เพียงพิธายืนที่หน้าประตูเพื่อดูให้แน่ใจว่าตุลย์ภพได้ลงไปจริง ๆ และจะไม่กลับมาอีก เมื่อเขาเข้าลิฟต์เธอก็ยืนรออยู่สักพัก จึงเข้าห้องและล็อกประตูทันที
“โอ๊ย...ใจหายใจคว่ำหมด” เธอลูบหน้าอกตัวเองอย่างโล่งใจ นี่ไม่เคยกลัวโดนจับผิดขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ
วงการมายาต่อให้ผัวเขาเมียใคร หากร่วมงานแล้วคลิกกันก็จบที่เตียงได้ แต่ทว่าเรื่องแบบนี้ก็ต้องกินกันอย่างลับ ๆ ห้ามเปิดเผย ในกองถ่ายผัวเขาเมียใครก็เดินชนกันให้ทั่วไปหมด
แต่เธอต้องรักษาภาพพจน์ที่ดีไว้ ไม่เช่นนั้นก็จะจับคนรวย ๆ ไม่ได้
เจ้าพระยาเดินมาด้านหลังแล้วก็รวบเข้าที่เอวของเพียงพิธา ชายหนุ่มดึงเชือกที่ผูกเอวของเธอลง ดึงชุดคลุมอาบน้ำทิ้งไป แล้วผลักร่างของเธอไปชิดกำแพง
“พี่ทำไมยังทนกับเขาอยู่ได้ เขาไม่ได้แคร์พี่เลยนะ” เด็กหนุ่มพูดไปก็จุมพิตไปที่คอของเธอไป เขาสูดเอากลิ่นหอมของสบู่ที่เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่ทว่าไม่ได้ออกแรงให้มีกลิ่นตัวสักนิด
ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด เมื่อตัวเองปลดปล่อยความอึดอัดก็ทิ้งให้ผู้หญิงค้างไว้เพียงลำพัง แบบนี้ใครได้เป็นผัวก็คงอยากเลิก ไม่ก็ไปหากินเอาข้างนอก
“นี่ยังไม่อิ่มอีกหรือไง เลียขนาดนั้นแล้ว ทีหลังอย่าทำอย่างนี้อีก” เธอพูดเหมือนจะดุแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก เพราะว่าเจ้าเด็กนี่มันเร้าใจเธอจริง ๆ นอกจากขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทยแล้ว ลีลาก็ยิ่งกว่าพระเอกหนังเอวีเสียอีก
“ผมทั้งเลียทั้งเอา แต่พี่ไม่แคร์เท่าเขาเลยนะครับ” เขาค่อย ๆ ลดริมฝีปากต่ำลงไปที่สองเต้าอวบ นับว่าดาราน้อยคนที่จะไม่ทำ ของเพียงพิธาใหญ่จนจับถนัดมือแถมยังบีบเท่าไหร่ก็เด้งสู้อีกต่างหาก
“พี่ไม่ได้รักที่ตัวเขา แค่รักเงินเขาเท่านั้นแหละ ต่อไปหากพี่มีโอกาส ก็จะมาเรียกเราไปเอาไปเลียแทนแล้วกันนะ” เพียงพิธาที่ค้างจากเขามา ก็นัวเนียกับเจ้าพระยาต่อและสานต่อความสัมพันธ์ที่ยังค้างคาให้จบเสีย
บริษัทเพียงภัทรา...?
หลังจากที่ตุลย์ภพผ่อนคลายความเครียดมาเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ตรงเข้าบริษัท ชั้นที่อยู่สูงสุดของตึกเพียงภัทรา คือห้องทำงานของชายหนุ่ม
เขานั่งเซ็นเอกสารที่ถูกวางเตรียมไว้บนโต๊ะทำงาน กว่าจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็พบว่าท้องฟ้านั้นอับแสงแล้ว ร่างใหญ่เดินมาหยุดยืนมองภาพกรุงเทพมหานครที่ผู้คนจอแจ การจราจรในช่วงเย็นติดขัด เพราะเป็นเวลาเลิกงานพอดิบพอดี
เมื่อก่อนต่อให้ทำงานหนัก เที่ยวดึกแค่ไหน เขาก็กลับบ้านเพราะมีแม่ให้คอยกลับไปหา ตอนนี้ที่บ้านไม่เหลือใคร มันเงียบเหงาไปหมด เขาเหมือนอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวยิ่งนัก
เสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าเผยออกมายามมองภาพเบื้องหน้า ต่อให้เขาร่ำรวยเพียงใด ก็หาซื้อความสุขและความสบายใจไม่ได้จริง ๆ
พินดาราทำโอทีจนเกือบสองทุ่ม วันนี้มีเอกสารที่เธอต้องจัดการมากมาย แถมยังได้โอที เธอจึงอาสาขอป้องภพจัดการให้เสร็จก่อนกลับ พรุ่งนี้จะได้ไม่มีเอกสารเก่า และงานจะได้เดินต่ออย่างไม่ติดขัด
ร่างเล็กหุ่นเพรียวลม เดินเข้าไปในซูเปอร์ข้างบริษัท ที่มีอาหารสดและอาหารแห้งครบทุกอย่าง เธอเดินเลือกผักผลไม้ และของที่ไปทำอาหารง่าย ๆ เพื่อไปให้บอส
ของเธอ
แต่ก่อนเธอเป็นคนทำอาหารเองให้กับคนทั้งบ้านทาน จึงเชื่อมั่นว่าตัวเองฝีมือไม่อายใคร เธอเลือกสรรแต่ของดี ๆ เพราะเจ้านายให้เงินมาตั้งหนึ่งพัน ต่ออาหารหนึ่งสัปดาห์ นับว่ามากนัก หากเธอบริหารค่าใช้จ่ายดี ๆ อาจจะเหลือให้เธอได้ทานด้วย
ร่างเล็กหอบของหิ้วสองถุงเดินริมถนน เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาดึกสงัดนัก ย่านนี้ก็ยังมีคนพลุกพล่าน ทำให้เธอกล้าเดินคนเดียวอย่างไม่กลัวใคร
แต่ขณะที่กำลังเดินกลับห้องด้วยรอยยิ้มนั้น เสียงแตรรถยนต์ด้านหลังก็บีบขึ้นให้เธอตกใจ
ปี๊ด...ปี๊ด...!
หญิงสาวกำลังจะหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็มีเสียงหนึ่งแล่นเข้าโสตประสาทเธอเสียก่อน
“ว่าไงจ๊ะน้อง...เท่าไหร่ครับ”
เสียงที่หญิงสาวไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร ทำให้เธอไม่สนใจเดินต่อไป ทำเป็นเหมือนฟังหมาหอนหมาเห่าก็แล้วกัน อย่างไรเขาก็หมาติดสัดเดือนสิบสอง
ตุลย์ภพที่ไม่รู้จะไปไหน จะกลับบ้านก็ไม่อยาก เลยขับรถออกมาเรื่อย ๆ จนมาพบเข้ากับร่างที่คุ้นตาและเสื้อผ้าที่แสนเรียบและเชยที่แม่เขาเลือกให้เธอ กระทั่งเงาของเธอเขาก็ยังจำได้ ไม่ต้องให้ทายเลย
พินดารา กำลังสงบใจ เมื่อเช้าก็เดินมาด่าแล้ว เย็นก็ยังขับรถมาด่าอีก ไม่รู้จะกวนประสาทเธอไปถึงไหน เมียไม่รักหรือไง
“จะอัปราคาเหรอ...อย่างน้องพี่ให้เต็มที่เลย 500” เขารู้สึกสนุกที่ได้ก่อกวนแม่คนรับใช้นี่จริง ๆ ไม่รู้ว่าผัวใหม่ทิ้งแล้วหรืออย่างไรถึงมาเดินข้างถนน
พินดาราหันมาหาด้วยแววตากร้าว
“ไหนเมื่อเช้า หมาตัวไหนมันหอนให้ฟังนะ ว่าต่างคนต่างอยู่ แล้วทำไมยังตามระรานไม่เลิก เมียไม่รักหรือไง หรือเสี้ยนเสียจนหาที่ลงไม่ได้ต้องมาหาฉันเนี่ย” สุดท้ายเธอก็ปรี๊ดแตก ทั้งที่อดทนอีกแค่ซอยเดียวก็ถึงห้องพักแล้ว
“ก็นี่ถนนสาธารณะ เห็นเธอเดินอยู่ ก็เอะใจคิดว่าผู้หญิงสาธารณะด้วย อุ๊ย...ขอโทษที พอดีราศีเธอมันจับ” เขายิ้มเย้ยหยันเธอ
“อ่อ...งั้นเหรอ คงกินข้างทางบ่อยสินะ ถึงได้รู้ดีจัง เอ๊...ที่พาไปบ้านขึ้นขย่มร้องครางเหมือนเปรตนั่น ผีอะไรนะ ผีขนุน ผีมะขาม รับจากไหนไปละ ได้ข่าวว่ารวยหมื่นล้าน แต่กินของสกปรกพวกนี้เหรอ หรือว่าที่คุณด่าฉันใฝ่ต่ำ คุณก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกมั้ง”
“นี่...เลิกพ่นคำพูดสกปรกเน่า ๆ ออกจากปากเธอสักที” ตุลย์ภพรู้สึกขัดใจ ที่เธอไม่ยอมเขาเหมือนเมื่อก่อน อะไรที่เขาควบคุมไม่ได้ เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบที่สุด
“คำก็สกปรก สองคำก็สกปรก แต่หาเรื่องกับคนสกปรกอย่างฉันดีเหลือเกินนะ” เธอยิ้มเยาะให้กับเขามองตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนหมากินไม่อิ่มต้องมาแว้งกัดเขาไปเรื่อย
“สิ่งเดียวที่ฉันทำไปแล้วเสียใจที่สุด คือเอาคนสกปรกอย่างเธอคืนนั้น หากรู้ว่าปากอย่างนี้ฉันไม่ยอมเอาตัวเข้าเกลือกกลั้วหรอก”
“อ่อ...งั้นเหรอ นึกว่าติดใจจะชวนฉันขึ้นเตียงอีกสักรอบสองรอบ ตั้งแต่ออกจากบ้านมาไม่ถึงสามวัน ดูคุณจะคิดถึงฉันมากเหลือเกินนะ ทำไมคะ ดาราไม่ว่างเหรอ หรือว่าไม่ถึงคิวคุณ งั้นก็กดบัตรคิวเร็ว ๆ สิคะ อ้อ...กดไว้หลาย ๆ คิวนะ เดี๋ยวไม่อิ่มก็มาเห่าเสียงดัง ระวังเขาจะเรียกประเวศมาจับหมาในปากคุณนะคะ เห่าเก่งเหลือเกิน” เพียงพิธา คนที่เขาจะแต่งงานด้วย แต่ว่าเบื้องหลังเน่าเฟะ ขนาดคนที่ทำงานยังเม้าขนาดนี้ อดสงสารไม่ได้จริง ๆ
ไม่ได้รวยอย่างเดียว ต้องโง่ด้วยถึงจะควงแม่นี่ได้
“อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนเธอสิ พินดารา ที่หย่ากับผัวได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้คิวต่อไปไวขนาดนี้ ระวังนะจะท้องไม่มีพ่อ เพราะไม่รู้ว่าไปเอากับใครบ้าง” เขารู้ว่าเธอต้องอิจฉาเพียงพิธาที่เขาดูแลและเอาใจเธอ ต่างกับแม่นี่ที่เคยใช้สถานะเมียแค่ชั่วคราว แต่หางตาเขาก็ไม่อยากแล
“งั้นเหรอ...ท้องไม่มีพ่อก็แค่เลี้ยงลูกเองคนเดียวไม่เห็นตาย ในเมื่อผู้ชายมันห่วย!” เธอเน้นคำว่าห่วย ตอนนี้หญิงสาวเร่งฝีเท้าพร้อมกับต่อปากต่อคำกับเขาไปด้วย
เอาซี้...ฟาดมาฟาดกลับ...!
“แล้วอย่ามาเรียกร้องลูกคุณลูกคุณแล้วกัน ฉันไม่ได้อยากเลี้ยงลูกเสือลูกตะเข้” ตุลย์ภพที่ยังมั่นหน้าต่อว่าเธอไม่หยุด แม้ว่ารถด้านหลังจะบีบแตรใส่ เขาก็ไม่สนใจ
“อ่อ...ฉันคงไม่รบกวนละค่ะ ยอมท้องไม่มีพ่อ ดีกว่าให้ลูกเรียกคนอย่างคุณว่าพ่อ เสนียดปาก...แล้วคุณก็ระวังท้องไม่มีลูกนะคะ...ไปล่ะ ถึงที่พักแล้ว ขอบพระคุณผัวเก่าที่เป็นห่วงอุตส่าห์ขับรถเป็นเพื่อนมาส่งถึงที่นะคะ...ชิ!” เธอไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอีก เพราะตอนนี้มืดแล้วอยากพักผ่อน เธอเหนื่อยทุกครั้งที่ต้องคิดหาคำมาด่าเขา เหมือนเขาไม่ยอมเลิกยุ่งกับเธอเสียที ทั้ง ๆ ที่เรื่องของเขากับเธอก็จบลงไปแล้ว
อีกคนพยายามลืม แต่อีกคนอยากรื้อฟื้น...
