ปึ่ง ปึ่ง...!
“เปิดประตูนะนังแพศยา เปิดสิ ฉันบอกให้เปิดไง”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนด่าทอที่หน้าห้องของพินดารา หญิงสาวที่คุณหญิงวาดนภารับเลี้ยงเอาไว้ ร่างบอบบางนั่งอยู่บนเตียงด้วยความตื่นกลัว เขาไม่เคยพูดหรือเคยทำอะไรร่วมกับเธอ เขาเห็นเธอเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไร้ตัวตนในบ้านเพียงภัทรา แต่เธอรู้ว่าทำไมเขามาเคาะประตู
“คุณตุลย์ภพ ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ” แม่บ้านสาวมาช่วยห้ามชายหนุ่มไม่ให้เข้าไปทำร้ายพินดาราซึ่ง น่าจะเป็นเพราะเรื่องที่วาดนภากำลังจะจัดงานแต่งงานให้พินดารากับตุลย์ภพ
“หลบไป”
ปัง...!
ชายหนุ่มใช้เท้ากระโดดถีบประตูห้องคนรับใช้ ห้องของนังแพศยาที่ใช้เสน่ห์เล่ห์กลมาทำให้แม่ของเขาหลงรักทั้งยังคิดจะฮุบสมบัติถึงขั้นจะจับเขาแต่งงานหวังสูงเหลือเกินแม่คุณ ริอาจอยากเป็นเมียคนอย่างเขา
ว้าย...!
เสียงกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่อในห้องปรากฏร่างใหญ่ของผู้ชายคนเดียวที่เธอไม่อยากแตะต้อง แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องตอบแทนบุญคุณ เธอจำใจต้องแต่งเพื่อทำความหวังสุดท้ายของผู้ที่กำลังนอนป่วยอยู่บนตึกใหญ่ให้เป็นจริง
แววตาของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธ เขาใช้มือกำรอบแขนของเธอจนแน่นและออกแรงบีบแทบสุดกำลัง
“โอ๊ย...คุณตุลย์ภพ พินเจ็บ” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเขาบีบรัดรอบแขนของเธอจนแทบจะแหลกคามือ
“เธอไปพูดอะไรกับแม่ฉัน ท่านถึงได้ขอร้องให้ฉันแต่งงานกับคนอย่างเธอ” เสียงเค้นถามเหมือนเสียงตะโกน แทนที่จะพูดคุยด้วยดี ๆ ของเขานั้นทำให้เธอต้องหดคอเหมือนเต่า ดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำตาแห่งความหวาดกลัว
“ปะ...เปล่า...พินไม่ได้พูดอะไร...” เสียงเธอเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก แต่ไม่ทันได้หายใจเขาก็เอามืออีกข้างรวบที่คอของเธอ ชายผู้นั้นต้องการจะฆ่าเธอให้ตาย
อ๊ะ...แค้ก แค้ก...!
หายใจไม่ออก...!
เขาใช้ฝ่ามือบีบคอเธอโดยเธอยังไม่ทันตั้งตัวร่างเล็กพยายามดิ้นรนแกะมือเขาออกเพื่อเอาชีวิตรอด เธอสัมผัสได้ว่าความตายกำลังมาเยือน เพราะออกซิเจนในปอดกำลังจะหมดลง สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดบอกให้เธอต้องฮึดสู้ ทำให้เธอออกแรงเฮือกสุดท้ายยันเขาด้วยฝ่าเท้าเข้าที่ท้องของร่างแกร่งอย่างเต็มแรง
แต่เธอก็สู้แรงเขาไม่ไหว เขาบีบรัดเธอมากขึ้น ดวงตาแดงก่ำเป็นสีเลือดด้วยความโกรธของเขาทำให้เธอรับรู้ว่า เขาฆ่าเธอได้อย่างไม่ปรานีเลยสักนิด เธอค่อย ๆ อ่อนแรงลงและดวงตาค่อย ๆ ปิดไม่ต้องการต่อสู้ สิ่งเดียวที่เธอคิดถึงคือพ่อและแม่
“หยุดนะตาตุลย์ ถ้าแกไม่หยุดแม่จะยกทุกอย่างให้กับหนูพินดารา รวมทั้งบริษัทที่แกทำงานอยู่ทุกวันนี้ด้วย” วาดนภามารดาของตุลย์ภพต้องลากสังขารที่ไร้เรี่ยวแรงถดถอยและไม่น่าจะมีอายุพ้นเดือนตวาดห้ามลูกชายอย่างสุดเสียง เพื่อช่วยให้พินดารารอดพ้นจากความบ้าคลั่งของลูกชายตัวเอง
“หึย...!
“สมน้ำหน้า...แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับผู้หญิงหิวเงินอย่างเธอ” เสียงที่เปล่งมาลอดไรฟันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและขยะแขยงในตัวเด็กสาว
เขาเหวี่ยงเธอไปบนเตียงอย่างเต็มแรง แล้วเดินออกไป ไม่สนใจว่ามารดาจะว่ากล่าวเช่นไร
แม่บ้านสาวรีบไปดูร่างของพินดาราที่กำลังหายใจแรง ๆ ใบหน้าไร้สีเลือดของเธอช่างน่าสงสารนัก เวรกรรมจริง ๆ
“หนูพินเป็นอย่างไรบ้างลูก” วาดนภาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เธอเป็นห่วงพินดารามาก หากไม่มีเธอแล้วน่ากลัวว่าชีวิตของหญิงสาวจะตกระกำลำบาก เพราะเธอเลี้ยงเด็กคนนี้มาตั้งแต่ยังเป็นสาวแรกรุ่น พ่อแม่ของพินดาราเสียชีวิตไปหมด มีเพียงเธอที่เป็นเพื่อนของแม่เด็กสาวที่เวทนาและสงสารหลาน จึงรับมาเลี้ยงเหมือนลูกอีกคน
“คุณป้า” เด็กสาวเรียกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้มอย่างน่าสงสาร
“ไม่เป็นไรลูกไม่เป็นไร” วาดนภาดึงเธอเข้ามากอดพลางถอนหายใจลึกวันนี้เธออ่อนแรงนัก นอกจากต้องรับมือกับพ่อลูกชายตัวดีที่อาละวาดมาจากข้างบนตึกใหญ่ จนมาหาเรื่องทำร้ายพินดารา ทำให้เธอครุ่นคิดเรื่องที่เพิ่งตัดสินใจไป
“คุณตุลย์ภพคงรังเกียจพินมาก อย่างไรไม่จัดงานแต่งดีไหมคะ พินกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่” พินดาราเสนอทางออก
“หนูจะอยู่คนเดียวได้อย่างไร ป้าเป็นห่วงเกิดมีผู้ชายที่ไหนมารังแกล่ะ” วาดนภารักเธอเหมือนลูก หญิงสาวเรียนงานบ้านงานเรือน เย็บปักถักร้อยจนเป็นทุกอย่าง เก่งกว่าพวกที่เคยฝึกมานานแล้วเสียอีก
“พินอยู่ได้ค่ะ”
“ป้าขอแค่ให้แต่งงานกันให้ป้าเห็นก่อนตายเถอะนะ ป้าจะได้หมดห่วง” วาดนภาอยากให้เธออยู่ครองเรือนกับลูกชายให้ครบปี แล้วถ้าหากไปกันไม่รอดค่อยหย่ากัน
คนอยู่บ้านเดียวกัน รู้จักสิ่งที่ชอบไม่ชอบ สักวันต้องเข้าใจกันอยู่ดี เดี๋ยวคงจะรักกันไปเอง
วันงานแต่ง...
จูบเลย จูบเลย จูบเลย...!
เสียงโห่ร้องด้านล่างเวทีเชียร์ให้บ่าวสาวแสดงความรักต่อกัน ซึ่งเป็นการจัดฉากให้ดูหวานซึ้งเท่านั้น
ชายหนุ่มปั้นหน้ายิ้มแล้วก้มกระซิบข้างหู
“ฉันไม่เคยรักเธอจำเอาไว้...!”
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีรวมทั้งคุณหญิงวาดนภา ต่างอมยิ้มให้กับแขกเหรื่อ เมื่อเห็นบ่าวสาวรักกันก็อดเอ็นดูไม่ได้
แต่ใครจะรู้ดีเท่าพินดาราเล่า ความเจ็บปวดมันแล่นแปลบเข้ากลางใจ ราวกับมีเข็มนับร้อยนับพันเล่มทิ่มแทง เพียงเพื่อให้ผู้มีพระคุณยิ้มได้ เธอจะยอมทน
“เข้าห้องหอ อย่าลืมอ้าขากว้าง ๆ นะแล้วฉันจะตอบแทนเธอด้วยใบหย่า” เสียงกระซิบด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นคำพูดที่ทำให้พินดาราอยากร้องไห้เสียมากกว่า เขาใจร้ายไม่พอยังคิดข่มเหงรังแกกันอีก
“ฉันตกลงหย่าให้คุณแล้ว...ทำไม...”
“ใช่ ตกลงแต่เธอจะไม่ให้ฉันได้อะไรจากเธอเลยหรือไง เอาเปรียบกันเกินไปแล้ว” เสียงกระซิบอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“ฉันไม่เคยเอาอะไรของคุณไป”
“แค่แย่งความรักจากแม่ฉันไปหลายปีก็เกินพอแล้ว...” เขากระแทกเสียงให้ได้ยินเพียงลำพังสองคน เพราะใกล้เวลาเข้าหอ คนที่ไปส่งตัวก็ต่างเดินมาสมทบ
พินดาราหลับตาเพราะต้องการสงบจิตสงบใจ เพื่อรอคอยการลงทัณฑ์ราวกับจะผ่านด่านเคราะห์สวรรค์ก็ไม่ปาน
‘นี่เธอเป็นหนี้เขาแต่ชาติปางไหน’