ให้ลูก

1224 คำ
คนตัวโตที่นั่งคอตั้งเริ่มเมื่อยแล้ว เขามองตามแผ่นหลังบางที่ห่างออกไปเรื่อย ๆ เธอเดินไปเก็บมะเขือที่ปลูกไว้เป็นแนวยาวตลอดฝั่งด้านข้างของบ้าน ทำได้เป็นระเบียบและน่าอยู่ใช้ได้นี่ แต่นั่นเธอเดินไปไกลเกินหรือเปล่านะ ต้องลำบากลงไปตามดูอีกแล้ว เขาแค่จะไปดูเธอเก็บมะเขือหรอกน่า เกิดเก็บลูกเน่าให้ทำไงล่ะ? เขาจะขาดทุนเอาได้นะ... “เลิกกับมันนานยัง?” เมื่อกี้คิดเรื่องมะเขือจริง ๆ นะ แต่ที่ถามไปนั้นสมองมันยังไม่กรั่นคำถามก็แค่นั้นเอง เดี๋ยวถามเรื่องนี้เสร็จค่อยถามเรื่องผักต่อแล้วกัน “อุ้ย! อะ เอ่อ...นานแล้วมั้งจ๊ะ” เธอตกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาด้านหลังเธอ อีกนิดเดียวก็จะโดนตัวเธอแล้ว น้ำค้างรีบถอยออกห่างก่อนที่จะเอ่ยอึกอัก เธอกลัวเศษดินบนตัวเธอจะไปเปื้อนเขาเอา และยิ่งไปกว่านั้นก็คงไม่กล้าบอกว่าแท้จริงแล้ว เธอกับคนที่เขาเอ่ยถึง ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน “แล้วมันทิ้งอะไรไว้ให้บ้างล่ะ?” อย่าเพิ่งถามถึงเรื่องมะเขือ! รอแป๊บหนึ่ง “...” เธอไม่รู้จะตอบเขาอย่างไรดี ดวงตาคู่กลมสั่นไหวเล็กน้อย ช้อนตามองใบหน้าหล่อเหลาที่เธอเคยหลงใหล ใบหน้าคมรับกับจมูกโด่ง ดวงตาเฉี่ยวลึกแม้ดูน่ากลัวบ้าง ทว่ากลับน่ามองยิ่ง “ดูแล้วก็คงไม่ทิ้งอะไรไว้ให้นั่นแหละ แต่อย่างว่า หวังสูงเองนี่” “อึก!” คำพูดนั้นสาดเข้าใส่หน้าเธออย่างจัง หัวใจดวงน้อยปวดหนึบขึ้นมาอีกครั้ง คำพูดที่ผ่าลึกกลางใจทำให้คนตัวเล็กกว่าสีหน้าดูไม่ได้ เธอไม่ได้หวังสูง แต่แค่ไม่มีสิทธิ์หวังเท่านั้น เพราะเธออ่อนแอ... เชี่_แล้ว เขาพูดแรงไปหรือเปล่านะ แต่ไม่เห็นต้องสนใจนี่ “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ได้อยากรู้หรอก ถามไปงั้น รีบ ๆ เก็บมาฉันจะได้รีบกลับ” เขายอมลดน้ำเสียงลง เธอนี่ดูท่าคงจะกลัวเสียงดังจริงนั่นแหละ พูดเข้าหน่อยก็น้ำตาคลอแล้ว เขาก็ไม่ใช่ไอ้คนชั่วปากหมาที่จะด่าเรี่ยราดนี่? “ดะ ได้จ้ะ แล้วนี่พี่จะกลับกรุงเทพวันไหนหรือจ๊ะ?” น้ำค้างก็ยังเป็นน้ำค้าง เธอเก็บทุกอย่างไว้ในใจ ซ้ำยังเผยใบหน้าส่วนที่ยิ้มแย้มให้เขาอีกต่างหาก เป็นคนอื่นล่ะก็คงชักกรรไกรตัดผักมาแทงคอหอยตายไปแล้วป่านนี้ “ไม่มีกำหนด” “นึกว่าพี่จะกลับเร็ว ๆ นี้ซะอีก” สาวเจ้ายังคงยิ้มได้ ในใจก็แอบชื้นขึ้นมา อย่างน้อย ๆ ก็ยังพอมีเวลาได้เจอะเจอใบหน้านี้ แม้ไม่นานนักก็ตาม แต่ได้เท่านี้ก็เป็นบุญแล้ว “กลับเร็วกลับช้าก็เรื่องของฉันไหม?” เขาขี้เกียจคุยกับเธอแล้ว? จึงเอ่ยทิ้งท้ายเสียงแข็ง ก่อนจะเดินไปนั่งบนแคร่ใต้ต้นมะขามใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลกัน น้ำค้างรู้ตัวว่าเขาไม่อยากคุยด้วย จึงรีบเร่งมือเก็บมะเขือให้เขา เธอเข้าใจว่าเขาคงอึดอัดพอสมควรที่ต้องมายืนคุยกับเธอแบบนี้ แต่ทว่าอีกคนกลับเหยียดกายนอนบนแคร่สบายใจเฉิบ กล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก ช่างผ่อนคลายดีจริง ๆ “พี่กล้าจ๊ะ มะเขือได้แล้วจ้ะ” “ฮะ อ๋อ อืม” ดีนะที่ไม่หลับจริง ไม่งั้นเขาได้เก๊กท่าไม่อยู่แน่ เธอนี่ก็จริง ๆ เลยน้ำค้าง เก็บช้ากว่านี้ก็ไม่มีใครว่าเธอหรอกน่า... “เท่าไหร่?” “ห้าสิบก็พอแล้วจ้ะพี่” เธอเอ่ยเสียงใสพลันยิ้มหวานให้อีกฝ่าย จริง ๆ เธอเก็บให้เขาเยอะมาก แต่ไม่คิดเงินเต็มจำนวน เพราะอยากช่วยทำบุญด้วย แต่หากไม่รับเงินเลย ลูกเธอก็ต้องกินนมกินขนมที่ใช้เงินซื้อนี่ “ฮะ?” เขาอึ้งหน่อย ๆ แต่ก็ปรับสีหน้าเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ชนิดที่ว่าเธอไม่มีทางดูออกแน่นอน ชายหนุ่มควักเอากระเป๋าเงินสีดำในกางเกงขาสามส่วมตัวสั้นที่เขาสวมอยู่ ก่อนจะหยิบเอาธนบัตรสีเทาออกมาห้าใบ ก่อนจะยื่นมันให้เธอ “อือ อะนี่” “นะ หนูไม่มีเงินทอนให้พี่กล้านะจ๊ะ” “ใครบอกว่าฉันจะเอาเงินทอน เอาไป ฉันให้” เขาว่าพลันยัดเงินใส่มืออีกฝ่าย นี่ขนาดทำงานหนักทั้งงานบ้านงานสวนมือยังนิ่มน่าจับมาดมขนาดนี้ได้... “ไม่เอาจ้ะพี่ มันเยอะเกินไปฉันรับไว้ไม่ได้หรอก” เธอส่ายหน้าไปมาราวกับนาฬิกาแกว่งพร้อมกับคืนเงินให้เขา มันเยอะมากสำหรับเธอ เธอไม่กล้ารับจริง ๆ “ฉันให้ก็เอาไปเถอะน่า” “พี่กล้า~” เขาไม่สนใจว่าเธอจะพยายามตามเอาเงินคืน กล้าเดินถือถุงมะเขือกลับขึ้นรถไปทันที รู้ดีว่าหากอยู่ต่อเดี๋ยวเธอก็ยืดเยื้อไม่รับเงินอีก ไว้เดี๋ยวเขามาใหม่แล้วกัน “เอาไว้ให้ลูกกินขนม” “พี่~” ปลายเสียงที่เอ่ยเรียกเขาทั้งเบาทั้งสับสน จนกระทั่งเขาขับรถออกไปทิ้งให้เธอยืนใจสั่น พลันยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว มือเรียวเล็กกุมเงินในมือไว้แนบอก เธอทั้งดีใจและขอบคุณเขา หลังจากนั้นเธอก็รีบเก็บเงินไว้ด้วยความตื่นเต้น วันนี้แม้จะอบอ้าวหน่อย แต่ทว่าเธอกลับมีแรงฮึด ทำงานเสร็จเร็วกว่าปกติ ในช่วงบ่ายจึงปั่นจักรยานไปนาที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เธอลืมของไว้จึงต้องรีบไปเอา เสร็จแล้วก็จะได้ไปรับลูกต่อ เธอเดินดูสวนข้าวโพดสักพัก อันไหนเก็บได้ก็เก็บไปก่อนเพราะเดี๋ยวตอนเย็นพี่ก้องก็จะมาช่วยรับไปขายให้ เธอทำงานไม่สนแดดสนฝน สนก็แค่จะหาเงินอย่างไรมาเลี้ยงดูลูก แต่ทว่าช่วงบ่ายกลับมืดครึ้มเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักลมก็พัดอย่างแรงจนเธอต้องรีบเดินเข้ากระท่อม “อ๊ะ!” ยังไม่ทันเดินเข้าไปหลบก็โดนลมพัดเอาฝุ่นเข้าตาเต็ม ๆ ทั้งเจ็บและแสบเอามาก ๆ เธอมองไม่เห็นสิ่งใดแต่ทว่าหูกลับได้ยินเสียงเครื่องยนต์ขับเข้ามาก่อนเสียงจะดับไป “มายืนเป็นนางเอกเอ็มวีอะไรตรงนี้ เดี๋ยวสังกะสีก็ปลิวมาตัดคอเอาหรอก!! ” คนที่พูดจาไม่น่าฟังคนนี้จะเป็นใครไหนเลยนอกจากพี่กล้า เขาเข้ามาตะคอกเธอพร้อมกับออกแรงฉุดแขนคนตัวเล็กให้หลบเข้าไปด้านในกระท่อมก่อน “พะ พี่” เธอเรียกชื่อเขาพลันมือปัดป่ายไปด้วย ก็เธอเจ็บตาจนลืมตาไม่ขึ้นนี่ “อะไร!?” เขาเหมือนคนนรกเผาหัวอยู่ตลอดเวลา หัวร้อน เสียงดัง แถมยังว่างตามเธอมาได้อีก “พี่อย่าเดินเร็วสิจ้ะ หนูมองไม่เห็น”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม