บทที่1 คืนเข้าหอ

1905 คำ
พินดาราเดินเคียงคู่ไปกับตุลย์ภพพร้อมกับผู้ใหญ่ที่มาอวยพรให้กับพวกเขาสองคน ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มเหมือนไม่ยิ้มของเขา ทำให้พินดาราตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าตนจะเจอกับอะไรบ้าง “ป้าขอให้หนูพินของป้ามีความสุขนะลูก ต่อไปนี้เรียกป้าว่าแม่ได้เต็มปากแล้วนะ” วาดนภาที่อยากได้พินดารามาเป็นลูกสาวก็ได้สมใจก่อนตายเสียที เมื่อก่อนหญิงสาวไม่กล้าทำสิ่งใดที่เสมอเหมือนตุลย์ภพ เพราะเกรงใจชายหนุ่ม กลัวจะถูกหาว่าตีตนเสมอเขา ความเจียมเนื้อเจียมตัวของเธอ ทำให้วาดนภาหลงรักเธอและคิดว่าตุลย์ภพก็จะรักน้องเช่นเดียวกัน “ขอบคุณค่ะคุณป้า” หญิงสาวพนมมือไหว้ที่หน้าอกอย่างสั่นเทา คนอื่นอาจจะคิดว่าเธอร้องไห้ด้วยความดีใจ แต่ทว่ามีเพียงเธอกับเขาที่รู้ข้อตกลงนี้ ย้อนไปก่อนแต่งงานหนึ่งเดือน... “ฉันมีเรื่องจะตกลงกับเธอ” ตุลย์ภพเรียกพินดาราให้มาหาที่ห้อง เพื่อจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะแม่เขาเป็นคนตัดสินใจเองเรื่องแต่งงาน เขาไม่ได้อยากแต่ง และชีวิตนี้เขาไม่ชอบเอาใครมาเป็นภาระผูกพันหรือจะต้องมีผัวเดียวเมียเดียว เขาหวงแหนชีวิตอิสระเป็นอย่างยิ่ง แต่แม่ของเขากลับจะมาพรากมันไป “ค่ะ คุณตุลย์” “ใครสั่งให้เธอเรียกชื่อฉันสั้น ๆ ...เรียกฉันชื่อเต็ม” เสียงคำรามดังขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อเธอทำตัวเหมือนกับสนิทสนมกับเขา คงคิดว่าถ้าแต่งงานกับเขาแล้วจะทำตัวตีเสมอคนอย่างเขาได้สินะ หึ! ไม่มีวัน “ขอโทษค่ะ คุณตุลย์ภพมีเรื่องจะตกลงกับพินเรื่องอะไรคะ” เธอก้มหน้านั่งกับพื้นเหมือนคนรับใช้คนอื่น ซึ่งเขาก็มองเธอแบบนั้นมาตลอด อีกทั้งไม่เคยให้เธอขึ้นมาเหยียบบนตึกใหญ่ในฐานะหลานของคุณท่านอย่างที่คุณท่านให้เป็น ที่หลับที่นอนของเธอเขาก็เป็นคนสั่งให้ไปนอนห้องพักคนรับใช้ แต่เธอก็ไม่ได้คิดอยากจะมานอนรวมกับคุณ ๆ ด้านบนตึกอยู่แล้ว ยิ่งคิดถึงเรื่องแต่งงานยิ่งไม่กล้าฝัน แต่คุณวาดนภากลับให้เธอแต่งงานกับเขา คำขอร้องสุดท้ายเพราะคุณวาดนภาป่วยด้วยโรคร้าย เวลาเหลือน้อยลงทุกที “คืนแต่งงานฉันจะหย่าทันที” “ค่ะ” หญิงสาวได้แต่รับคำเพราะว่าคงทำอะไรไม่ได้ เขาไม่ได้เต็มใจ เธอเองก็จำใจต้องทดแทนบุญคุณเท่านั้น ถึงจะเป็นหม้ายทั้งที่เพิ่งแต่งงานก็ต้องยอม เธอไม่มีสิทธิใดไปเรียกร้องเขาอยู่แล้ว “แต่ระหว่างเธอกับฉัน เราไม่เกี่ยวข้องกัน ที่นอนของเธอที่พื้น ส่วนฉันจะพาใครมานอนบนเตียงนี้ก็ได้ เธอห้ามมาสอด อ้อ...หน้าที่บนตึกของเธอมีอย่างเดียวคือดูแลคุณแม่ ส่วนหน้าที่เมีย เดี๋ยวฉันจะหาคนมาทำเอง” เขาสาดคำพูดอย่างไม่ให้เกียรติเธอ ทำเหมือนเธอเป็นตัวขยะที่น่ารังเกียจชิ้นหนึ่ง แม้ตำแหน่งเมียเขาก็ไม่ยอมให้เธอได้ใช้มัน “ตราบใดที่คุณแม่ยังอยู่ เธอห้ามทำให้ท่านต้องกังวลใจ และเรื่องหย่าก็ห้ามพูดเด็ดขาด” “เข้าใจแล้วค่ะ” หญิงสาวรับคำด้วยน้ำเสียงเรียบ พยายามไม่คิดอะไรมาก แม้จะโดนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีแต่เธอก็ยินดี เธอจะทนเพื่อคุณวาดนภาเท่านั้น เรื่องอื่นเธอจะไม่สนใจทั้งนั้น รวมทั้งเขาด้วย “เข้าใจแล้วก็ดี” เมื่อผู้ใหญ่อวยพรตอนเข้าหอเสร็จ ประตูก็ปิดลงเหลือแค่เธอและเขา หญิงสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุดไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ชายหนุ่มเห็นเธอนั่งนิ่งที่ปลายเตียงก็แสยะยิ้มอย่างน่าเวทนานี่เหรอผู้หญิงที่คิดจะจับเขา ดี...เช่นนั้นเขาจะทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุด “นั่งซื่อบื้อทำอะไรอยู่ รีบ ๆ เข้าสิ” เขาสั่งเสียงเข้มหงุดหงิดใจนัก อยากจะมีผัวแต่ไม่รู้ต้องทำยังไง “คะ?!” หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปมเชิงถามเขา เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะให้ทำอะไร “ถ่างขาออกสะสิ...อยากมีนักไม่ใช่เหรอผัวอะ ฉันก็จะสนองให้ไง ให้เธอใช้ฐานะเมียได้อย่างใจอยากสักชั่วโมง ค่อยเซ็นใบหย่า” เสียงสั่งราวกับตะคอกจนเธอสะดุ้ง ใบหน้าเล็กเริ่มตื่นกลัว เขาคิดจะมีอะไรกับเธอจริง ๆ เหรอ...ใบหน้าเล็กส่ายไปมาราวกับไม่อยากให้มันเกิดขึ้น น้ำตารื้นขึ้นที่ขอบตา “คะ...คือว่า...ไม่ต้องมีอะไรก็ได้นะคะ เซ็นก็จบ” “จบงั้นเหรอ เธอคิดว่าเราแต่งงานกัน ฉันไม่เสียอะไรเลยหรือไง แล้วไอ้ชุดเปิดอกไปครึ่งเต้านี่คือตั้งใจจะมายั่วฉันใช่ไหม คิดว่าฉันอ่านเธอไม่ออกหรือไง” สายตาดูถูกเหยียดหยามสาดไปทั่วร่าง เธอก็ไม่ต่างจากผู้หญิงที่ยืนข้างถนนมืด ๆ แล้วคอยโบกรถผู้ชายที่ผ่านไปผ่านมา เพื่อให้ไปโรงแรมเพียงชั่วคราวนักหรอก “คะ...คือว่าเอ่อ...” “อย่ามาลีลา ฉันไม่ได้ว่างขนาดรอเธอได้ทั้งคืนหรอกนะ” เขาหัวเสียกับท่าทีเหมือนไม่เป็นงานของเธอนัก อยากมีผัวแต่ไม่ศึกษามาเลยนี่นะ “เร็วเข้าถ่างขาออก” เขาสั่งให้ถ่างออกแต่เธอกลับหนีบขาแน่น กลัวไปหมดเธอไม่เคยเจอผู้ชายหยาบคายขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากันแล้วก็เถอะ แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นทำไมเขาถึงอยากให้เธอทำเหมือนเป็นเรื่องจริงก็ไม่รู้ หัวใจหญิงสาวเต้นตุบราวกับว่ามันกำลังจะหลุดมานอกอก ตัวเองรู้สึกตื่นกลัวไปหมด ชายหนุ่มหันไปถอดสูทแล้วปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนออกสองเม็ดเมื่อหันมาเธอก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน นั่นยิ่งทำให้เขารำคาญใจนัก “ชักช้าน่ารำคาญ” เขาเดินไปใกล้เตียงแล้วผลักเธอนอนลงพลางจับขาทั้งสองข้างของเธอฉีกออก “อ๊ะ...!” หญิงสาวทั้งตกใจและตื่นกลัว แต่ก็ไม่อาจจะต่อต้านเขาได้ เธออยากร้องให้คนช่วย แต่ใครจะช่วยได้เล่า ในเมื่อคืนเข้าหอมันก็ต้องมีอะไรกัน หญิงสาวกำผ้าปูที่นอนแน่นหลับตาปี๋ข่มความกลัวทั้งหมดไว้ เขาเห็นเธอนอนนิ่งทื่อเป็นท่อนไม้ก็เริ่มหงุดหงิด “อย่างเธอไม่ต้องถอดหรอก อยู่ในชุดแต่งงานนี่แหละ ฉันไม่อยากเห็นเรือนร่างของเธอนักหรอก” “คะ...คือว่า” “ทำไมอยากเรียกร้องอะไรอีก” แค่เสียงเธอที่เปล่งออกมาก็ทำให้เขาขุ่นมัวได้แล้วเขาไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง และก็ไม่อยากแตะต้อง แต่เขาต้องทำให้เธอเจ็บปวดให้ถึงที่สุดจะได้เลิกอยากได้เขาเป็นผัว “เปล่าค่ะ” หญิงสาวเพียงแต่อยากให้เขาเบามือกับเธอเพราะเธอยังไม่เคย แต่ทว่าเขากลับไม่ฟังเสียงใด เสียงเข็มขัดที่ถูกปลดร่วงลงพื้นทำให้เธอสะดุ้งอีกครั้ง มือของเขาล้วงเข้าไปใต้กระโปรงดึงชั้นในลูกไม้สีขาวบริสุทธิ์ออกมา ชุดเจ้าสาวที่ฟูฟ่องถูกเลิกจนปิดบังใบหน้า เขาอยากจะระบายแค้นกับเธอจนไม่คิดจะเล้าโลมสิ่งใดเลย เมื่อจัดการสิ่งขวางกั้นออกสำเร็จ เขาก็ตะบี้ตะบันรังแกเธอในทันที “อ๊ะ...แน่นชะมัด...!” เขาสบถอย่างหัวเสียแต่ก็ไม่ยั้งแรงลงเลยสักนิด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอบอวลไปทั้งห้อง เมื่อเขาข้ามผ่านเยื่อบริสุทธิ์ของหญิงสาว เธอนับว่าเป็นคนแรกที่เขาได้ทำลายพรหมจรรย์ เพราะเขาไม่เคยขืนใจใคร คนอย่างเขาหากไม่สมัครใจก็ไม่เคยบังคับ แต่กับเธอไม่เหมือนกัน ทั้งแค้นใจที่เธอแย่งความรักของแม่ไป ทั้งแค้นใจที่เธอคิดจะเผยอขึ้นมาเป็นนายหญิงของบ้าน เบื้องหน้าที่ทำตัวน่าสงสารให้แม่เขารักและเอ็นดู แต่เบื้องหลังเธอมันตัวน่ารังเกียจ “ฮึก...!” พินดารากลั้นน้ำตาไว้ กลืนความเจ็บปวดที่เขาย่ำยีทั้งด้วยวาจา และการกระทำ ร่างเล็กไม่ไหวติงยามที่เขาเคลื่อนเข้ามา กระทั่งการเล้าโลมที่ควรจะเป็นเขาก็ไม่สนใจ เขารังเกียจขนาดไม่อยากแตะต้องกายเธอ แต่เขาก็ยังเหยียบย่ำศักดิ์ของเธอให้จมธรณี เธอกัดริมฝีปากแทบห้อเลือด อดทนต่อความเจ็บปวดที่แสนยาวนาน กว่าเขาจะปลดปล่อยมันออก เขารังเกียจเธอแต่ไม่คิดจะป้องกัน เธอก็ได้แต่เจ็บปวดทั้งกายและใจ เมื่อเขาได้ความบริสุทธิ์ของเธอสมใจอยากแล้ว เขาก็ลุกออกจากร่างเธอเข้าห้องน้ำ รีบอาบน้ำชำระร่างกายโดยทันที เหมือนตัวเธอเป็นสิ่งสกปรก ร่างเล็กไม่เหลือแรงจะยืนหยัดขึ้น ปล่อยให้น้ำตารินไหลอาบสองข้างแก้ม ความปวดร้าวที่ช่องคลอดของเธอยังชัดเจน แม้แต่ตอนเขาออกจากห้องน้ำเขาก็ยังอดเอ่ยคำพูดที่บาดหูกับเธอไม่ได้ “ทำไมชอบบทรักของฉันขนาดนั้นเชียว ถึงได้นอนนิ่งซึมซับความสุขอยู่ได้ สวรรค์ของเธอจบแล้ว ตื่น ยอมรับความจริงซะ” เขารู้สึกสาแก่ใจนักที่ทำให้เธอต้องเป็นผู้หญิงมือสอง จะได้เหมาะกับการเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว พินดาราไม่ตอบโต้สิ่งใด เธอเลือกจะนิ่งเงียบหลับตายอมรับชะตากรรมนี้เสีย หวังว่าค่ำคืนนี้มันจะเป็นค่ำคืนที่แสนทรมานคืนสุดท้ายของเธอ หวังเพียงเขาอย่ามาวุ่นวายกับเธออีกเป็นดีที่สุด “อ่อ...นี่ใบหย่าเซ็นซะ อย่าให้ฉันต้องพูดมาก” เขาโยนเอกสารหย่าร้างที่เอามาจากทนายให้กับเธอ และมองสภาพของเธอด้วยแววตาสมเพชคิดว่าเขาจะพิศวาสความสาว ความบริสุทธิ์ของเธอสินะ ฝันไปเถอะ พินดาราขยับร่างกายอย่างเจ็บปวด ลุกขึ้นมาเซ็นเอกสารและยื่นซองกลับไปให้เขา เธอไม่เอ่ยปากพูดกับเขาแม้เพียงครึ่งคำ เธอทำตามคำสั่งอย่างเงียบเชียบราวกับคนเป็นใบ้ก็ไม่ปาน “ดี...อ้อ...ฉันจะแตะต้องเธอแค่ครั้งนี้เท่านั้น หากอยากได้อีกก็ไปหากินเอานะ ผู้หญิงอย่างเธอให้ฟรีฉันก็ยังไม่อยากได้” ร่างใหญ่สาดคำพูดที่เสียดแทงเธอก่อนเขาจะแต่งตัวออกจากห้องหอไป ดีที่เขาเลือกใช้โรงแรมเป็นห้องหอ เพราะจะได้ออกไปข้างนอกได้ง่าย หากอยู่บ้านแล้วหนีออกไปข้างนอกแบบนี้มีหวังแม่เขาได้ด่าตาย เขาขับรถออกไปจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เจ้าสาวป้ายแดงอยู่ในห้องหออย่างเดียวดาย หญิงสาวนั่งกอดเข่าร้องไห้กับชีวิตของตัวเอง เหตุใดเธอต้องเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ด้วยนะ “ผู้ชายสารเลว” เธอได้แต่ด่าเขาลับหลังเท่านั้น ต่อหน้าเธอไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม