ผู้ชายคนนี้...ผ่าน

1585 คำ
ตอนที่ 8 ก่อนจะกลับ พิมพ์มาดาเอ่ยลาเพื่อนด้วยความเกรงใจ เกรชส่งสายตาเป็นประกายมาให้เพื่อนเล็กน้อย เป็นสัญญาณที่บอกว่าเธอเห็นด้วยและรู้สึกดีที่เพื่อนกำลังจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับชายหนุ่มตรงหน้า หลังจากที่พิมพ์มาดาบอกลาเพื่อนธาวินเองก็กล่าวคำลาเกรชด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “ฝากขอบคุณ คุณยายด้วยนะเกรช สำหรับมื้อเช้าที่แสนอร่อย” เขาเอ่ยด้วยความจริงใจและฝากคำขอบคุณไปถึงคุณยายสายหยุด เพราะไม่อยากเข้าไปรบกวนคุณยายอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่เกรชจะได้ตอบรับ คุณยายสายหยุดก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น “อ้าว! จะกลับกันแล้วเหรอจ้ะ?” คุณยายสายหยุดเดินออกมาตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงใจดีและมองมาทั้งคู่ด้วยความเอ็นดู ธาวินรีบหันกลับไปยกมือไหว้คุณยายอีกครั้ง “ผมกลับก่อนนะครับคุณยาย สวัสดีครับ แล้วผมจะหาโอกาสแวะมาเยี่ยมอีกนะครับ” น้ำเสียงอ่อนโยนของธาวินและกริยาที่นอบน้อมนั้นบ่งบอกถึงความเคารพและจริงใจต่อหญิงชรา “ยินดีเสมอจ้ะ ว่างๆ ก็แวะมานะ” หญิงชราเอ่ยตอบก่อนจะหันไปมองพิมพ์มาดาเพื่อนของหลานสาวแล้วเอ่ยขึ้น “หนูพิมพ์ ขับรถดี ๆ ล่ะ ถ้าง่วงก็เปลี่ยนแฟนขับบ้างก็ได้นะ” คำพูดของคุณยายทำให้พิมพ์มาดารู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มเล็กน้อย เธอแอบเหลือบมองธาวินที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาเองก็ดูเขินอายเล็กน้อยเช่นกัน เกรชยิ้มทะเล้นให้เพื่อน “ไม่ต้องห่วงยัยพิมพ์หรอกค่ะ..คุณยาย” เกรชบอกคุณยายพร้อมส่งสายตาแซวเพื่อนรักอย่างรู้ทัน พิมพ์แอบมาดาตีแขนเพื่อนเบาๆ ด้วยความเขิน ก่อนจะหันไปบอกลาคุณยายและยกมือไหว้หญิงชราด้วยความเคารพคุ้นเคย “จ้ะ งั้นก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะลูก” คุณยายสายหยุดโบกมือลาด้วยรอยยิ้มอย่างใจดี หลังจากร่ำลากันเสร็จ พิมพ์มาดาและธาวินก็เดินไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน บรรยากาศระหว่างทั้งคู่เงียบลงเล็กน้อย แต่เป็นความเงียบที่อบอวลไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและความสุขที่เพิ่งผ่านมา “คุณยายเกรชน่ารักมากเลยนะครับ” ธาวินเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังจะเปิดประตูรถ “ค่ะ คุณยายท่านใจดี” พิมพ์มาดาตอบด้วยรอยยิ้ม ทั้งคู่ขึ้นรถและออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป พิมพ์มาดามองกระจกหลัง เห็นเกรชและคุณยายสายหยุดยืนโบกมือลาอยู่หน้าบ้าน รอยยิ้มของยายหลานทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและมั่นใจในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้มากยิ่งขึ้น... พิมพ์มาดารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย ความเกร็งในช่วงแรกของการพบกันจางหายไป เหลือไว้เพียงความรู้สึกสบายใจและคุ้นเคย “เราจะไปไหนกันดีคะ?” พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “แล้วแต่คุณเลยครับ ผมตามใจคุณ” ธาวินตอบกลับด้วยแววตาที่อ่อนโยน ในใจของพิมพ์มาดาแอบคิดถึงการขับรถขึ้นเหนือไปยังเชียงใหม่ บ้านของธาวิน เธออยากทำความรู้จักกับโลกส่วนตัวและครอบครัวของเขาให้มากขึ้น แต่เมื่อเอ่ยปากชวน ธาวินกลับมีท่าทีลังเลเล็กน้อย “เอ่อ...ผมว่าเราไปเที่ยวทะเล ที่มีวัดสวยๆ กันดีไหมครับ?” ธาวินเสนอด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่แฝงไว้ด้วยความเกรงใจ “วัดที่อยู่กลางทะเลสวยๆ เหรอคะ?” พิมพ์มาดาทวนคำถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย เธอไม่คุ้นเคยกับวัดที่ตั้งอยู่กลางทะเลนัก “อืม!!! พิมพ์ไม่ค่อยรู้จักวัดที่มีทะเลสวย ๆ เลยค่ะ นึกออกแค่หัวหิน ถ้าอย่างนั้นคุณเสนอมาเลยค่ะ จะไปทางใต้ก็ได้นะคะ” เธอตอบอย่างเปิดกว้าง “ไม่ต้องลงไปถึงใต้หรอกครับ คุณจะขับรถเหนื่อยเปล่าๆ” ธาวินรีบตอบกลับด้วยความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด “ค่ะ งั้นพิมพ์แล้วแต่คุณวินก็แล้วกัน” พิมพ์มาดาตอบอย่างง่ายๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงความไว้ใจเขาอย่างเต็มที่ ธาวินคลี่ยิ้มบางๆ อย่างโล่งอกเมื่อพิมพ์มาดาคล้อยตามแผนการเที่ยววัดพร้อมทะเลของเขา นิ้วเรียวยาวของเขาแตะลงบนหน้าจอ GPS ในรถยนต์ของหญิงสาว แสงบนหน้าจอสว่างขึ้นก่อนจะปรากฏแผนที่นำพาพวกเขาออกจากความวุ่นวายของกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก รถยนต์คันเก่งเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนที่เริ่มทิ้งความหนาแน่นของเมืองหลวงไว้เบื้องหลัง สองข้างทางค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นทิวแถวของบ้านเรือน ร้านค้า และต้นไม้เขียวขจี แสงแดดยามสายสาดส่องลอดผ่านกระจกรถ สร้างบรรยากาศที่สดใสและมีชีวิตชีวา “คุณจะหลับก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวถึงแล้วพิมพ์จะปลุก” พิมพ์มาดาเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบที่ก่อตัวขึ้นในรถยนต์ระหว่างเดินทาง ธาวินหันมามองหญิงสาว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความขอบคุณ และความเสน่หาที่มีต่อเธออย่างท่วมท้น “ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยคุณดูทางดีกว่า เพื่อว่า GPS จะพาเราหลง..” เขาเสริมด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่ทำให้หัวใจของพิมพ์มาดาอบอุ่น พิมพ์มาดายิ้มตอบ แก้มของเธอขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย เธอเองรู้สึกดีที่ได้อยู่เคียงข้างเขา รู้สึกปลอดภัยและสบายใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน “ถ้าคุณวินไม่ง่วง ช่วยเล่าเรื่องของคุณให้พิมพ์ฟังบ้างสิคะ...เอาเรื่องครอบครัวก็ได้” พิมพ์มาดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความอยากรู้และความสงสัย เธอตัดสินใจถามถึงสิ่งที่ค้างคาในใจ ว่าเหตุใดธาวินถึงรีบร้อนปฏิเสธการไปเชียงใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นบ้านเกิดของเขาแท้ๆ ความสงสัยเล็กๆ ก่อตัวขึ้นในใจเธอ ราวกับเมฆฝนที่เริ่มก่อตัว สีหน้าของธาวินเปลี่ยนไปเล็กน้อย รอยยิ้มที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาจางลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาของเขาเศร้าลงจนพิมพ์มาดาที่หันมาเจอพอดีก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ถามออกไป “เรื่องครอบครัวของผม...มันค่อนข้างซับซ้อนครับ” เขาถอนหายใจแผ่วเบา พลางมองออกไปนอกหน้าต่างครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมามองพิมพ์มาดาด้วยแววตาที่ดูจะรวบรวมความกล้า “ครอบครัวของผม...คุณพ่อทำธุรกิจโรงไฟฟ้าอยู่ที่เชียงใหม่ครับ...ท่านเป็นคนค่อนข้าง...เข้มงวดครับ ก็เลย...เข้ากับผมไม่ค่อยได้” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอึดอัด “แล้วคุณแม่ล่ะคะ?” พิมพ์มาดาถามด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ สัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา “ท่านเสียไปนานแล้วครับ...ตั้งแต่ผมยังเด็กๆ” น้ำเสียงของธาวินแผ่วลงจนแทบไม่ได้ยิน ดวงตาของเขาหม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด พิมพ์มาดารู้สึกเสียใจที่ถามคำถามนั้นออกไป เธอเอื้อมมือไปแตะหลังมือของธาวินเบาๆ อย่างต้องการส่งผ่านความเข้าใจและให้กำลังใจชายหนุ่ม สัมผัสอบอุ่นนั้นราวกับสายใยเล็กๆ ที่เชื่อมโยงความรู้สึกของทั้งสองเข้าด้วยกัน ธาวินหันมามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะจับมือของเธอกลับอย่างแผ่วเบา สัมผัสอบอุ่นจากมือเล็กๆ ของพิมพ์มาดาทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งในใจของเขาทุเลาลงบ้าง “ไม่เป็นไรครับ...” เขายิ้มบางๆ ให้เธอ อย่างไม่ถือสา ดวงตาของเขาจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธออย่างจริงจัง “ถ้าไม่มีคุณ...ผมก็อาจจะยังอยู่ที่นั่นอีกนานเลยก็ได้ ตอนแรก..ผมกะว่าจะหางานทำที่นั่นเลยด้วยซ้ำ” คำบอกเล่าของธาวินทำให้พิมพ์มาดารู้สึกถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเขา เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะพยายามควบคุมความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ภายใน “คุณมั่นใจพิมพ์ขนาดนั้นเลยเหรอคะ...” น้ำเสียงของเธอแฝงไว้ด้วยความเคลือบแคลงสงสัย แต่ในหัวใจกลับซ่อนความหวังอันริบหรี่เอาไว้ลึก ๆ ธาวินแอบชำเลืองมองใบหน้าสวยหวานที่กำลังแดงระเรื่อของเธออย่างเอ็นดู แสงแดดยามสายส่องกระทบผิวแก้มเนียนของเธอจนเป็นสีชมพูอ่อนๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หนักแน่นและจริงจัง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่สื่อถึงความจริงใจออกมา “มั่นใจสิครับ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผมตั้งใจเดินทางกลับมาที่นี่... ก็เพื่ออยากเริ่มต้นใหม่กับคุณจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มต้นจากศูนย์ก็ตาม...” ธาวินย้ำคำพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยของเธอ ราวกับต้องการสลักทุกความรู้สึกของเขาไว้ในนั้น “และความรู้สึกของผมมันก็ไม่ใช่แค่ตัวอักษรบนหน้าจอที่ผมส่งหาคุณเท่านั้น” เขาเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจัง ราวกับเป็นคำสารภาพที่มาจากส่วนลึกของหัวใจ ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความมุ่งมั่น ราวกับต้องการให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีอย่างหมดจดและไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...ความรู้สึกที่แท้จริง...ที่พร้อมจะเติบโตเคียงข้างเธอ “แต่...” พิมพ์มาดาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ความไม่มั่นใจยังคงฉายชัดในแววตา “โลกออนไลน์มันก็...หลอกลวงกันตั้งมากมาย พิมพ์ไม่คิดว่าคุณจะเชื่อมั่นอะไรในตัวพิมพ์ได้ขนาดนั้น...และเราก็เพิ่งเจอกัน...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม