บทนำ
“กางขาออก… ก้มลงอีก เอ้นสะโพกขึ้น”
เสียงแหบต่ำเย็นชาเหมือนคำสั่ง ทำให้หญิงสาวตรงหน้าหยุดหายใจไปเสี้ยววินาที หัวใจเธอเต้นแรงจนลำคอแห้งผาก ทั้งความกลัว ความประหม่า และความไม่แน่ใจว่าเขาต้องการอะไรกันแน่
"นี่คุณกำลังบังคับฉันอยู่นะคะ"
เธอก้มลงบนโต๊ะสนุก ท่าแทงสนุกทำให้เธอจำต้องโค้งตัวตามที่เขาบอก ปลายไม้สนุกในมือสั่นน้อยๆ จนเธอต้องกำมันแน่น เหงื่อซึมเต็มฝ่ามือเล็กจนลื่นไปหมด แต่เธอก็ไม่กล้าปล่อยมือ
เพราะคนตรงหน้า… ไม่ใช่คนที่ควรขัดใจแม้แต่วินาทีเดียว 'เขาคือเจ้าหนี้'
ชายร่างสูงรูปร่างสมบูรณ์แบบ เด่นสะดุดตาทุกมุม ผิวขาวจัด ใบหน้าหล่อคม ปากอมชมพูที่ดูอ่อนโยนแต่กลับขัดกับแววตาเย็นเฉียบ ที่จ้องเธอเหมือนนักล่ามองเหยื่อ
เขาหล่อจนทำให้เธอใจสั่น แต่ความหล่อของเขาแฝงไว้ด้วยอันตรายร้ายแรง เพราะเขา… คือคนที่เธอไม่ควรเข้าใกล้ที่สุดในชีวิต
เสียงหัวเราะต่ำๆ ดังขึ้น ช้า… ลึก… และน่ากลัวจนขาของเธอสั่นน้อยๆ
"ไม่เจอกันนานเลยนะสาวน้อย"
เขาชอบที่เธอทำตามคำสั่ง เขาชอบที่เธอกลัวเขา
และเขาก็แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งไม่คิดปิดบัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย ดวงตาคมกริบไล่มองเธอจากด้านหลังอย่างเปิดเผย
“เซ็กซี่ดีนี่… แบบนี้ถ้าพี่ใหญ่เห็น”
เขาหยุดเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเหมือนกำลังสนุกกับจังหวะที่เธอหายใจติดขัด
“ถุงป้องกันที่เตรียมไว้คงหมดเป็นห่อๆ แน่”
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่ได้พูดแค่หยอกล้อ มันคือการข่มขวัญ คือการประกาศว่าเขามีอำนาจเหนือเธอเต็มร้อย
ปลายรองเท้าของเขาขยับเข้ามาใกล้… ใกล้จนเธอรู้สึกถึงไออุ่นของร่างกายเขา ที่คืบคลานเข้ามาปิดล้อม
เธอไม่ต้องเงยหน้ามองก็รู้ว่าเขาอยู่ชิดหลังเธอแค่ไหน
และรู้ดีว่า…
เธอไม่มีทางหนีจากตรงนี้ได้
หัวใจเธอสั่นแรงจนปวดบีบ ความกลัวพุ่งขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก แต่เธอยังต้องยืนอยู่ในท่านั้น ทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างเหมือนเชลยในกรงของเขา
ชายหนุ่มยกปลายนิ้วแตะที่หลังมือเธอเบาๆ ทั้งที่สัมผัสนั้นแทบไม่แตะผิว แต่กลับทำให้เธอขนลุกซู่ไปทั้งร่าง
“ดีมาก” เขากระซิบเสียงต่ำ
“อย่าขยับ… จนกว่าฉันจะบอกให้ทำ”
ชายหนุ่มยกมือถือถ่ายรูปเธอ แล้วส่งให้คนที่เขากำลังใช้เธอเป็นเหยื่อล่อทันที
คำสั่งของเขาทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ราวกับลมหายใจของเธอถูกควบคุมโดยเขาคนเดียว
เพราะตั้งแต่วินาทีนี้ ชีวิตของเธอ… อยู่ในมือผู้ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งเย็นชา และอันตรายที่สุดคนนี้
ในใจของเธอประโยคหนึ่งผุดขึ้นซ้ำๆ
“ถ้ามีโอกาส… ผู้ชายคนนี้จะเป็นคนแรกที่ฉันส่งลงนรก”
แต่เธอก็รู้ดี...
อนาคตต่อจากนี้ของเธอ คงไม่ได้เรียบง่ายหรือปลอดภัย เขาอาจเหยียบย่ำเธอ หรือส่งเธอเข้าสู่หลุมพรางที่เขาวางไว้ เพราะเธอรู้… ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นปีศาจที่ใส่สูทหล่อเหลาจนคนตายใจ
ดังนั้น ถ้าเขาคือชายคนแรกในชีวิต เธอก็ไม่คิดจะเสียดายเลยแม้แต่นิดเดียว
หล่อ~
สะอาด~
กล้ามชัด~
แถมยังอันตรายเสียจนหัวใจเธอเต้นแรงไม่หยุด
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินตรงไปหาเขา ชายหนุ่มที่นั่งไขว่าห้าง เอนตัวพิงโซฟาอย่างเหนือกว่า
มือหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกมือคีบบุหรี่ปล่อยควันอ้อยอิ่ง ท่าทางของเขามันทั้งเท่ ทั้งยั่วยวน ทั้งบอกชัดว่าเขาเป็นคนกำหนด “เกม”
เธอเดินไปถึงตรงหน้า แล้วจับแก้วเหล้าจากมือเขาอย่างไม่ลังเล กระดกมัน จนหมดแก้ว ในทีเดียว
มาเฟียหนุ่มถึงกับชะงักค้าง ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนมุมปากเขาจะยกขึ้นช้าๆ แบบคนเจ้าเล่ห์
“ว่างเหรอ…?
เสียงเขาแผ่วต่ำ ลากปลายคำเหมือนกำลังสนุก
หญิงสาววางแก้วดัง กึก! แล้วตอบทันที
“ว่างสิคะ… คุณชอบฉันไม่ใช่เหรอ”
เธอไม่รอให้เขาพูด แต่ เดินเข้าไปนั่งตักเขาทันที
กลิ่นเขาใกล้จนลมหายใจเธอสะดุด
"มาเร็วๆ รีบทำรีบเสร็จจะได้กลับ"
มือเล็กยกขึ้นลูบตามแนวกรามคมของเขาเบาๆ
ปลายนิ้วสั่นน้อยๆ แต่ยังฝืนทำตัวนิ่ง
ก่อนเธอจะเอ่ยเสียงแผ่วจริงจัง แต่เจือด้วยความกลัวที่หลบไม่มิด
“มีอะไรกับคุณ… ก็คงไม่น่าเสียใจ”
เธอสบตาเขาตรงๆ
“หน้าตาหล่อ ปากน่าลงไหล… หุ่นดี กล้ามชัด… ใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้น”
ประโยคยังไม่ทันจบ
ชายหนุ่มตรงหน้า “กลืนน้ำลาย” เสียงดัง
ลูกกระเดือกขยับเป็นจังหวะที่เธอมองเห็นชัดเจน
ก่อนเสียงโลหะปลดล็อก แกร๊ก ดังขึ้น
หัวใจเธอตกไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที...
แต่ก่อนที่เธอจะขยับถอย มือใหญ่ของเขาก็รวบข้อมือเธอทั้งสองข้าง ตรึงลงแน่น แข็ง และเร็ว เหมือนเขาคาดการณ์ไว้แล้ว
ใบหน้าเขาโน้มลงจนปลายจมูกเฉียดแก้มเธอ
เสียงเขาเย็นจัดจนสันหลังเธอชาวาบ
“จะทำอะไรน่ะ… หืม?”
เขายิ้มมุมปาก ทั้งดุ ทั้งอันตราย บีบข้อมือเธอให้แน่ใจว่าเธอหนีไม่รอด
“อย่ามาเล่นกับ ระบบ ของฉัน… ผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเธอไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอก ไม่ต้องรีบร้อน”
สายตาเขาคม เหมือนกดตรึงเธอกับโซฟาทั้งตัว
“รู้หรือยัง… ว่าเธอกำลังลองดีกับใครอยู่?”
ปัจจุบันบัน
“เสี่ยครับ... เธอกลับมาแล้วครับ”
น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงด้วยความเกรงใจเอ่ยรายงาน
ควินที่ยืนพิงราวระเบียงอยู่ก่อนแล้ว เขาขยับมือจุดไฟแช็กเสียง แชะ! ดังขึ้นเบาๆ เปลวไฟสะท้อนในดวงตาคม ก่อนที่เขาจะยกบุหรี่ขึ้นสูบอย่างใจเย็น
ร่างสูงในชุดเชิ้ตสีดำ ปลดกระดุมบนออกสองเม็ด เผยให้เห็นลำคอขาวจัด รอยสักสีชัดเจนตรงต้นคอ ชายหนุ่มหน้าลูกครึ่งวัย 27 ปี ที่ดูทั้งอบอุ่น และอันตรายในเวลาเดียวกัน
เขาไม่ตอบอะไรในทันที เพียงพ่นควันสีขาวบางออกไปช้าๆ แล้วทอดสายตาลงไปยังถนนด้านล่าง
ร่างเล็กข้างล่างนั้น เธอคือปานชีวา สาวน้อยวัย 21 ปี ผิวขาวนวลจนแทบสะท้อนแสงไฟข้างทาง ใบหน้าหวานเรียบง่าย ดวงตากลมโตซ่อนแววเศร้าไว้ลึกๆ เธอสวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงฟอร์มสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่เก่ง เดินก้มหน้าเข้ามาในซอยมืด ด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากกลับมาจากที่ทำงานพิเศษ
เมื่อถึงหน้าบ้านไม้สองชั้นเก่าที่ตั้งอยู่สุดซอย เธอเงยหน้ามองขึ้นไปแล้วบิดขี้เกียจเบาๆ พลางพึมพำกับตัวเอง
“เพิ่งกลับไทยมาได้แค่สิบวัน... โชคดีที่หางานได้เร็วขนาดนี้”
เธอยิ้มบางๆ ก่อนหัวเราะเบาๆ อย่างภูมิใจ
“ฮะ! ฮะ! เรานี่มันสุดยอดจริงๆ ถึงจะเป็นแค่ครูสอนเทควันโด แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำเนอะ”
เสียงหัวเราะของเธอแผ่วเบาในความเงียบ ของซอยมืดแสงไฟจากเสาไฟกระพริบวูบวาบ ส่องให้เห็นเงาร่างเล็กที่เดินเข้าไปใกล้บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ สายลมยามค่ำพัดเบาๆ ทำให้เส้นผมดำขลับปลิวผ่านแก้มเธอ
บนระเบียงชั้นสอง เสี่ยควินมองภาพนั้นด้วยแววตานิ่งเยือกเย็น แต่ลึกลงไปกลับมีบางอย่างที่เขาเองก็อ่านไม่ออก
“เตรียมรถไว้”
เสียงทุ้มต่ำสั่งเรียบๆ
ลูกน้องก้มหัวรับ ก่อนรีบถอยลงไปอย่างรู้หน้าที่
เสี่ยควินสูบควันอีกครั้ง แล้วเอ่ยแผ่วเบา
“ถึงเวลาแล้ว... ปานชีวา” เขาเอ่ยเบาๆ กับตัวเอง
ทันใดนั้นเสียงของลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้นทันที น้ำเสียงตกใจเล็กน้อย ขณะก้าวเข้ามายืนข้างเจ้านายบนระเบียง
“เสี่ยครับ... ดูข้างล่างครับ”
เขาหรี่ตามองลงไปเบื้องล่าง เห็นร่างบางของปานชีวากำลังยืนอยู่ตรงหน้าบ้าน ก่อนจะมี ชายฉกรรจ์สี่คน เดินออกมาจากเงามืดของซอย มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
หนึ่งในนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ แต่แฝงความเย้ยหยัน
“ไปไหนมาจ๊ะ... น้องสาว พวกพี่รออยู่นานแล้วนะ”
ปานชีวาชะงักกึก ใบหน้าเธอซีดลงในทันที
“พวกแกเป็นใคร...” เธอถามเสียงสั่น พยายามถอยหลังอย่างระแวดระวัง
ชายอีกคนหัวเราะเสียงต่ำ ก่อนตอบอย่างชัดเจน
“พี่ชายกับพี่สะใภ้ของเธอ... ขายเธอให้กับเฮียอ้วนแล้วไงจ๊ะ”
เขาก้าวเข้าใกล้เธออีกก้าว ดวงตาเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย
“มากับพวกพี่ซะดีๆ เถอะน้อง จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”
หัวใจของปานชีวา เต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก
เธอส่ายหน้าอย่างตกใจ
“ไม่! ฉันไม่ไป! ใครสร้างหนี้ก็ไปเอากับคนนั้นสิ"
เสียงของเธอสั่นด้วยความกลัวปนสิ้นหวัง
บนระเบียง เสี่ยควินยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมเข้มฉายแววไม่พอใจทันทีที่ได้ยินชื่อ “เฮียอ้วน” หลุดออกมาจากปากพวกนั้น "เจ้าของบ่อนพนันนรกสินะ?
เขาพ่นควันบุหรี่ช้าๆ ก่อนยืนหันหลังให้กลุ่มคนข้างล่างอย่างไม่แยแส ก่อนเอ่ยน้ำเสียงต่ำเย็น
“ลำคานลูกตาชะมัด ลูกหนี้กระจอกเกินไป"
ชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามาประชิดตัว ปานชีวาอย่างรวดเร็ว
“มากับพวกพี่ดี ดีกว่านะน้องสาว”
แต่แทนที่เธอจะถอยหนี ปานชีวากลับขยับท่าทางอย่างมั่นคง ในเสี้ยววินาทีนั้น เธอใช้ความรู้จากการสอนเทควันโดออกอาวุธ ขาเรียวเตะเสยเข้าที่ลำตัวของชายคนหนึ่ง จนล้มกลิ้งไปกับพื้น ก่อนจะหมุนตัวกลับมาใช้ศอกกระแทก เข้ากับใบหน้าของอีกคนอย่างแม่นยำ
เสียง อั่ก! ดังขึ้นพร้อมกัน ร่างของชายทั้งสองล้มฟุบลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
บนระเบียงด้านบน ลูกน้องของ เสี่ยควินสะกิดแขนเจ้านายเบาๆ
“เสี่ยครับ... ดูนั่นสิครับ”
ชายหนุ่มกำลังพ่นควันบุหรี่อย่างเฉื่อยชา หันกลับมามองตามสายตาของลูกน้อง ก่อนจะโน้มตัวพาดแขนกับราวระเบียง สายตาคมจับจ้องไปยังหญิงสาวร่างเล็ก ที่กำลังตั้งท่าป้องกันตัว อยู่กลางแสงไฟสลัว
เธอเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เส้นผมดำขลับปลิวสะบัดทุกครั้งที่เธอออกหมัดและเตะสวนกลับ เขามองภาพนั้นนิ่งๆ สูบบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง ก่อนจะเป่าควันสีขาวออกมาช้าๆ
มุมปากของเขายกขึ้นน้อยๆ พร้อมเสียงพึมพำทุ้มต่ำ
“น่าสนใจดี...”
ไม่นานทั้งสี่คนก็ลงไปกองกับพื้นด้วยฝีมือของเธอ
ชีวาหายใจแรง มือเล็กยังสั่นน้อยๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปทุบประตูบ้านเสียงดัง
“พี่! เปิดประตูให้ชีวาหน่อย! พี่!” ปัง! ปัง! ปัง! เสียงเธอเคาะประตูดังลั่น หลังจากคนข้างในบ้านล็อคประตูไว้จากด้านใน
"พี่วิทย์ พี่ยาหยี เปิดประตูให้ชีวาที"
แต่กลับไร้วี่แววของการตอบรับ ความเงียบยิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นถี่ขึ้น ไม่มีเวลาให้ลังเล เธอหันหลังแล้ววิ่งออกจากซอยไปสุดแรง
บนระเบียงชั้นสองของอาคารฝั่งตรงข้าม
ลูกน้องของควินรีบสะกิดแขนเจ้านายเบาๆ
“เสี่ยครับ…ให้ผมลงไปช่วยไหมครับ?”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขามองตามร่างเล็กที่วิ่งฝ่าความมืดออกไป ควันบุหรี่จางๆ ลอยคลุ้งข้างใบหน้า ก่อนเขาจะยิ้มมุมปาก
“เธอน่าสนใจดี…”
พูดจบ เขาก็ก้าวยาวๆ วิ่งลงบันไดโดยไม่รอช้า