่อได้ใช้แล้วก็ได้ใช้จริง ๆ ” สิ่งเดียวในบ้านหลังนั้นที่เธอจะนึกถึงเห็นมีแค่เพียงวาดนภา
“ดีจริง ๆ แล้วกับคุณตุลย์ภพล่ะ รายนั้นทำไมจงเกลียดจงชังคุณจัง คุณไปทำอะไรให้เขางั้นเหรอ” มองจากสภาพ พินดาราก็นับว่าเป็นผู้หญิงที่ดี คบได้แต่ทำไม คนเป็นสามีอย่างตุลย์ภพ ถึงไม่ไยดีแม้เขารู้ข่าวว่าวาดนภาเสียชีวิต แต่ทว่าเพิ่งเสียไม่นานก็ไล่เธอออกจากบ้านเลยหรือ
“อะไรที่มันไม่ใช่ของเรา มันก็ไม่ใช่ค่ะ ฉันมันไม่สวยเหมือนดาราที่ควงละมั้งคะ” พินดาราพูดติดตลก
“ใครบอก ดาราพวกนั้นพอล้างหน้าแล้ว สู้คุณไม่ได้เลยนะครับบอกเลย อย่าด้อยค่าตัวเองสิครับ ลองคุณแต่งตัวสวย ๆ แบบพวกเธอรับรองว่าพวกนั้นโดนเขี่ยตกชั้น ยิ่งกว่าฟุตบอลพรีเมียร์ลีก”
“คุณป้องภพ ปากคอเราะรายนะคะเนี่ย”
“เหรอครับ...” เสียงหัวเราะต่อกระซิกเหมือนคุยเรื่องทั่วไปที่ไม่ใช่เรื่องงาน จนคนที่มาพบอยู่ด้านนอกรอจนหน้าหงิก ยิ่งได้ยินเสียงคนด้านในมีความสุข เขายิ่งกำหมัดแน่น
ก๊อก ก๊อก...!
สองเจ้านายลูกน้องที่กำลังยืนยิ้มกันอยู่ก็ต้องหันไปด้านนอกเป็นตาเดียว
“สวัสดีครับ ขอรบกวนหน่อยครับคุณป้องภพ” ตุลย์ภพที่ยังค้างคาใจที่เธอด่าเขาผ่านไลน์ไปเมื่อวาน ตั้งใจเอาเรื่องงานมาบังหน้าเพื่อจะมาลับฝีปากที่ทำงานของเธอ ให้เธอรู้ว่าเขาไม่กลัว
“อ้าว ลมอะไรหอบท่านประธานใหญ่เพียง
ภัทรามาถึงสกลเกียรติได้ครับ” ป้องภพอดแปลกใจไม่ได้ ปกติตุลย์ภพถือเนื้อถือตัว ไม่ยอมพบคู่ค้าก่อนจะได้ทำสัญญากัน แต่นี่มาเยือนถึงบริษัทเขาไม่นับว่าแปลกไปหน่อยเหรอ
“ขออภัยที่มาขัดความสุขนะครับ พอดีว่าผมผ่านมาแถวนี้พอดี เลยให้เลขาเอาสัญญามาให้คุณตุลย์ภพอ่านดูหน่อยครับ หากตกลงก็จะได้เซ็นสัญญากันไปเลย” บังเอิญผ่านคือตั้งใจมานั่นเอง เขาอยากรู้นักว่าแม่นี่เป็นเมียเก็บเจ้าของบริษัทนี้หรือเปล่าเลยมาดูให้แน่ใจ แต่ท่าทางดูสนิทสนมกันเกินกว่าจะเป็นพนักงานใหม่ก็วัดได้เป็นอย่างดีแล้วว่าเขาเดาไม่ผิดนัก
ป้องภพหันมองหน้าเลขาแล้วก็พยักหน้าให้เธอออกไป
“ยินดีมาก ๆ ครับ เชิญนั่งที่โซฟาด้านนี้ก่อนครับ” ป้องภพรับเอกสารมาในมือแต่ทว่าคนที่นำเอกสารมามองไปยังเลขาของเขาเป็นตาเดียว เห็นทีจะแค่ข้ออ้างเสียแล้วละมั้ง
“คุณตุลย์ครับ”
“อ้อ...ครับ” ตุลย์ภพที่เสียอาการเขามองตามแม่คนรับใช้ในบ้านนั้นไป ท่าทางยิ้มระรื่นที่ส่งให้กับป้องภพนั้นอีก แม่นี่ร้ายนัก เจอใครน่าจับก็จับไปทั่วเลยสินะ
