ตอนที่ 2
ลูกแมวของท่านประธาน
สามเดือนที่แล้ว
ที่ขวัญข้าวรู้สึกว่าบ้านที่เคยอบอุ่นเริ่มไม่ปลอดภัยและไม่ใช่สถานที่เชฟโซนที่น่าอยู่ของเธออีกต่อไป เมื่อวิชัย พ่อของเธอพาสุวิมล ภรรยาคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับ สุมนชา ลูกเลี้ยงของเธอ
นับตั้งแต่สองแม่ลูกเข้ามา วิชัยก็สั่งให้ขวัญข้าวเชื่อฟัง แม่เลี้ยงในทุกอย่างและเธอถูกควบคุมแทบทุกเรื่องในการใช้ชีวิต แม้กระทั่งการออกจากบ้าน ไปเรียนไปเทอมสุดท้าย
“เทอมสุดท้ายแล้วใช่มั้ย ถ้าเรียนจบแล้วมาทำที่โรงงานเส้นก๋วยเตี๋ยวเรา ตอนนี้คุณสุวิมลเขามาช่วยพ่อบริหารจัดการงานทั้งหมด” วิชัยเอ่ยขึ้นในวันหนึ่ง
“ไม่ค่ะ ขวัญมีที่ทำงานที่ลงสมัครไว้แล้ว”
ขวัญข้าวปฎิเสธ อีกไม่กี่สัปดาห์เธอก็จะเรียนจบแล้ว และเธอจะไม่อยู่ในบ้านนี้ และร่วมทำงานกับเมียใหม่ของพ่อให้อึดอัดใจอย่างเด็ดขาด
“จะไปทำที่อื่นทำไมละจ้ะ หนูขวัญทำด้วยกันนี่แหละจะได้ช่วยกัน” สุวิมลเอ่ยเสียงอ่อนหวาน มองยังลูกเลี้ยงด้วยแววตาที่อ่อนโยน
แต่ขวัญข้าวรู้ และสัมผัสได้ถึงความไม่จริงใจเหล่านั้น
“ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ ทีพี่เฆมยังไปทำที่JWPได้ ขวัญก็จะไปทำงานที่นั่นเหมือนกัน อีกอย่างบริษัทเราเป็นหจก.เล็กๆ คงจะไม่มีงานอะไรให้เรียนรู้มาก”
ขวัญข้าวเอ่ยถึง เฆมา พี่ชายเพียงคนเดียวของเธอที่แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว และทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาของJWP ที่เป็นบริษัทนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ
เงินเดือนเกือบเจ็ดหลักของพี่ชายนั้น ถือว่าสูงพอที่จะทำงานเป็นพนักงานได้โดยไม่ต้องการทำบริษัทกงสีของที่บ้าน
และขวัญข้าวก็ต้องการเป็นอย่างนั้น
“JWP เป็นบริษัทใหญ่ เจ้าเฆมมันเรียนเก่งหัวดีขนาดนั้นก็ต้องทำได้ แล้วอย่างแกยายขวัญเกรดเฉลี่ยในแต่ละเทอมแค่คาบเส้น ภาษาอังกฤษก็งูปลาๆ ใครเขาจะไปรับ”
แม้คำบอกของบิดาจะจริง แต่ก็ทำให้ขวัญข้าวรู้สึกเจ็บแปลบในอกทุกครั้ง
เธอเป็นคนเรียนไม่เก่ง ปริญญาตรีเธอเลยเลือกเรียนสายการตลาด สายกลางๆ ที่สามารถจะทำงานที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ทำงานกับบ้านทีมี สุวิมลอยู่
“อย่าหวังเลยว่าที่นี่เขาจะรับเส้นสาย ถึงพี่ชายแกจะทำงานในนั้น ถ้าภายในสิ้นเดือนหน้าแกยังหางานไม่ได้ เตรียมเข้าเป็นฝ่ายธุรการเช็คสต็อคที่บริษัทช่วยคุณสุวิมลซะ”
บิดากล่าวเสียงเข้มก่อนเดินออกไป ขวัญข้าวได้แต่มองตาปริบๆ โดยมีสุวิมลทำตาแววอยู่ข้างๆ
“วันนี้ ลองเข้าทดลองงานดูก่อนมั้ยจ้ะ ของในโกดังเยอะเลย จะได้ช่วยคนงานปัดกวาดด้วย”
ขวัญข้าวรู้ตลอดว่าทุกครั้งที่เธอเข้าไปในโกดังนั้น หน้าที่ของเธอคือนังแจ๋วดีๆนี่เอง เธอต้องทำทุกอย่างทั้งทำความสะอาดโกดัง แพคกล่องที่วางระเกะระกะด้านใน
“พี่เฆมอยู่ไหน? ขวัญโทรหาไม่ติดเลย”
ขวัญข้าวเอ่ยระรัว เมื่อพี่ชายรับสายโทรศัพท์
“อ้าวขวัญเป็นไงบ้าง โทษทีพี่เพิ่งกลับจากดูงานตปท.กับนายใหญ่ เดี๋ยวพี่โทรกลับ”
“พี่เฆมอย่าเพิ่งวางสาย ขวัญมีเรื่องจะคุยกับพี่ พี่อยู่ที่ไหน” ขวัญข้าวท้วงเมื่อปลายสายเหมือนจะรีบวาง
“ขวัญพี่ไม่สะดวกเลยตอนนี้ กำลังพาลูกค้ามากินเลี้ยงรับรองแถวรัชดา” เฆมกล่าวเสียงเบา เขารู้ว่าน้องสาวอาจมีเรื่องอยากคุย แต่ตอนนี้เขาต้องเอางานไว้ก่อน
“ร้านไหนคะ เดี๋ยวขวัญไปนั่งรอก็ได้ ไม่เป็นไร”
“ขวัญไว้วันหลัง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เฆม ขวัญอยากเจอพี่วันนี้จริงๆ บอกชื่อร้านมาเถอะ”
ขวัญข้าวเอ่ยเสียงเว้าวอน ด้วยกลัวพี่ชายไปบินไปต่างประเทศและไม่สะดวกคุยกับเธออีก ครั้นจะให้ไปที่บ้านของพี่ชายเธอเองก็เกรงใจพี่สะใภ้
อีกเธออยากจะคุยกับพี่ชายคนเดียวที่เข้าใจเธอมากที่สุดในตอนนี้ด้วย
“ร้าน HW hit”
พี่ชายบอกชื่อร้านกึ่งผับที่รับเฉพาะลูกค้ากระเป๋าหนัก ขวัญข้าวรู้จักร้านนี้ดี เพราะเคยผ่านหลายครั้งแต่ยังไม่เคยเข้าไป แต่วันนี้ยังไงเธอก็คงต้องพบพี่ชายให้ได้
“ขวัญรออยู่ข้างๆร้านแล้วค่ะ”
ขวัญช้าวส่งไลน์บอกพี่ชายเมื่อมาถึง
“มาเร็วจัง รอสักชั่วโมงนะลูกค้าพี่ยังสนุกอยู่เลย”
ไลน์พี่ชายตอบมาแบบนี้ ขวัญช้าวกดสติ๊กเกอร์OK กลับไป ก่อนจะเดินเตร็ดเตร่ข้างร้านบริเวณลานจอดรถด้านนอก มีรถหรูหลายคันที่จอดเหมือนจะบอกฐานะคนมาเที่ยวได้อย่างดี
อากาศที่อบอ้าวของลานจอดรถด้านข้าง ทำให้ขวัญข้าวต้องถอดคาร์ดิแกนตัวเก่งออกรัดคาดไว้กับเอว เหลือเพียงสายเดี่ยวสีขาวโชว์ผิวไหล่และไหปลาร้าที่ดูไม่แปลกตาจากสาวๆที่เดินเข้าเดินออกของที่นี่แม้แต่น้อย
“เท่าไหร่จ้ะ”
เสียงชายสูงอายุถามจากด้านหลัง เมื่อขวัญข้าวสบตาไปมองจึงเห็นว่า ชายอายุประมาณห้าสิบแต่งกายภูมิฐานยืนอยุ่ข้างแบนทีย์คันหรู ไม่ห่างจากเธอนัก
“ไม่ค่ะ หนูไม่”
ขวัญข้าวปฎิเสธเสียงนุ่มนวล เข้าใจว่าชายคนนี้คงคิดว่าเธอเป็นเด็กขายในผับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะมุมที่เธอยืน สาวสวยที่ทำงานด้านในก็ออกมาเดินเล่นเป็นระยะ
“หือ”
ฝ่ายนั้นเองคอเล็กน้อย มองร่างสวยอ้อนแอ้นในชุดสายเดี่ยวสีขาว ใบหน้าทีเรียวใสผุดผาดนั้นเป็นสีขมพูเล็กน้อย จากไอร้อนด้านนอก แต่ดูมีเสน่ห์และน่าค้นหานัก
“เพิ่งมาใหม่ใช่มั้ย สักห้าหมื่นเป็นไงไปกันชั้นคืนนี้”
ชายคนนั้นยังไม่ลดละ เมื่อเห็นเพชรเม็ดงามอยู่ด้านหน้า ผับแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ของเด็กดริ้งส์วีไอพี ที่มีเด็กสาวนักศึกษาเข้ามาทำงานเป็นครั้งคราว
และยายหนูนี่คงจะเป็นเช่นนั้น
“ไม่ค่ะ หนูไม่”
ขวัญข้าวพยายามเดินหนี เมื่อชายคนนั้นขยับมาชิดตัว เธอมองรอบข้างเผื่อรปภ.อยู่แถวนั้น มืออีกข้างควานหาโทรศัพท์เพื่อเตรียมโทรหาพี่ชาย
“อื้อ แปดหมื่นเป็นไง”
ร่างที่เมามายกรึ่มเพราะพิษเหล้ายังไม่ลดละ เด็กสาวสดๆพวกนี้อาจจะเล่นตัวนิดหน่อย แตได้ยินยอดเงินก็แทบจะหูผึ่งกันทุกคนแหละ
“อะ”
ขวัญขวัญตระหนก เมื่อข้อมือถูกรวบจากชายขึ้เมา จนกระเป๋าสะพายของเธอตกลงบนพื้น
“ไม่ ปล่อย”
พลักๆ
ขวัญช้าวคว้ากระเป๋าที่ตกพื้นก่อนฟาดไปบนหน้าชายคนนั้น ก่อนจะวิ่งเตรียมเข้าไปทางประตูที่มีรปภ.ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ยายเด็กนี่!”
ชายที่โดนพลักจนล้มลุกขึ้นอย่างโมโห วิ่งตามร่างสวยที่กำลังปรีไปยังประตูหน้าอย่างรวดเร็ว
พลักๆ
“อะ” ขวัญข้าวชนเข้ากับร่างสูงโปร่งกำยำที่เดินออกตรงประตูทางเข้าพอดี
“รปภ.ช่วยหนูด้วยค่ะ ผู้ชายคนนั้นเขาคิดว่าหนู..”
หญิงสาวเอ่ยละล่ำละลัก เกาะตัวรปภ.แน่น โดยไม่สังเกตว่านั่นไม่ใช่รปภ.
“หือ เกิดอะไรขึ้นเหรอหนู”
เสียงนุ่มหูของร่างกำยำ ที่เธอกำลังเกาะเกี่ยวแขนไว้แน่นเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน เมื่อหลุบตามองร่างบางที่สั่นระริกและกอดตัวเขาไว้แน่นเหมือนลูกแมว ก่อนมองชายที่วิ่งตามมา
“มีอะไรเหรอครับคุณหลิว”
เขาถามเสียงราบเรียบ ชายผู้นั้นหยุดชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างบางในชุดเดรสขาวโอบกอดและซุกหน้าไว้แน่น
“อ้อ โทษที ..เด็กคุณโจนี่เอง ผมก็นึกว่า..”
ฝ่ายนั้นเอ่ยเสียงอ่อยต่อหน้าหน้าหล่อเหลาคมคาย ที่มองตาเขม็ง เหมือนให้อีกฝ่ายหยุดความคิดทุกอย่างลงแค่นั้น
“ครับ นี่เด็กของผมเอง”
โจนาธานบอกเสียงเข้ม นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายล่าถอยไปไม่ยาก แม้จะรู้สึกเสียดายเด็กสาวร่างบางที่หลุดมือไปเพียงนิดเดียว
***********************