ด่านเพื่อนซี้

1688 คำ
ตอนที่ 7 เมื่อรถยนต์สีขาวคันเล็กแล่นมาได้สักพัก ก็มาจอดสนิทที่หน้าบ้านสองชั้นหลังหนึ่งสีขาวสะอาดตา ธาวินมองขึ้นไปด้วยความสนใจ “บ้านคุณพิมพ์..น่าอยู่จังเลยนะครับ” เขาเอ่ยชมอย่างจริงใจ หลังจากสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากตัวบ้าน “อ๋อ!! ไม่ใช่บ้านของพิมพ์หรอกค่ะ” พิมพ์มาดารีบออกตัว พลางส่งยิ้มเจื่อน ๆ เล็กน้อยให้ธาวิน ก่อนจะรีบอธิบาย “เป็นบ้านเพื่อนสนิทของพิมพ์เองค่ะ พอดีว่า...เธออยากรู้จักกับคุณวินน่ะค่ะ งั้น!!!..คุณวินเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนพิมพ์หน่อยนะคะ” หญิงสาวรีบพูดเสริมให้ดูสมเหตุสมผล แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะความจริงแล้วเป็นเกรชต่างหากที่ออกคำสั่งแกมบังคับให้พิมพ์มาดาพาธาวินมาให้หล่อน ‘สแกน’ อย่างละเอียดเสียก่อน ถึงจะอนุมัติให้ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันได้ ธาวินพยักหน้าอย่างเข้าใจ และไม่ได้แสดงความสงสัยใด ๆ ออกมา เพียงแต่ก้าวตามหญิงสาวเข้าไปในตัวบ้านไม้สักสองชั้นที่ทาด้วยสีขาวสะอาดตา สร้างบรรยากาศที่สว่างและเงียบสงบ พื้นไม้กระดานสีเข้มขัดเงาวาววับ สะท้อนให้เห็นถึงร่องรอยของกาลเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน ผนังไม้สักสีขาวประดับประดาด้วยภาพถ่ายเก่าๆ ที่ดูเรียบง่ายและแฝงไว้ด้วยเรื่องราว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของการอบควันเทียนจางๆ ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ บ่งบอกว่าเจ้าของบ้านน่าจะกำลังพิถีพิถันทำขนมไทยโบราณบางอย่างอยู่ กลิ่นหอมหวานละมุนละไมนั้นอบอวลเคล้าคลอกับกลิ่นไม้สักเก่าแก่ที่คุ้นเคยได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและชวนให้คิดถึงอดีต บรรยากาศโดยรวมของบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่น สงบ และเป็นกันเอง ราวกับเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความผูกพันมาอย่างยาวนาน ธาวินกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างสนใจ สัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของบ้านไม้เก่าแก่ที่แตกต่างจากสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เขาคุ้นเคย พลางคิดในใจว่าเพื่อนสนิทของพิมพ์มาดาคงเป็นคนที่มีรสนิยมเรียบง่ายแต่มีสไตล์เป็นของตัวเอง พิมพ์มาดาสูดลมหายใจลึกๆ และพยายามซ่อนความกังวลเล็กน้อย เธอรู้ดีว่าเกรชเพื่อนรักนั้นปากร้ายแต่ใจดี และการ ‘ดูตัว’ ในครั้งนี้ก็มาจากความหวังดีของเพื่อนล้วน ๆ ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่น เกรชที่ได้รับโทรศัพท์แจ้งเตือนจากพิมพ์มาดามาก่อนที่จะออกเดินทางจากสนามบินแล้ว หล่อนรีบลุกขึ้นยืนต้อนรับด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร “สวัสดีค่ะคุณธาวิน ยินดีต้อนรับกลับสู่เมืองไทยนะคะ” น้ำเสียงของเกรชสดใสและกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ผิดกับท่าทีจับผิดเล็กน้อยที่เธอแสดงออกเมื่อพูดถึงธาวินก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด พิมพ์มาดามองเพื่อนด้วยความโล่งใจอย่างเงียบๆ อย่างน้อยเกรชก็เริ่มต้นได้ดี “สวัสดีครับ..” “นี่เกรชค่ะ..คุณวิน เป็นเพื่อนสนิทของพิมพ์เอง” พิมพ์มาดารีบแนะนำเพื่อนสนิทให้เขารู้จัก “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ..คุณเกรช” ธาวินยิ้มตอบอย่างไมตรี บรรยากาศในห้องนั่งเล่นอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่ออกรสออกชาติ เกรชช่างพูดช่างคุย ทำให้ธาวินรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเองได้อย่างรวดเร็ว พิมพ์มาดานั่งมองเพื่อนรักและชายหนุ่มที่เธอเพิ่งได้เจอตัวจริงด้วยความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ เธอหวังว่าการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นไปได้งดงามและยืนยาว เช่นความตั้งใจที่เธอเก็บไว้ลึกๆ ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจคบหากับชายหนุ่ม ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ประตูบ้านก็ถูกเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของหญิงชราที่เดินยิ้มแย้มเข้ามา หญิงชราใจดี ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยแต่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มที่เมตตาอย่างเป็นกันเอง ในมือนั้นหอบตะกร้าจ่ายตลาดเข้ามาด้วยท่าทางคล่องแคล่ว “อ้าว! มาถึงกันแล้วรึ?” คุณยายสายหยุดเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงใจดี ก่อนหน้านี้หลานสาวแจ้งเอาไว้ว่าจะพาเพื่อนสนิทมาทานมื้อเช้าที่บ้าน ก่อนที่หญิงชราจะได้สังเกตอะไร ผู้เป็นหลานสาวก็รีบลุกขึ้นไปประคองคุณยาย ก่อนจะเอาตะกร้าออกมามือของคุณยายแล้ววางไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ “คุณยายขา นี่!!..คุณธาวินค่ะ เพื่อน...เอ่อ...เพื่อนของพิมพ์ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกค่ะ นี่คุณยายสายหยุดนะคุณวิน คุณยายของเกรชเองค่ะ” ธาวินรีบลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้คุณยายสายหยุดด้วยความเคารพ “สวัสดีครับคุณยาย” คุณยายสายหยุดมองธาวินด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะยิ้มกว้างจนเห็นรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา “สวัสดีจ้ะ ยังไง..อยู่ทานมื้อเช้ากับยายก่อนนะ อย่าเพิ่งรีบกลับกันล่ะ” คุณยายเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นจนธาวินไม่กล้าปฏิเสธ “อ่อ ขอบคุณครับคุณยาย” ธาวินตอบด้วยความเกรงใจ คุณยายสายหยุดหยิบตะกร้าที่หลานสาววางเอาไว้ขึ้นมาถืออีกรอบ “พอดีว่ายายซื้อของมาทำอาหารเช้าเยอะเลย” คุณยายหันไปมองพิมพ์มาดาและธาวินเหมือนจะรู้ว่าสองคนนี้คงเป็นแฟนกัน “ขอบคุณนะครับคุณยาย” ธาวินตอบรับด้วยรอยยิ้มเกรงใจ พิมพ์มาดามองหน้าธาวินเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ถึงความสุภาพและเกรงใจของเขา หลังจากทานอาหารไทยรสจัดจ้านฝีมือคุณยายสายหยุดเข้าไปได้ไม่นาน นักศึกษาปริญญาโทจากเมืองนอกอย่างธาวินก็เริ่มรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นตามไรผม บ่งบอกว่าลิ้นของเขาได้ห่างหายจากรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยไปนานพอสมควร แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงยิ้มกว้างและเอ่ยชมคุณยายสายหยุดด้วยความจริงใจ “อร่อยมากเลยครับคุณยาย รสชาติเข้มข้นถึงใจจริงๆ สงสัยผมคงต้องหาโอกาสมาฝากท้องที่บ้านคุณยายบ่อยๆ แล้วล่ะครับ” คำพูดนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คำชมที่เอ่ยตามมารยาท แต่ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ และความประทับใจในรสชาติอาหารไทยฝีมือคุณยายอย่างแท้จริง “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลองนี่เลยจ้ะ กล้วยบวชชีกับลอดช่องน้ำกะทิหอมๆ รับรองว่าอร่อยถูกใจแน่” คุณยายสายหยุดรีบบอกด้วยรอยยิ้มเอ็นดู ก่อนจะหันไปบอกหลานสาวอย่างอ่อนโยน “เกรช!!! หนูตักขนมใส่ถ้วยให้เพื่อนกับแฟนเค้าทานหน่อยสิลูก” พิมพ์มาดาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า เมื่อคุณยายสายหยุดออกตัวเรียกธาวินว่า ‘แฟน’ ของเธอต่อหน้าต่อตา แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเริ่มต้นไปในทิศทางที่ดี แต่คำเรียกนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกเขินอยู่ไม่น้อย เธอแอบเหลือบมองธาวิน และหวังว่าจะไม่สังเกตเห็นอาการของเธอ แต่ก็ต้องรีบหันกลับมามองถ้วยขนมในมือ เมื่อเกรชเอ่ยขอตัวลุกขึ้น “พิมพ์!!..เดี๋ยวฉันช่วยคุณยายเอาจานไปเก็บในครัวนะ ตามสบายนะคะคุณวิน” พูดจบร่างเล็กก็เดินหายเข้าไปด้านใน ทิ้งให้พิมพ์มาดาและธาวินอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องนั่งเล่น หลังทานมื้อเช้าจบลง เกรชก็เดินออกมาส่งเพื่อนสนิทและธาวินที่ระเบียงหน้าบ้าน ส่วนคุณยายก็ขอตัวไปทำขนมไทยต่อ เกรชช่างเจรจาและมีมุกตลกแพรวพราว ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ธาวินดูเข้ากับเกรชได้อย่างไม่น่าเชื่อ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขาทำให้พิมพ์มาดารู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก “คุณธาวินอยู่ที่อเมริกามานานแค่ไหนแล้วคะ?” เกรชถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ “ก็ประมาณเกือบสิบปีแล้วครับ ผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย” ธาวินตอบพลางยิ้มบางๆ “พอดีผมไปเรียนต่อที่เมืองนอกตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลายแล้วครับ” “แล้วทำไมถึงตัดสินใจกลับมาล่ะคะ?” เกรชถามออกไปด้วยความอยากรู้ลึกๆ ว่าอะไรคือเหตุผลที่แท้จริงในการกลับมาของเขา ทั้งที่ในตอนแรกพิมพ์มาดาเคยเล่าให้ฟังว่าธาวินตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างแดน ธาวินหันมาสบตากับพิมพ์มาดา ดวงตาของเขาเป็นประกายอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เพราะเพื่อนของคุณไงครับ” เขาตอบเสียงนุ่มพลางเหลือบมองเกรชด้วยรอยยิ้มบางๆ เกรชเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย มองธาวินอย่างสงสัย ธาวินเว้นจังหวะเล็กน้อย ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า ก่อนจะหันกลับมาทอดสายตาลึกซึ้งเข้าไปในดวงตาคู่สวยของพิมพ์มาดา จนเธอรู้สึกราวกับถูกตรึงอยู่กับสายตาคู่นั้น หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ความร้อนผ่าวแล่นปราดขึ้นมาบนแก้ม พิมพ์มาดารีบหลบสายตาของเขาด้วยความเขินอาย แต่ในใจกลับเต้นระรัวด้วยความสุข ความรู้สึกหวานซึ้งเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ “แล้วคุณธาวินตั้งใจจะอยู่ที่ไทยนานแค่ไหนคะ?” เกรชถามต่ออย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ลึกซึ้งไปมากกว่านี้ ไหนๆ ทั้งคู่ก็จะไปเที่ยวด้วยกันแล้ว เธอมีหน้าที่ต้องสืบให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้จริงจังกับเพื่อนของเธอแค่ไหน “ผมตั้งใจว่าจะกลับมาอยู่ถาวรเลยครับ” ธาวินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่พิมพ์มาดา “งั้นดีเลยค่ะ..ที่ถามก็เพราะเป็นห่วงคนแถวนี้” เกรชเสริมด้วยรอยยิ้มทะเล้น ก่อนจะส่งสายตาแซวเพื่อนอย่างรู้ทัน พิมพ์มาดาได้แต่ยิ้มเขินๆ ก่อนจะรีบหลบสายตาเพื่อนที่กำลังจ้องมองมาอย่างจับผิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม