เสียงประตูรถปิดดัง ปัง! ฉันทิ้งตัวลงบนเบาะหนังอย่างแรง แขนกอดอกแน่น ได้แต่พึมพำในใจ
“จะลากฉันมานั่งในรถด้วยทำไม! ผู้ใหญ่ก็ใจง่ายเกินไป!!”
“ทำหน้างอเป็นเด็กๆ ไปได้” เสียงทุ้มดังขึ้นจากคนขับที่เอี้ยวหน้ามามองแวบเดียว ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ขนาดไม่อยากมา แต่ขึ้นรถมานั่งข้างพี่แบบนี้ ก็น่ารักดีนะ”
“น่ารักบ้าอะไร! คุณมันหลอกผู้ใหญ่!” ฉันหันขวับ ค้อนจนตาแทบถลน
“หลอกที่ไหนล่ะ” เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งมาเลื่อนเข็มขัดนิรภัยให้ฉันอย่างใจเย็น
ใกล้จนลมหายใจอุ่นๆ ของเขาแทบกระทบแก้มฉัน
“พี่ก็แค่พูดความจริง ว่าห่วงน้อง อยากดูแลน้องต่อเท่านั้นเอง”
แค่คำพูดของเขาไม่กี่ประโยค หัวใจไม่รักดีของฉันก็ดันเต้นซะแรงเชียว ฉันรีบผลักมือเขาออกทันที
“อย่ามาเล่นลิ้นนะ! คุณมันกวนประสาทที่สุดเลย!”
เนมยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์ แล้วทำไมหนูต้องหน้าแดงขนาดนั้นด้วยครับ
“เด็กดื้อ”
“ฉันไม่ได้หน้าแดง!! แล้วฉันก็ไม่ใช่เด็กดื้อ!!” ฉันแหวเสียงสูง รีบหันหน้าหนีมองออกกระจก
ทั้งที่หูร้อนผ่าวจนแทบไหม้
ผมเลื่อนรถออกจากโรงแรมช้าๆ พลางเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความหมาย
“รู้มั้ย ตั้งแต่เกิดมา พี่ไม่เคยเจอใครดื้อเท่าเธอเลย ตัวเล็กแค่เนี่ย แถมปากเก่งอีกต่างหาก
ถ้าดื้อไม่เลิกนะ พี่จะ…..”
เธอสะดุ้ง หันขวับกลับมามองผมเต็มตา
“บ้า! หยุดเลยนะ! อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆเด็ดขาด”
ผมหัวเราะดังลั่นอย่างเอ็นดูในความน่ารักของเธอ ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมเธอจนยุ่งอย่างหมั่นเขี้ยว
“พี่พูดจริงนะ น้องเฌอของพี่เนม”
“หยุดเรียกแบบนั้นได้แล้ว!!” เธอปัดมือผมออก หน้าแดงจัดยิ่งทำให้เธอดูน่ารักขึ้นไปอีก นี่ผมหลงเด็กนี่เข้าจริงๆหรอเนี่ย
ผมขับรถแล่นไปท่ามกลางความเงียบที่ไม่ปกติ แต่วันนี้หัวใจผมกลับรู้สึกไม่เงียบเลย มันเหมือนได้สูบฉีด
เหมือนชีวิตเริ่มมีสีสันขึ้นมาอีกครั้ง
บาร์หรูย่านใจกลางเมือง เสียงเพลงแจ๊สคลอไปกับแสงไฟสลัว บรรยากาศเต็มไปด้วยความหรูหราและกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ
ฉันนั่งกอดอกบนโซฟาหนังสีดำ หรี่ตามองร่างสูงในสูทลำลองที่นั่งข้างๆ อย่างหงุดหงิด
“ไหนบอกว่าจะพาไปดื่มอะไรเย็นๆคะ มันหมายถึงที่แบบนี้เหรอ?” ฉันเอียงคอถามเสียงห้วนๆ
“ก็นี่ไงเย็นๆ พี่พูดผิดตรงไหน เขายกแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างหน้าหมั่นใส้”
ขณะที่ฉันกำลังยกค็อกเทลขึ้นดื่ม เขาโน้มตัวมาใกล้ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างหน้าตาเฉย
“ที่นี่บรรยากาศดี เพลงเพราะ เหมาะสำหรับ…คู่หมั้น”
ฉันแทบอยากจะคว้าแก้วในมือฟาดหัว ไอ้หมอเจ้าเล่ห์!
ไม่ทันไร เสียงหัวเราะคิกคักก็ดังแทรกขึ้นจากอีกมุม สาวสวยแต่งตัวจัดเต็มสามสี่คนเดินตรงเข้ามา
“หมอเนม ไม่เจอตั้งนาน คิดถึงจังเลยค่ะ”
ฉันหันไปมอง ตาคมหรี่มองภาพตรงหน้าที่เหมือนฉากละครตบตี นี่มันสต็อกชัดๆ!
เนมยกยิ้มสุภาพ เอ่ยทักอย่างไม่ใส่ใจนัก
“สวัสดีครับ ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่”
ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่ม เธอยิ้มหวานให้กับเขา ก่อนหันมามองฉันด้วยสายตาเชิงถาม
“แล้วนี่ใครกันล่ะ ยัยนี่?”
เฌอหรี่ตาลงทันที รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้า เหมือนกับว่าเธออยากจะลองเล่นอะไรสนุกๆ ดูบ้าง
เธอขยับเข้ามานั่งชิดผม แขนเล็กพาดลงบนไหล่กว้างอย่างถือวิสาสะ ก่อนหันไปส่งยิ้มหวานให้พวกผู้หญิงกลุ่มนั้นอย่างตั้งใจ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเฌอลีน ว่าที่คู่หมั้นของพี่เนมค่ะ”
บรรยากาศบนโต๊ะเหมือนหยุดนิ่งไปชั่ววินาที สายตาสาวๆ
พวกนั้นเบิกกว้างทันทีก่อนจะเหลือบมองมาที่ผมเป็นเชิงถาม
“จริงเหรอคะหมอเนม?”
ผมหันขวับมองเฌอแวบหนึ่ง แสบจริงๆ!! ก่อนที่ผมจะยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน
ริมฝีปากหยักยกขึ้นเป็นรอยยิ้มแพรวพราว
“ครับ”
ผมตอบรับออกมาอย่างไม่ลังเล ผมมือเลื่อนมาทาบบนเอวเธอบีบเบาๆ ราวกับจะตอกย้ำคำพูดนั้น
“นี่…ว่าที่คู่หมั้นของผมเอง”
สาวๆพวกนั้น หน้าถอดสี ยิ้มแห้งๆ พยายามหาเหตุผลถอยกลับอย่างเสียฟอร์ม
“อะ…อ๋อ งั้นเหรอคะ ดีใจด้วยนะคะคุณหมอ” พวกเธอค่อยๆ ถอยออกไป ทิ้งผมกับเฌอไว้สองต่อสอง
เธอหันขวับกลับมามองผมทันที เมื่อกี้คุณยอมรับทำไมคะ!
ผมเอนหลังพิงโซฟา ยกคิ้วพร้อมรอยยิ้มร้าย ก็เพราะมันเป็นความจริงอยู่แล้วไงครับ
“น้องเฌอของพี่เนม”
“คุณ!!” ฉันกัดฟันแน่น หน้าแดงจัดจนแทบระเบิด ทั้งโกรธ ทั้งเขิน จนไปไม่ถูก
เสียงหัวเราะต่ำๆ ของเขาดังขึ้นคลอไปกับเสียงเพลงเบาๆ ของบาร์หรู
เหมือนกำลังประกาศชัยชนะรอบใหม่อย่างเต็มที่ ฉันหันไปสบตาคมๆ ของเขา
ที่นั่งเอนพิงโซฟาอย่างเหนือกว่า แววตาแพรวพราวเต็มไปด้วยความมั่นใจ มันหน้าหมั่นไส้ชะมัด!
งั้นก็ลองดูสิว่าคนอย่างหมอเนม จะเสียอาการเหมือนกันบ้างหรือเปล่า!
ฉันยกแก้วค็อกเทลสีสดขึ้น หมุนหลอดช้าๆ ก่อนหันไปยิ้มหวานกวนๆ
“พี่เนม ลองชิมดูไหมคะ อร่อยมากเลย”
เขาหันมามองอย่างจับผิด แต่ยังคงยิ้มมุมปาก
“น้องเฌอจะป้อนพี่เหรอครับ”
“ค่ะ! ว่าที่คู่หมั้นก็ต้องดูแลกันหน่อยสิคะ” ฉันตอบกลับพร้อมกระแทกเสียงใสรอดไรฟันออกไปเบาๆ
ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ ยื่นแก้วไปจ่อที่ริมฝีปากเขา ไหนๆ ก็ไหนๆ ฉันจะยั่วให้เสียอาการเลยคอยดู!!
ริมฝีปากหยักแตะหลอดอย่างไม่ลังเล สายตาคมยังคงจ้องฉันไม่วางตา
“โอ๊ยยย ทำไมเขาไม่สะทกสะท้านอะไรเลย!” แต่เป็นฉันเอง ที่กัดปากแน่น
ฉันตัดสินใจยกแก้วขึ้นดื่มเองครึ่งหนึ่ง แล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้เขามากขึ้น
ริมฝีปากฉันแทบจะแตะริมฝีปากเขา ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยน้ำค็อกเทลหวานซ่าไหลผ่านเข้าไป
ดวงตาคมกริบของเขาชะงักไปเสี้ยววินาที มือใหญ่คว้าเอวฉันแน่นในทันที เสียงเพลงเหมือนหายไป
เหลือเพียงความร้อนผ่าวที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง เขากลืนน้ำหวานลงคอ ก่อนหัวเราะเบาๆในลำคอ
“เด็กดื้อ อย่ามาล้อเล่นกับพี่แบบนี้นะครับ”
“ใครว่าเฌอล้อเล่นล่ะคะ” ฉันกระซิบใกล้หูอย่างไม่ยอมแพ้ ริมฝีปากแทบจะเฉียดขอบกรามคม
ลองดูสิว่าคุณหมอจะทนได้นานแค่ไหน! ฉันก็ไม่รู้ว่า วันนี้ฉันเอาความกล้ามาจากไหน แต่ก็ถอยไม่ได้แล้ว
ผมขยับตัวเข้ามาใกล้เธอจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกัน กลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์
อบอวลจนแทบหายใจไม่ออก มือใหญ่ของผมกดเอวเธอให้แนบแน่นกับตัวผม
“เฌอ อย่าท้าพี่ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง”
“กลัวที่ไหนคะ ว่าที่คู่หมั้น” เธอเลิกคิ้ว ยกยิ้มกวนกลับอย่างยั่วยวน
ดวงตาผมคมกริบวาววับ เหมือนคนที่อดทนมานานจนใกล้จะขาดสติ
“ยัยตัวแสบยกยิ้มมุมปาก แผนยั่วผมวันนี้ เธอทำสำเร็จแล้ว
นี่เธอไม่รู้ตัวจริงๆใช่มั๊ย ว่ากำลังเอาน้ำมันลาดลงกองไฟอยู่
ผมดึงเธอเข้ามาก่อนจะกดจูบลงมาเต็มริมฝีปาก!
“อื้อ!” ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างเล็กสั่นสะท้านกับสัมผัสที่ทั้งร้อนแรงและบังคับจนแทบหายใจไม่ทัน
เขาไม่ได้จูบเบาๆ แต่บดเบียดริมฝีปากลงมาเหมือนจะกลืนกินทุกคำท้า ทุกการยั่วของฉันให้หายไปในจูบเดียว
ลมหายใจผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ร้อนวูบ ทำเอาสมองฉันพร่าเลือน
เสียงรอบข้างยังดังอยู่ แต่ทุกอย่างถูกกลบด้วยเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบทะลุอก
ฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังเมาจากเหล้า หรือจากจูบของเขากันแน่
“อื้อ…พี่เนม!” เสียงครางหลุดออกมาเบาๆ เมื่อเขาสอดลิ้นเข้ามาตวัดกวาด เกี่ยวพันลิ้นฉันอย่างรุนแรง
จนร่างฉันอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว มือฉันเผลอจิกลงบนแขนเขาแน่น ราวกับหาที่พยุง
ขณะที่เขาไม่ยอมผละออกเลยแม้แต่วินาทีเดียว จูบยิ่งลึก ยิ่งเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั่งฉันแทบจะลืมไปแล้วว่าพวกเรานั่งอยู่ที่บาร์หรู ต่อหน้าผู้คนมากมาย
แต่ยังดีที่โต๊ะเราอยู่ในมุมมืดของร้าน ไม่งั้นฉันคงได้มุดแทรกแผ่นดินออกจากร้านแน่นๆ
เนมยอมผละออกช้าๆ สายตาคมกริบวาววับ ริมฝีปากเปียกชื้นยังคลี่ยิ้มร้าย
“คราวนี้ ยังคิดว่าแค่เล่นอยู่ไหมครับ น้องเฌอ”
ฉันหอบหายใจแรง หน้าแดงจัดจนแทบไหม้ ร่างกายสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้
“นี่มันบ้าไปแล้ว ทำไมต้องเคลิ้มขนาดนี้ด้วย! ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”
มือใหญ่เลื่อนมาโอบเอวแน่น “ไปกันเถอะ ก่อนที่พี่จะทำอะไรบ้าๆ ต่อหน้าคนทั้งบาร์”
หัวใจฉันเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม ขาแทบก้าวไม่ออก แต่ร่างกายกลับถูกเขาจูงลุกขึ้นอย่างง่ายดาย