“คุณมีอะไรกับเลขาผมหรือเปล่าครับ” ป้องภพหักหน้าเขาอย่างจัง แม้จะรู้อยู่แล้วก็ตาม
“ไม่มีหรอกครับ” ตุลย์ภพที่รู้ว่าถูกจับได้ก็แสร้งทำยิ้มกลบเกลื่อน ประจวบเหมาะกับที่เลขามาเสิร์ฟน้ำพอดีเขาก็เลยเอ่ยขึ้น
“ผมมีเด็กที่บ้านอยู่คนหนึ่งครับ ต่อหน้าทำตัวน่าสงสารแต่พอลับหลังก็ออกลาย”
เสียงกระแทกแก้วลงบนโต๊ะกระจกเสียงดัง ทำให้ตุลย์ภพหันมองหน้าเธอจนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ
“อ้อ...จริงสิ เห็นว่าคุณพินดารากับคุณเคยแต่งงานกัน”
“อ้อแต่งเพราะให้แม่สบายใจครับ ตอนนี้เราไม่เกี่ยวข้องกัน” ตุลย์ภพย้ำคำว่าไม่เกี่ยวข้อง
“อ้อ...มิน่าล่ะ ความเป็นอยู่ของคุณพินดาราถึงได้ลำบากนัก เมื่อวานเพิ่งพาเธอไปหาที่พักใหม่ นี่ถ้าไม่รู้ ผมคงสงสัยว่าทำไมคุณทำกับภรรยาแบบนี้ แย่เลยนะครับ” ป้องภพแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขาและเธอหย่ากัน
“เธอไม่ได้บอกเหรอ”
“บอกแต่ว่าแต่งงานครับ...แต่ไม่ได้บอกว่าหย่าเมื่อไหร่” ป้องภพตั้งใจพูดต่อหน้า
“พินยังเล่าไม่จบค่ะ ไว้เดี๋ยวว่าง ๆ จะเล่าความเป็นอยู่ในบ้านให้ฟังค่ะ อยากรีวิวมากเลยค่ะ ชีวิตหลังแต่งงานปลอม ๆ ” เธอเข่นเขี้ยวลอดไรฟัน
“นี่...!” ตุลย์ภพไม่คิดว่าเธอจะกล้าเอาเรื่องของเขามาป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้
“อุ๊ย...เป็นอะไรคะ ตาแข็งเชียว”
“คือผมกำลังจะแต่งงานครับ เดี๋ยวเรียนเชิญคุณป้องภพด้วยนะครับ” ตุลย์ภพ เฉไปเรื่องแต่งงานกับคนอื่นเพื่อกลบเกลื่อนความเลวของตัวเองที่เคยทำไว้กับเธอ เขาชอบทำให้เธอเจ็บ ไม่ชอบเห็นเธอมีความสุข อยากให้เธอเสียดายตำแหน่งคุณหญิงของบ้าน ที่ไม่อาจจะคว้าไว้ได้
“คนไหนเหรอคะ...พาไปนอนที่บ้านไม่ซ้ำกันเลยนี่คะ ขอถามนิดหนึ่ง เดี๋ยวแสดงความยินดีผิดคน” เธอรีบสอดปากทันที แรงมาก็แรงกลับไม่โกง
ตุลย์ภพคิดว่าเธอจะปากดีแค่ในไลน์ ไม่คิดว่ามาพบหน้าเธอก็ไม่หยุดจ้อ นี่เขาอ่านเธอผิดไปจริง ๆ คิดว่าเป็นผู้หญิงนิ่ง ๆ ไม่สนใจอะไรแต่ปากอย่างกับกรรไกร
“ผมคิดว่าจะแต่งกับเพียงครับ” เขาหันไปพูดกับคุณป้องภพแทน
“ยินดีล่วงหน้าด้วยนะครับ” ป้องภพยื่นมือไปจับแสดงความยินดีด้วยอย่างจริงใจ
“เวรย่อมระงับด้วยการแต่งกับ...อี...”
“นี่เธอ...!”
“ขออภัยค่ะ เสียมารยาท พินไปก่อนนะคะ” เธอหันหลังเดินเชิดหน้าออกไป
หึ...!
อึ้งไปเลยละสิ ต่อไปนี้ฉันจะอยู่เพื่อดูความ ฉิบหายของคุณนี่แหละ คุณตุลย์ภพ
พินดาราอาฆาตแค้นเขานัก ดีเหมือนกันเธอก็รอคอยเวลานี้มานานแล้ว อยากจะรู้นักว่าเขากับแม่ดารานั่นจะไปได้สักกี่น้ำกัน
ก่อนออกจากบริษัท เขาก็แวะไปหาเธอที่โต๊ะเพื่อข่มขู่เธออีกครั้ง
“ถ้าเธอเอาฉันไปพูดเสียหายล่ะก็...เจอดีแน่”
“ถ้าคุณไม่เลิกยุ่งกับฉัน คุณก็เจอฉันเอาคืนเหมือนกัน คุณมีชื่อเสียงต้องรักษา ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาเดินดินกินข้าวแกง ใครจะสนใจ” หัวใจพินดาราเต้นระทึกตอนต่อปากต่อคำกับเขาตรง ๆ นี่นับว่าครั้งแรกที่เธอไม่ยอมเขา
“นี่แกขู่ฉันเหรอ”
“ไม่ได้ขู่ค่ะ ให้รีวิวท่าบนเตียงที่แซ่บหยุดโลกของบรรดาสาว ๆ ของคุณด้วยไหมล่ะคะ”
“หยุดนะ” เขาชี้หน้าด้วยความโกรธ มือสั่นปากสั่น มาที่นี่ตั้งใจจะมาหาเรื่องแต่กลับโดนผู้หญิงบ้าคนนี้ตอกกลับเสียนี่ เสียหน้าชะมัด
“คุณต่างหากล่ะ ที่ต้องหยุด เราไม่เกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว อ่อเลิกส่งข้อความหาฉันได้แล้วนะคะ เดี๋ยวฉันจะหลงคิดว่าคุณเหงาอยากได้ท่อนไม้อย่างฉันอีก”เธอไม่หยุดเพียงแค่นั้นแต่พูดต่อ
“รังเกียจมากนักไม่ใช่เหรอ แต่ตามไม่หยุดเลยนะ”
“ย้อนแย้งมาก”
“เอ๊ะ...หรือว่า หลงรักฉันไม่รู้ตัวกันแน่”
รอยยิ้มที่ดูแคลนคนตรงหน้าส่งไปอย่างเหยียดหยาม ตั้งแต่เธอไม่อยู่ บ้านนั้นยังเป็นบ้านก็บุญแล้วละ คงพาผู้หญิงไปเปิดฮาเร็มเต็มบ้านละสิ
“หยุดพ่นคำเน่า ๆ สกปรก ๆ ของเธอซะ ฉันจะไม่เจอหน้าเธออีก แค่ได้ยินชื่อเธอฉันก็ขนลุก”
“รักษาคำพูดด้วยค่ะ”
พินดารายืนกอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยี่หระป้องภพที่แอบฟังอยู่หลังประตูนึกสะใจแทน ผู้ชายแบบนี้ต้องเจอกับผู้หญิงแบบนี้แหละ เลวมาเลวกลับไม่โกง