"พี่ครับ คิดเงินรวมไปเลย" เขาเอ่ยตัดหน้าคนตัวเล็กไป โดยที่เธอไม่ทันจะได้จ่ายเงินเลยด้วยซ้ำ
"...!!"
เมื่อกี้เห็นแวบๆ ว่าราคาค่าถุงยางเจ็ดสิบกว่าบาทเลยเหรอ
อ๊ากกกกกกก!! แพงกว่าข้าวกลางวันของเธออีกนะเนี่ย!
แต่อย่างน้อยก็อาจถูกกว่าค่าเลี้ยงดูเบบี้ที่จะเกิดมาแบบนี้ก็คุ้มแหละ
สายขิมทำเพียงยืนมองพนักงานคิดเงินกับบรรดาของที่เขาซื้อโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ไม่กล้าแม้จะเงยหน้าไปมองเขาอีกด้วย เพราะแค่ยืนข้างกันก็รู้สึกขนลุกเหมือนมีรังสีอาฆาตของวิญญาณจ้องมองมาเลยเหอะ!!
"ทั้งหมดสามร้อยเจ็ดสิบบาทค่ะ" พนักงานสาวเอ่ยพร้อมกับวางของที่ถูกใส่ในถุงเรียบร้อยแล้วตั้งบนเคาน์เตอร์
"..." แต่ก็ไร้ความเคลื่อนไหวของร่างสูงข้างกายเธอ
"เอ่อ คุณลูกค้าคะ ทั้งหมดสามร้อยเจ็ดสิบบาทค่ะ" พนักงานเอ่ยบอกเขาอีกครั้ง มองร่างกำยำที่ยืนจ้องหน้าคนตัวเล็กพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง โดยไม่ได้สนใจสิ่งที่พนักงานเอ่ยพูดแม้แต่น้อย
"..."
"คุณลูกค้าคะ..."
เธอเองที่ยืนฟังอยู่ตั้งนานก็เงยหน้าไปมองเขา ก็พบเจ้ากับสายตาคู่คมที่จ้องมาอย่างไม่วางตา อย่างกับวิญญาณอาฆาตของจริง แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเพราะพนักงานจะเอาเครื่องคิดเงินฟาดหัวเขาแล้วเนี่ย!
"เจย์อาร์จ่ายเงินดิ ไม่ได้ยินที่เขาพูดหรือไง เหม่ออะไรของนายน่ะ!"
เธออายนะโว้ย มีคนรอคิดเงินต่อหลังด้วย แต่เขาดันไม่ได้ยินสิ่งที่พนักงานพูดเสียได้ แต่เพียงไม่นานเขาก็ส่งเงินให้พนักงานพร้อมกับรับเงินทอนไป ก่อนจะเดินออกมายังหน้าร้านในที่สุด
"ขอของด้วย ของฉันเจ็ดสิบบาทใช่ปะ เมื่อกี้เห็นแวบๆ"
เมื่อเดินผ่านหน้าประตูร้านออกมาได้ คนตัวเล็กก็แบมือขอของที่เขาจ่ายให้เธอทันที เพราะเสียงแช็ตของสายป่านดังถี่ๆ เหมือนกดดันเธออยู่กลายๆ ดังแว่วเข้ามา
แต่ร่างสูงตรงหน้ากลับบ่ายเบี่ยงพร้อมกับเดินหนีเธอเสียได้
"ของเธอได้ไง เมื่อกี้ฉันจ่ายเงินนะ"
"อ้าว ก็นายมาแซงคิวฉันนี่ แล้วอันนั้นฉันเป็นคนซื้อด้วย" นี่เขาจะเอายังไงกับเธอเนี่ย สายขิมได้แต่เดินตามเขาไปต้อยๆ แต่เมื่อจะคว้าถุงที่อยู่ในมือเขา เจย์อาร์กลับชักมันกลับ เธอจึงคว้าได้แต่อากาศ...
"ไม่ให้..." เขาเอ่ยพร้อมกับยักคิ้วใส่เธออย่างกวนๆ นี่มันจะกวนประสาทกันมากเกินไปแล้วนะ
"ได้ไง นายอยากได้ก็ไปซื้อใหม่ดิ : ("
อยากได้ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า มาเอาของเธอทำไม แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ฟังคำพูดของคนตัวเล็กเลยด้วยซ้ำ เพราะวินาทีต่อมาร่างกำยำกลับยืนกอดอกมองเธอนิ่ง สีหน้าเขาเหมือนจะไม่พอใจอยู่มาก
"ผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร ถึงกล้าให้ผู้หญิงมาซื้อของแบบนี้วะ"
"ฉันจะไปรู้มันเหรอ"
ใครจะไปรู้ล่ะ เธอไม่ได้เป็นคนใช้มันสักหน่อย :( แล้วทำไมต้องแยกเขี้ยวใส่เธอขนาดนั้นด้วย
"มีแฟนแล้วหรือไง ถึงซื้อของแบบนี้น่ะ มีแฟนทำไมไม่บอกวะ ไม่สิ ใครแม่งมาตัดหน้ากูวะ!" ใบหน้าหล่อของเขามันยับยู่ยี่ตามแรงอารมณ์ พร้อมกับมือแกร่งที่ยกขึ้นดึงทึ้งเส้นผมของตัวเองแรงๆ อย่างหัวเสีย
นี่เขาสติแตกไปแล้วหรือไง ถึงได้ประสาทแดกอะไรขนาดนี้ ประโยคที่เขาเอ่ยมาเมื่อกี้เธอฟังไม่ถนัดเสียด้วยเพราะเขาเอาแต่พึมพำด้วยใบหน้าหงุดหงิดเหมือนไปกินรังแตนมาอย่างไรอย่างนั้น
แต่ใครสน? ตอนนี้เธอต้องเอาของไปให้สายป่านเพราะโทรศัพท์ของเธอมันแผดเสียงจนน่ารำคาญแล้ว และดูเหมือนเขาจะลอบมองโทรศัพท์ของคนตัวเล็กที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกด้วย
"นายเลิกกวนตีนก่อนนะ เอาของมาได้แล้วเดี๋ยวจ่ายเงินให้ เขาโทรตามแล้วเนี่ย"
'เขา' ที่ว่าคือสายป่านนั่นแหละ เธอแค่ไม่อยากบอกชื่อไปให้เพื่อนเสียหาย แต่คำพูดของเธอดูเหมือนจะเป็นน้ำมันที่ราดลงบนไฟ เพราะสีหน้าเขาตอนนี้ดูสิ้นหวังสุดไรสุด อีกทั้งยังแดงก่ำคลับคล้ายว่ากำลังไม่พอใจอีกด้วย
"ไม่ให้โว้ย!" เขาเอ่ยพร้อมกับยกมือหมายจะพุ่งเข้ามาเขย่าตัวเธอตามแรงอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่น
จิ๊! ถ้าอยากได้ไปใช้เองเธอไปซื้อให้เขาทีหลังก็ได้ไหม ไม่เห็นต้องโกรธกันขนาดนั้นก็ได้ : (
"นี่ไอ้บ้า! ถ้าอยากได้ก็บอกกันตรงๆ สิ ฉันจะได้บอกพนักงานให้เอามาสองกล่องน่ะ มาแย่งกันแบบนี้ไม่น่ารักเลย : (" คนตัวเล็กเอ่ยพลางตำหนิเขาไปด้วย เอาของคนอื่นไปมันไม่น่ารัก ถ้าอยากได้ก็ขอกันดีๆ สิ
แต่เขากลับ...
"ใครว่าฉันอยากได้ แล้วที่สำคัญไซซ์ฉันไม่ใช่ 52 ด้วยโว้ย" เขาโวยวายใหญ่พลางเบะปากสีหน้าดูถูกไซซ์ 52 สุด ทำมาเบะปาก เขาเล็กกว่านี้เปล่า...
โถ่~ 49 หรือเปล่า ทำมาพูดดดด! : (
"ใครอยากรู้ไม่ทราบ เอามาเลย"
เอามานี่เลยนะ!! ไอ้บ้าเอ๊ย! เริ่มจะโมโหกับคนที่พูดไม่รู้เรื่องแบบหมอนี่แล้ว
"บอกมาก่อนมาว่าผู้ชายมันเป็นใคร" เขาหลบมือเล็กที่พยายามคว้าถุงที่เขาถือไว้ พร้อมกับชูมันขึ้นเหนือหัวราวกับยื่นคำขาด
"ไม่รู้ ฉันไม่ได้เอาไปใช้กับเขาสักหน่อย"
"แล้ว?" เขาเลิกคิ้วเชิงถาม
"ฉันแค่ซื้อให้เพื่อนเท่านั้น เอามาได้แล้ว"
คนตัวเล็กกระโดดหมายจะคว้าถุงนั้นที่เขาชูเอาไว้ พลางใช้มือข้างหนึ่งจับเสื้อเขาไว้เพื่อทรงตัวอีกด้วย ส่วนร่างสูงก็ใช้มือที่ว่างโอบเอวเล็กไว้หลวมๆ เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กเสียหลักจนหกล้ม
"เหอะ! แถไม่ขึ้น เพื่อนที่ไหนจะฝากซื้อของส่วนตัวแบบนี้ ของเธอใช่ไหม"
และดูเหมือนเขาจะไม่เชื่อคนตัวเล็ก แต่ใครจะสน เพราะวินาทีต่อมาเธอใช้ส้นเท้ากระแทกลงไปที่ปลายเท้าเขาเต็มแรง จนเขาต้องยอมลดมือลง จนเธอสามารถคว้าถุงมาได้ในที่สุด
"โอ๊ย!" เขาอุทานเสียงแผ่วพร้อมกับกระโดดเหยงๆ เพราะความเจ็บตรงปลายเท้า ไม่ได้คิดว่าเธอจะกล้าทำร้ายเขาแบบนี้
ยัยตัวดีเอ๊ยยยย เจ็บโว้ยยย!!!
"ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า! กวนประสาทอยู่ได้ คนเขารีบอยู่" เมื่อค้นของที่อยากได้มาออกมาจากถุงได้ก็รีบเอาแบงก์ร้อยยัดใส่ถุงให้เขาทันที ก่อนจะแขวนมันไว้ตรงรถบิ๊กไบค์ที่จอดอยู่ตรงหน้า แล้วรีบวิ่งไปยังรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่จอดรอผู้โดยสารอยู่ตรงหน้าร้านทันที โดยไม่สนใจเสียงที่เขาตะโกนตามหลังมาแม้แต่น้อย
"ยัยตัวแสบ... อย่าให้กูรู้นะว่าไอ้ตัวผู้แม่งเป็นใคร จะฉี่รดขามันให้ชุ่มไปด้วยเยี่ยวกูแน่!! ดูถูกคนอย่างไอ้เจย์เกินไปแล้ว มีแฟนงั้นเหรอ รอกูเสียบแทนได้เลย :("
หัวเสีย! หงุดหงิด! เขาได้แต่ขยี้ผมแรงๆ จนมันเสียทรงโดยไม่แคร์อะไรใดๆ จากปกติที่ชอบเซตผมให้เป็นทรงอยู่ตลอดเวลา แต่วินาทีนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว อารมณ์เสียอยากระบายอารมณ์ฉุนเฉียวออกมา จนต้องระบายมันกับขวดน้ำเปล่าที่วางอยู่ข้างกำแพงเซเว่น โดยการเตะมันอัดเข้ากับกำแพงที่อยู่ตรงนั้น
พลั่ก!
"โอ๊ย! เชี่ยเอ๊ย!" แต่มันดันกระเด็นกลับมาตกลงบนหัวเขาได้ แม่งเอ๊ย! หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมอีก!!
สายขิมนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าเซเว่นไปยังโลเคชันที่สายป่านได้ส่งให้เธอเมื่อห้านาทีที่แล้ว ระยะห่างจากตรงที่เธอขึ้นรถมอเตอร์ไซค์กับปลายทางค่อนข้างไกลเลยทีเดียวเพราะมันอยู่ห่างกันเกือบๆ เก้ากิโลเมตร ยิ่งเลี้ยวเข้ามาเป็นซอยแคบๆ รถก็ยิ่งติดใช่ย่อยเลยด้วย
คนตัวเล็กได้แต่นั่งหน้างอบนรถ ในตอนที่ติดไฟแดงอยู่ตรงสี่แยกก่อนเลี้ยวเข้าไปยังคอนโดที่สายป่านอยู่ แต่สายตามันดันเหลือบไปเห็นกระจกมองหลัง ที่ปรากฏรถใครบางคนที่จอดหยุดไฟแดงอยู่ข้างหลังเธอ
ขวับ!
สายขิมหันขวับไปมองก็พบว่าเป็นเจย์อาร์อย่างที่คิดจริงด้วย ในตอนนี้เขาสวมเสื้อแจ็กเกตหนังสีดำ พร้อมกับหมวกกันน็อกเต็มใบ ยิ่งเห็นของที่แขวนไว้แฮนด์รถเป็นถุงเซเว่นก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นเขา
แต่จะพูดว่าเขาตามเธอมาก็ไม่ถูกเพราะทางนี้เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้กัน อีกทั้งยังผ่านมหา’ลัยด้วย บางทีเขาอาจไปซ้อมบอล เมื่อคิดแบบนั้นเธอเองก็ไม่ได้สนใจเขาอีก
"พี่คะ เลี้ยวขวาเข้าคอนโดเลยค่ะ"
คนตัวเล็กเอ่ยบอกพี่วินเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว จนกระทั่งรถพี่วินวิ่งเข้ามาจอดใต้คอนโด คนตัวเล็กก็รีบจ่ายเงินใบสุดท้ายให้พี่วินมอ’ไซค์ทันที เพราะเงินที่เหลือเธอจ่ายมันไปกับค่าถุงยางของสายป่านไปแล้ว เดี๋ยวค่อยไปเอาคืนสายป่านข้างบนแล้วกัน
ว่าแล้วก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังใต้ตึกทันที และวินาทีนั้นที่รถบิ๊กไบค์ของใครบางคนวิ่งผ่านหน้าเธอไป ก่อนจะจอดมันไม่ไกลจากที่เธอยืนเท่าไหร่นัก อีกทั้งเธอยังต้องเดินผ่านตรงจุดที่เขาจอดรถเพื่อเดินไปขึ้นลิฟต์อีกด้วย
ในตอนแรกก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาตามเธอมา แต่ตอนนี้มันทำให้เธอคิดใหม่นี่สิ หมอนี่ตามเธอมาทำไม เขาไม่เชื่อถึงขั้นตามมาดูเลยหรือไง? เป็นอะไรมากปะ
"นี่! นายตามฉันมาเหรอฮะ" คนตัวเล็กตัดสินใจเดินไปหาเขาก่อนเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
แต่คนตอบที่ได้นั้น...
"ใครบอกว่าฉันตามเธอมาไม่ทราบ ฉันต้องมารับเพื่อนต่างหาก"
อะ อ้าว... คนตัวเล็กนิ่งอึ้งเหมือนโดนน็อก รู้สึกละอายใจขึ้นมาที่กล่าวหาเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ ตั้งสติของตัวเองที่ลอยหายไป
"งั้นก็แล้วไป นึกว่าตามฉันมาเสียอีก" คนตัวเล็กยกมือขึ้นถูจมูกของตัวเอง เพราะความประหม่าเล็กๆ นี่เธอก็มั่นใจเกินจนตัวเองหน้าแตกยับเลย
"ชิ! ไม่ได้สวยถึงขั้นต้องตามมาดูสักหน่อย ว่าผู้ชายมันเป็นใคร" เขาบ่นอุบอิบ แต่เธออยู่ใกล้จนได้ยินทุกประโยค
"นี่! ประโยคหลังไม่ต้องพูดก็ได้ปะ : ("
ว่าแล้วก็รีบสะบัดหน้าใส่เขาทันทีที่เขาพูดว่าเธอไม่สวย ก่อนจะเดินสาวเท้าไปยังลิฟต์โดยไม่สนใจเขาอีก เจย์อาร์มันปากเสียใส่เธอไม่หยุดเลย
ไอ้คนปากหมา หน้าหมา สันดานหมา!! คำนี้ได้แต่ก่นด่าในใจเท่านั้น เพราะกลัวเขาจะสวนกลับด้วยหมัด เธอระบายความหงุดหงิดของตัวเองโดยการกดลงบนปุ่มลิฟต์อย่างแรง แต่ไม่ทันได้กดปุ่มซ้ำอีกรอบประตูลิฟต์ก็เปิดออกอัตโนมัติ
"อ้าว! ไอ้เจย์มึงมาทำห่าอะไรที่นี่วะ" คนที่เพิ่งเปิดประตูลิฟต์ออกมาเอ่ยทักกับร่างสูงข้างหลังเธอ แต่คนตัวเล็กไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ได้แต่ยืนรอคนอื่นที่อยู่ในลิฟต์อีกคนขนของออกมาจากตัวลิฟต์
"กู... มาหาเพื่อนว่ะ" เจย์อาร์เอ่ยตอบด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนจะเดินเบี่ยงตัวเพื่อเดินมาทางลิฟต์ที่เธอยืนอยู่ แต่เพื่อนเขากลับเอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
"เพื่อน? ใครวะ นอกจากกูก็ไม่มีใครแล้วนี่หว่า" อีกคนกล่าวก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัย
"เพื่อนเอกอื่นไง" เขาเฉไฉ พลางกลอกตาไปมาอย่างรำคาญ
"ใครอีกวะ? ทำไมกูไม่รู้ว่ามันอยู่คอนโดเดียวกับกู"
เพื่อนเขายิ่งขมวดคิ้วไปใหญ่จากที่สงสัยอยู่แล้วกลับยิ่งสงสัยขึ้นไปอีก แต่เธอก็ไม่ได้มีเวลามาแอบฟังสิ่งที่เขาพูด เมื่อคนในลิฟต์ขนของออกจนหมดเธอก็รีบกดปิดลิฟต์ทันที
"ไอ้เชี่ยเซนมึงอย่าเพิ่งเสือกตอนนี้ดิ กูต้องไปแล้วว่ะ" เขาผลักไหล่เพื่อนเบาๆ ให้หลบไปให้พ้นทาง
"อ้าว โดนด่าเฉยเลยกู"
ร่างสูงรีบวิ่งมายังลิฟต์ที่ปิดลงต่อหน้าต่อตา ก่อนจะกดปุ่ม 'ลิฟต์ขึ้น' แต่มันก็ไม่ยอมเปิดให้เขา ใบหน้าหล่อแสดงถึงความหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
ไม่ทัน!! เขาแม่งไม่ทันว่ะ! เพราะไอ้เชี่ยเซนคนเดียวเลย งอนมันแม่งแล้วโว้ย!