เธอไม่รู้เหตุผลของเขาว่าเขาทำทำไม แต่ทุกครั้งที่เห็นหน้าเขาก็ทำให้เธอคิดถึงแต่คืนที่แสนเจ็บปวด
ภายนอกเหมือนเธอไม่เป็นอะไร แต่ภายในของเธอนั้นไม่เหลือชิ้นดี หัวใจของเธอเหมือนโดนหนามทิ่มตำที่เดิมซ้ำ ๆ ไม่ยอมหยุด
เมื่อถึงห้อง เธอก็พยายามหาวิธีที่ทำให้เขาเลิกยุ่งกับเธอ เธอนึกขึ้นได้ว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้เขาเลิกยุ่งกับเธอคือให้แม่ดารานั่นช่วย
เธอไดเร็กไอจีไปหาดาราสาวคนสวย แอบไปบอกข่าวดีกับเธอ
“สวัสดีค่ะ คุณเพียง ฉันพินดารานะคะ”
“ค่ะ” เพียงพิธามองดูข้อความที่ส่งมาแล้วเธอก็ตอบกลับด้วยความสงสัย ว่าเมียเก่าตุลย์ทักมาทำไม
“วันนี้คุณตุลย์ภพมาที่บริษัท เห็นเขาบอกว่าจะแต่งงานกับคุณ ยินดีด้วยนะคะ” พินดาราพิมพ์ไปก็อมยิ้มไป เพราะไม่แน่ใจนักว่าเขาได้บอกหรือยัง แต่แม่ดารานี่คงไม่ปิดเงียบหรอก หากเป็นเรื่องของเขา รักกันหวานชื่นขนาดนั้นเธอจะช่วยสงเคราะห์ให้ผีเน่ากับโลงผุได้สมรักสมรสก็แล้วกัน
“นี่เธอพูดจริงเหรอ”
“จริงค่ะ ฉันกับเขาแต่งกันในนาม และหย่าในคืนแต่งงาน อยู่ในบ้านหลังนั้นก็แค่รอให้คุณหญิงท่านไปสบาย คุณก็น่าจะรู้” พินดาราใช้ข้ออ้างนี่ขึ้นมา เพื่อให้ดูมีน้ำหนัก
“แต่คิดว่าเขาคงอยากให้ผ่านไปสักพัก น่าจะแถลงข่าว เพราะตอนแต่งงานก็จัดงานใหญ่ ผู้คนรับรู้ แต่ฉันสงสารเขา กลัวเขาจะเหงา ยังไงคุณช่วยกระพือข่าวให้ดัง ๆ หน่อยนะคะ จะได้จัดงานแต่งกันเร็ว ๆ เขาบอกกับฉันว่าหลงรักคุณมาก ๆ เลยค่ะ แต่รอจังหวะ” เมื่อส่งเสร็จเธอก็ปิดโทรศัพท์อาบน้ำนอน เพื่อรอดูข่าวใหญ่พรุ่งนี้
“หวังว่าฉันจะไม่ต้องเจอคุณอีกนะ...!”
นี่แทบจะเป็นคำอธิษฐานก่อนนอนของเธอทุกคืน หลังจากคืนนั้น เธอได้แต่นอนฝันร้ายมาตลอด อยากจะลบลืมเลือนมันออกจากใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้เลย มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะเยียวยารักษาแผลใจนี้ให้กับเธอ
ติดที่เขาไม่ยอมปล่อยวาง แค่ไม่ต้องมาพบเธอสักวัน เดี๋ยวเธอก็ลืม แต่เขาไม่เลิก เลือกจะมาเหยียบย่ำเธอให้จมธรณีอยู่ทุกวี่วัน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปลืมมันได้