ร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร คิ้วคมเข้ม ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงสดที่ไม่ว่าสาวเล็กสาวใหญ่เห็นเข้าถึงกับกรีดร้องอยากจะลองสัมผัสดูสักครั้ง แต่ก็คงเป็นไปได้ยากเพราะเจ้าตัวสุดจะหวงแหน ผมตัดสั้นสีน้ำตาลเข้มระต้นคอที่มักจะเซตเป็นทรงให้ดูดีอยู่เสมอ ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาดูดีเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว นัยน์ตาสีเทาที่ยิ่งมองก็ยิ่งชวนให้หลงใหล ตบท้ายด้วยรอยยิ้มมหาเสน่ห์ที่สาวๆ ได้เห็นแล้วใจละลายและยินยอมมอบทั้งตัวและใจให้กับนักแสดงหนุ่มชื่อดังของวงการฮอลลีวูดอย่างเทอร์รี่ เจมส์ เคฮิลล์ วัย 28ปี ที่มีสายเลือดไทย-ออสเตรเลียนไหลเวียนอยู่ในตัว ซึ่งเชื้อสายไทยเขาได้มาจากฝั่งของมารดา และเชื้อสายออสเตรเลียนก็ได้มาจากบิดา
เทอร์รี่ค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียงขนาดคิงไซส์อย่างเกียจคร้าน อาทิตย์ก่อนเขาเพิ่งจะกลับมาจากประเทศกรีซเพราะไปถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Me from hell มีชื่อภาษาไทยว่า ‘เพชฌฆาตสั่งตาย’ ซึ่งเขาต้องใช้เวลาอยู่ที่กรีซราวๆ สองเดือนจึงได้ปิดกล้อง หลังจากตระเวนถ่ายภาพยนตร์มาหลายประเทศ และสุดท้ายเขาก็ได้พักยาวๆ เป็นเวลาเกือบสองเดือน ก่อนที่จะเริ่มถ่ายภาพยนตร์เรื่องต่อไป ที่ๆ เขาต้องการพักผ่อนมากที่สุดก็คือคฤหาสน์หลังงามที่ตั้งอยู่แถบชานเมืองของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งบิดาและมารดาของเขาก็อยู่ที่นี่
“เจมส์ ตื่นหรือยังลูก” บัวแก้วมารดาของเทอร์รี่มาเคาะประตูเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเนื่องจากเห็นว่าใกล้เที่ยงวันแล้ว การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนักและชื่อเล่นของเขาก็จะมีเฉพาะคนในครอบครัวเพียงเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เรียก ส่วนคนนอกจะเรียกชายหนุ่มว่าเทอร์รี่
“ตื่นแล้วครับแม่” เทอร์รี่ขานรับ ก่อนจะพาร่างสูงของตัวเองเดินไปเปิดประตูให้มารดา
“ว้าย! ตายแล้ว!” บัวแก้วถึงกับหวีดร้องออกมากับสภาพที่ดูไม่เรียบร้อยจนเกินควรของลูกชายตัวดี ถ้าเป็นสาวใช้เข้ามาเห็นเข้าคงหัวใจวายตายเพราะลูกชายของตัวเองแน่ ก็พ่อเจ้าประคุณเล่นนุ่งบ็อกเซอร์แค่ตัวเดียวเดินโทงๆ มาเปิดประตูแบบนี้
“คุณแม่ไม่ต้องกรี๊ดก็ได้ครับ ผมรู้ดีว่าผมน่ะหล่อแค่ไหน” แทนที่จะสะทกสะท้านที่ทำให้มารดาต้องหวีดร้อง แต่ร่างสูงกลับตอบกลับมารดาอย่างไม่ยี่หระ ทั้งยังไหวไหล่เบาๆ อย่างกวนอารมณ์อีกด้วย
บัวแก้วถึงกับยิ้มขำกับท่าทีของลูกชาย ก่อนจะผลักไหล่กว้างเบาๆ ให้กลับเข้าไปด้านใน
“ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยพ่อตัวดี คุณพ่อรอทานมื้อกลางวันอยู่”
“ครับผม” ร่างสูงรับคำมารดา ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปอาบน้ำเพราะเกรงว่าบิดาจะคอยนาน บัวแก้วมองตามหลังลูกชายไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
หลังจากที่จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว เทอร์รี่จึงลงมาที่ห้องอาหารของคฤหาสน์ตระกูลเคฮิลล์ ซึ่งบิดามารดาของเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ไง กว่าจะลงมาได้นะไอ้ลูกชาย” โอลิเวอร์เอ่ยทักลูกชายด้วยรอยยิ้มกว้างที่ผุดอยู่เต็มใบหน้า ถึงแม้จะล่วงเข้าสู่วัยห้าสิบห้าปีแต่หนุ่มออสซี่รายนี้ก็ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งระยะเวลาที่อาศัยอยู่เมืองไทยนานมากกว่ายี่สิบปี ทำให้เขาพูดภาษาไทยได้อย่างชัดเจนราวกับเป็นเจ้าของภาษาเลยก็ว่าได้
“แหม คุณพ่อก็น่าจะรู้ นักแสดงระดับฮอลลีวูดอย่างผมน่ะ ก็ต้องใช้เวลาแต่งตัวมากหน่อยสิครับ ไม่อย่างนั้นคงเสียชื่อแย่” เทอร์รี่เอ่ยอย่างโอ้อวดซึ่งก็ไม่ได้ดูเกินจริงแต่อย่างใด
โอลิเวอร์กับบัวแก้วถึงกับอมยิ้มกับท่าทางของลูกชาย ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมือจัดการกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า บรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัวเคฮิลล์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
โอลิเวอร์บิดาของเทอร์รี่เป็นวิศกรไฟฟ้า เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศออสเตรเลียตั้งแต่อายุ 26 ปี และได้มาเจอกับมารดาของเทอร์รี่ที่เป็นแม่ค้าขายผลไม้อยู่ใกล้กับบริษัทที่บิดาของเขาทำงานอยู่ ด้วยความน่ารักสดใส ประกอบกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ทำให้บิดาของเขาตกหลุมรักมารดาในทันที ทั้งคู่ศึกษาดูใจกันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โอลิเวอร์มีรายได้ต่อเดือนมากพอควรและพออายุย่างเข้าสู่วัย 35 ปี จึงตัดสินใจทำเงินไปลงทุนซื้อหุ้นเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งบังเอิญทำรายได้อย่างมหาศาล จึงลาออกจากงานประจำรอเพียงรับเงินจากปันผลเพียงเท่านั้น ซึ่งเม็ดเงินนั้นก็สามารถบันดาลให้ครอบครัวเคฮิลล์มีกินมีใช้อย่างเหลือเฟือ ประกอบกับเทอร์รี่ได้เข้าวงการบันเทิงเป็นนักแสดงชื่อดังคนหนึ่งของวงการฮอลลีวูดซึ่งทำรายได้ต่อปีอย่างเป็นกอบเป็นกำครอบครัวเคฮิลล์จึงอยู่กันอย่างสุขสบายมาจนถึงทุกวันนี้
เทอร์รี่คว้าหนังสือแนวสืบสวนเล่มหนึ่งติดมือมาด้วย เขาตั้งใจว่าจะไปนอนเล่นในสวนหลังบ้านเสียหน่อย ปกติแล้วถ้ามีวันหยุดยาวๆ เขาก็มักจะอยู่แต่บ้านนี่ละ ไม่ค่อยอยากออกไปไหนเพราะชีวิตนักแสดงอย่างเขาก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว การเลือกที่จะกลับมาพักผ่อนที่บ้านจึงเป็นทางเลือกที่เขาเห็นว่าดีที่สุด และที่สำคัญก็ได้อยู่กับครอบครัวอีกด้วย โดยเฉพาะการได้ทานอาหารรสมือของคุณนายบัวแก้วคือสิ่งที่วิเศษที่สุดสำหรับเขา
ร่างสูงยังไม่ทันก้าวถึงที่หมายคือเปลผูกใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังบ้านก็ต้องสะดุดเข้ากับเสียงหัวเราะของสาวใช้สองคนที่ปูเสื่อนั่งอยู่บริเวณสนามหญ้า คิ้วหนาขมวดมุ่นเล็กน้อยเพราะได้ยินชื่อของตัวเองในวงสนทนานั่นด้วย ก่อนจะตัดสินใจสาวเท้าเข้าไปดูใกล้ๆ โดยที่สองสาวใช้ยังไม่ทันได้รู้เนื้อรู้ตัว
“ทำอะไรกันน่ะ” เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้สองสาวสะดุ้งจนตัวโยน ก่อนจะเผลอปล่อยหนังสือในมือร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น
“คุณเจมส์!” สะอิ้งกับสะอาดสองสาวใช้วัยยี่สิบปีถึงกับร้องเสียงหลง แค่ได้ยินเสียงดุดันของเขาพวกเธอก็เกือบจะหัวใจวายตายอยู่แล้ว พอหันมาเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังบูดบึ้งใจของพวกเธอก็ถึงกับเคลื่อนที่ไปอยู่ที่ตาตุ่มกันเลยทีเดียว
“ฉันถามว่าทำอะไร” เสียงทุ้มถามย้ำดุดัน
“อะ…เอ่อ…คือว่าพวกเรากำลังอ่านนิยายน่ะค่ะ” สะอิ้งอาสาเป็นหน่วยกล้าตายตอบออกไป เพราะสะอาดกำลังตัวสั่นงันงกอย่างหวาดกลัวกับสีหน้าท่าทางของเจ้านายหนุ่ม
“นิยายอะไร ทำไมถึงได้มีชื่อฉันด้วย”
“ก็แค่นิยายรักทั่วไปค่ะ” เป็นอีกครั้งที่สะอิ้งตอบ ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อถูกมองด้วยสายตาดุๆ
“เอามานี่”
“คุณเจมส์จะเอาอะไรคะ” คราวนี้เป็นสะอาดที่เอ่ยปากถาม เพราะสะอิ้งกำลังตัวสั่นงันงกแทนเธออยู่
“หนังสือเล่มนั้น” เทอร์รี่บอกเสียงเรียบ
สะอาดค่อยๆ หยิบหนังสือนิยายที่กองอยู่บนพื้นส่งให้เจ้านายหนุ่มด้วยมือสั่นเทา เสียดายก็ส่วนนึงเพราะพวกเธอยังไม่ทันได้อ่านจบ กำลังถึงช่วงเข้าพระเข้านางกันเลยทีเดียว แต่อีกส่วนนึงก็หวาดกลัวสายตาดุๆ ของเจ้านายหนุ่ม จึงต้องรีบทำตามอย่างไม่มีทางเลือก
เทอร์รี่รับหนังสือเอาไว้ในมือ ก่อนจะโบกมือไล่สองสาวใช้ ซึ่งทั้งคู่ก็ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี ทันทีที่เจ้านายหนุ่มโบกมือไล่ สองสาวก็วิ่งพรวดพราดออกไปอย่างไม่คิดชีวิต
ร่างสูงก้าวอาดๆ ไปยังสวนหลังบ้าน พร้อมกับหนังสือนิยายที่อยู่ในมือสองเล่ม อีกเล่มคือนิยายแนวสืบสวนที่เขาตั้งใจจะอ่าน ส่วนอีกเล่มคือนิยายรักที่กำลังกวนอารมณ์แจ่มใสก่อนหน้านี้ให้ขุ่นมัว
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเปลผ้าร่มสีเขียวเข้ม ก่อนจะเอนตัวลงนอน ตอนนี้เขาเลือกที่จะหยิบหนังสือนิยายรักที่เขาไม่เคยชอบขึ้นมาดูก่อนว่าทำไมสองคนนั่นถึงพูดถึงเขาด้วยตอนที่พวกเธอเปิดอ่านนิยายเล่มนี้
เมื่อเห็นหน้าปกหนังสืออย่างเต็มตา ใบหน้าหล่อเหลาถึงกับบูดบึ้ง ก่อนจะทะลึ่งตัวพรวดพราดลุกขึ้นนั่งจนเปลผ้าร่มสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่ากำลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ นัยน์ตาสีเทาราวกับว่ามีประกายไฟแล่นอยู่ในนั้นด้วย
จะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไรก็ภาพหน้าปกมันเป็นภาพส่วนตัวของเขาที่ลงไว้ในอินสตราแกรม ทำแบบนี้ก็ทำกับว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เพราะนำภาพของเขาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เขาน่ะเป็นนักแสดงภาพยนตร์ระดับพันล้าน ไม่ใช่พระเอกนิยายกิ๊กก๊อกแบบนั้น ร่างสูงโกรธจัดจนควันแทบจะออกหู ก่อนจะเปิดดูรายละเอียดด้านในเพื่อหาชื่อสำนักพิมพ์และรายชื่อผู้ประพันธ์ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ แน่
สำนักพิมพ์…. ผู้ประพันธ์คือ…นารีไร้ใจอย่างนั้นหรือ
ชายหนุ่มกลั้วหัวเราะเบาๆ แต่ออกไปทางหัวเราะเยาะเสียมากกว่า เมื่อเห็นนามปากกาของผู้ประพันธ์ ในสมองอันชาญฉลาดของเขาคิดว่าเจ้าของนามปากกาต้องเป็นผู้หญิงวัยป้าแน่ แต่ช่างเถอะ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ละเมิดลิขสิทธิ์แบบนี้เขาไม่ปล่อยเอาไว้แน่!