@ ห้องอาหารบนชั้นดาดฟ้า
“ขอโทษนะคะท่านประธานที่ให้รอนาน”หญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยทักทายมิราด้วยรอยยิ้มหวาน” ขอบคุณค่ะ” เธอหันไปพยักหน้าขอบคุณบริกรที่เลื่อนเก้าอี้ออกให้เธอด้วยท่าทางอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร แค่หมดไวน์ไปสองแก้วเอง” มิราเอ่ยกับมิกเกลเพื่อนสนิทของเธอยิ้มๆ พลางยกไวน์ในมือขึ้นกรอกลงคอรวดเดียวหมด “แล้วนี่ทำไมเลิกค่ำจัง” มิราถามพลางยกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นดูเวลา เมื่อเห็นว่าเกือบหนึ่งทุ่มแล้วแต่มิกเกลกลับพึ่งได้เลิกงาน
“มีประชุมภายในไง ต่อให้เป็นลูกเจ้าของโรงแรมแต่ก็เป็นแค่เด็กฝึกงานนะ ก็ต้องทำตามกฎของโรงแรมด้วย”
“อ้อ..ลืมไป ว่านี่ยัยเด็กฝึกงาน ไม่ใช่ลูกเจ้าของโรงแรมในตอนนี้” มิราล้อเลียนด้วยรอยยิ้มหวาน ตอนนี้เธอกับมิกเกลอยู่ระหว่างฝึกงาน และใกล้จะเรียนจบแล้ว
มิกเกลฝึกงานที่โรงแรมของครอบครัวตัวเอง ส่วนเธอก็เช่นกัน ฝึกงานที่บริษัทของตัวเองไปเลย แรกๆอาจารย์จะไม่อนญาตแต่เพราะพ่อของเธอเสียลงเลยถูกพิจารณาเป็นพิเศษ ด้วยว่าบริษัทขาดคนดูแล
“แล้วนี่ทำไมดื่มเข้าไปเยอะขนาดนี้ ฉันทำให้แกรอจนหิวขนาดนั้นเชียว” มิกเกลเอ่ยแซวคนเป็นเพื่อน ที่สั่งอาหารมารอเพียงนิดแถมยังนั่งดื่มไวน์เหมือนดื่มน้ำเปล่า แสดงออกว่ากำลังมีเรื่องกลัดกลุ้มใจอย่างชัดเจน
“เบื่อกับเรื่องเดิมๆ อ่ะ จริงๆ อยากชวนแกไปดื่มเลยด้วยซ้ำ” มิราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ในขณะที่มือของก็เธอแกว่งแก้วไวน์ไปด้วย
“คืนนี้เหรอ”
“อืม...ไปกันนะ ศุกร์หรรษา”
“ได้สิ แต่ขอทานข้าวก่อนนะ ตั้งแต่เที่ยงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย”
“หึ! ทำไมแม่เธอใช้งานเธอหนักจังเลยเนี่ย” มิราวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ มือเล็กหยิบมีดกับส้อมขึ้นเตรียมหั่นสเต๊กตรงหน้า หลังจากที่บริกรยกมาเสิร์ฟได้สักพัก
“เปล่าหรอก ฉันแค่อยากทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จภายในวันที่กำหนดน่ะ เลยเร่งไปหน่อย” มิกเกลเอ่ยขึ้นเสียงใส พลางตักสลัดผักเข้าปากไปด้วย
“จริงจังไปป๊ะเนี่ย” มิราที่กำลังหันสเต๊กเป็นชิ้นเล็กๆ เอ่ยขึ้น
“นิดหน่อยอ่ะ แกก็รู้ว่าฉันไม่มีอะไรโดดเด่นเลยสักนิด ผิดจากพี่ๆ ทุกคนที่เขาเก่งกันหมดเลย ก็ต้องขยันมากหน่อย”
“ยัยนุ่มนิ่มเอ๊ย พูดซะฉันสงสารเธอเลย โดยที่บ้านบลูลี่เรื่องการเรียนของเธออีกแล้วใช่มั้ย”เธอรู้ดีมิกเกลชอบโดนที่บ้านดุอยู่เป็นประจำ เรื่องที่เธอหัวอ่อนและยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกับพี่ๆ ของเธอ ที่มีธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่อายุยี่สิบ
“แฮะ..ช่างเถอะ ฉันชินแล้วล่ะ”
“...” มิราพยักหน้าให้เพื่อนสนิทของเธออย่างเห็นใจ กลืนเรื่องราวที่กลัดกลุ้มเอาไว้ไม่พูดเพิ่มภาระความคิดให้เพื่อนของเธอ ชวนมิกเกลคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย พร้อมกับทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยากาศยามพลบค่ำกันไปอย่างเพลิดเพลิน
@ เดวิลผับ
“เฮ้! ยกเอายกเอา เดี๋ยวก็เมาก่อนเที่ยงคืนหรอก” มิกเกลตะโกนแข่งกับเสียงเพลงEDMที่กำลังดังกระหึ่ม เอื้อมมือไปจับแก้วแอลกอฮอล์ที่มิรากระดกเข้าปากเป็นแก้วที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ มาถือเอาไว้เอง
“อื้อ...อย่าห้ามน่า แกก็รู้ว่าฉันกำลังกลัดกลุ้มหัวใจแค่ไหน”เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นโบ มิราพูดด้วยน้ำเสียงยืดยาน ยื่นมือเข้าไปแย่งแก้วแอลกอฮอล์ของเธอกลับมาจากเพื่อนสนิท ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
ปกติมิราไม่ใช่คนที่ดื่มเยอะจนเมามายขนาดนี้ แต่เพราะเรื่องที่ไปเจอมาวันนี้ ทำให้เธออยากดื่มจนต้องชวนมิกเกลออกมาดื่มแก้เซ็ง แม้ว่าเธอจะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เพิ่มความไม่สบายใจให้เพื่อนสนิท แต่เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าปาก มันก็ยั้งเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี
“ฉันรู้ แต่ไม่ใช่ว่าจะดื่มให้ตายวันนี้นะคะ ตับแกยังทำงานดีอยู่มั้ยเนี่ย” มิกเกลบ่นออกมาพลางทำหน้ามุ่ยใส่มิรา เพราะเธอเอาแต่ดื่มของมึนเมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ร้านอาหารขนถึงป่านนี้ก็ยังคงดื่มไม่หยุด
“อื้อ..ยังอยู่ดี มีแค่หัวใจที่มันแตกเป็นเสี่ยงๆ” พูดจบมิราก็กระดกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงคอรวดเดียวหมด ความร้อนของมันแผ่ซ่านลงไปตามลำคอของเธอ ยาวไปถึงกระเพาะอาหาร กระนั้นเธอก็ยังมีแก่ใจหันไปสั่งบาร์เทรนเดอร์ให้ชงเครื่องดื่มมึนเมาให้เธออีกครั้งอย่างไม่ให้ขาดช่วง
เคร้ง!
“น้อง! ยกมาอีกสิบ”
“จะบ้าเหรอมิ ฉันไม่แบกแกกลับหรอกนะ” มิกเกลโพล่งออกไปแทบจะทันที สายตาของเธอกลับมองไปที่เพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วงอย่างมาก
“ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองเมาหรอกน่า”
“ว่าได้เหรอ เล่นยกเอายกเอาแบบนี้แถมยังพูดยานคางแล้วอีก”
“ฉันไม่เข้าใจเลยว่ะ ทำไมแม่ฉันต้องอยากมีผัวนัก สมบัติก็มีตั้งมากมาย ทำไมไม่อยู่สวยๆ ใช้เงินที่กองท่วมหัวอยู่นิ่งๆ ทำไมต้องรับไอ้แมงดาหน้าฮีนั่นเข้ามาผลาญสมบัติพ่อฉันด้วยวะ”
มิราเอ่ยความในใจออกมายาวเหยียด ราวกับเริ่มควบคุมสติไม่ได้ โดยที่ดวงตาคู่สวยของเธอเองยังจับจ้องอยู่ที่แก้วแอลกอฮอล์ตรงหน้าอย่างคิดไม่ตก เมื่อย้อนกลับไปเรื่องของคนเป็นแม่ที่เลือกผู้ชายแทนที่จะเลือกลูกในไส้อย่างเธอ
“ตอนนี้แม่แกคงหลงมันอยู่ อีกหน่อยก็คงรู้ฤทธิ์ของมันเองแหละ”
“เมื่อไหร่อ่ะ ต้องหมดตัวก่อนมั้ยวะ” มิราโพล่งขึ้นเสียงดังแล้วลุกขึ้นเต้นไปกับเพลงมันๆ ที่ผับเปิดอยู่ตอนนี้ ด้วยฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมาและความอัดอั้นตันใจที่ทำให้เธอเริ่มพูดเยอะและเสียงดังราวกับกำลังได้ปลดปล่อย
“เบาๆ สิแก” มิกเกลมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่ามีคนมองมาทางพวกเธอหลายคนหลังจากที่มิราโพล่งขึ้น มือเล็กกระตุกแขนของมิราให้นั่งลงตามเดิม แต่เพื่อนสนิทของเธอกลับยกแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นชนกับแก้วของเธอแทน
“ชน!”
เคล้ง!
มิกเกลได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆให้กับเพื่อนสนิท จนเวลาผ่านไปซักพักมิราจึงนั่งลงเก้าอี้ตามเดิม พร้อมกับซบหน้าลงบนไหล่เล็กของมิกเกล ด้วยอาการมึนเมา
“เอาเป็นว่าพูดอะไรไปตอนนี้แล้วไม่ฟัง แกลองให้มันผ่านไปสักพักก่อนมั้ยล่ะ แม่อาจจะฟังก็ได้นะ”
“ไม่ๆ ฉันไม่รอ ฉันจะหาผัวไปเย้ยแม่ฉัน ให้แม่อกแตกตายไปเลย”
“มันใช่เรื่องที่จะแข่งกันเหรอวะ พอแล้ว!” มือเล็กเอื้อมไปดึงแก้วเครื่องดื่มมึนเมาออกมาจากของมิรา แต่กลับไม่เป็นผล
“ฮึ!ในเมื่อแม่เอาแต่ห้ามไม่อยากให้ฉันมีแฟนก่อนเรียนจบ ฉันก็จะทำสิ่งที่ขัดแย้งกับแม่ตั้งแต่วันนี้แหละ” ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้ชายเข้ามาจีบเธอ ด้วยความสวยใส น่ารักเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ของเธอ ทำให้มีทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาลัยเข้ามาจีบกันเยอะพอสมควร
แต่ด้วยความที่เธอเชื่อฟังคนเป็นแม่ที่ไม่อยากให้เธอมีแฟนก่อนเรียนจบมหา’ลัย ทำให้เธอได้แค่เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกับผู้ชายพวกนั้น และปฏิเสธสถานะแฟนไปทั้งหมดตอนที่พวกเขาเข้ามาจีบ ทำเอาหนุ่มๆ อกหักกันไปเป็นแถบ
“บ้าไปใหญ่แล้ว ยัยมิราเอ๊ย แข่งกันมีผัวเนี่ยนะ” มิกเกลได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับคำพูดที่เกิดจากอาการมึนเมาของเพื่อนสนิทเธอ ทว่าเธอยังมีแก่ใจยกเครื่องดื่มขึ้นชนแก้วเป็นเพื่อนกับมิรา เพราะไม่อยากปล่อยให้เพื่อนดื่มเหงาๆ อยู่คนเดียว
“เลิกสนใจเรื่องแม่ฉันเถอะ ไปเต้นกันฉันกำลังสนุก” มิราเอ่ยชักชวนเมื่อเห็นว่ามิกเกลเงียบไปสักพัก
“หืม...ว่าไงนะ” มิกเกลหันกลับมาถามย้ำคำถามกับมิราด้วยว่าเธอไม่ทันได้ฟังเพื่อนสนิทพูด แต่เผลอจับจ้องไปที่คนบางคนที่นั่งอยู่บนโซนวีไอพีด้านบนนานไปหน่อย
“นั่นแกเมาเหล้าหรือเมาอะไร นั่งยิ้มอยู่ได้” มิราทักเพื่อนสนิทที่เอาแต่จิบแอลกอฮอล์จากแก้วในมือช้าๆ ส่วนสายตานั้นมองไปอีกทางอย่างกรุ้มกริ่ม
ดวงตาคู่สวยที่กลิ้งกลอกอยู่บนแพขนตางอนงาม มองตามสายตาของเพื่อนสนิทไปยังจุดโฟกัสที่มิกเกลจับจ้องอยู่เมื่อกี้ด้วยความสงสัย
“พี่วาคีนน่ะ เขานั่งอยู่โซนวีไอพีตรงโน้น” มิกเกลเอ่ยด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ไม่บอกก็รู้ว่าเธอเคอะเขินกับสายตาของวาคีนที่มองมาที่เธอ ไม่ใช่เพียงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แต่อย่างใด
“หืม...คนไหน” มิราหลี่ตาลงมองตามทางที่มิกเกลพยักพเยิดหน้าไปทางโซนวีไอพี แต่นั่นกลับทำให้เธอชะงักไปเล็กน้อยด้วยความประหม่า เมื่อเธอสบตาเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนนั้น เขาคือคนที่เธอเดินชนเมื่อตอนหัวค่ำ และในตอนนี้หน้าเขาก็ยังเรียบตึงอยู่เหมือนเดิม
‘ความเย่อหยิ่งแผ่ซ่านออกมาจนน่าหมั่นไส้ เชอะ!’
มิราค่อนขอดเขาอยู่ในใจแต่เพียงแวบเดียวที่ได้สบตากันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำ แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ดวงตาคู่นั้นจนต้องหลบตาเขาเสมองไปทางอื่นแทน