ข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธ

1893 คำ
ตอนที่ 2 หลายวันต่อมา พริมาเพิ่งปิดไลฟ์ได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้เธอขมวดคิ้วมุ่น “คุณภาส!!!...” พริมาพึมพำ ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ภายใน “สวัสดีค่ะคุณภาส” “สวัสดีครับคุณพริมา” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวล “แหม่!!... เมื่อสักครู่ผมก็อยู่ในไลฟ์ด้วยนะครับ ดูเพลินเลย “ “ผมติดตามไลฟ์ของคุณพริมามาสักพักแล้ว ต้องบอกว่าคุณมีเสน่ห์มากจริง ๆ ครับ ทั้งความสดใส ความเป็นกันเอง และความสามารถในการพูดของคุณ ทำให้สินค้าน่าสนใจขึ้นมาทันที” ภาสกรเอ่ยชม น้ำเสียงของเขาอบอุ่นจนพริมาเผลอคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะกรอกเสียงหวานตอบไป “ขอบคุณค่ะ...คุณภาส... ว่าแต่ วันนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ” “คืองี้ครับ... ผมกำลังจะมีงานเปิดตัวโครงการหมู่บ้านพิมานธารา เป็นบ้านจัดสรรแห่งใหม่ของเรา ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ผมคิดว่า... อยากจะเรียนเชิญคุณพริมามาเป็นส่วนหนึ่งของงานครับ” เขาเว้นจังหวะอีกครั้ง ราวกับกำลังรวบรวมความกล้า “คือผมอยากได้คนที่กำลังมาแรง เป็นที่สนใจ อย่างคุณพริมาเนี่ยแหละครับ มาช่วยเปิดตัวโครงการของผม คือ... จะให้คุณพริมาช่วยพูดบนเวที นำเสนอภาพลักษณ์ของโครงการ หรืออะไรก็ได้ที่คุณพริมาถนัดเลยครับ” น้ำเสียงของภาสกรจริงจังขึ้นเล็กน้อย “ผมมั่นใจว่า...ด้วยความสามารถและชื่อเสียงของคุณพริมา จะช่วยทำให้งานเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรใหม่ของผมดูน่าสนใจและเป็นที่จับตามองมากขึ้นครับ” ในขณะที่พูดถึงเรื่องงาน น้ำเสียงของภาสกรก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความชื่นชมอย่างเปิดเผย “จริงๆ แล้ว ผมชื่นชอบสไตล์การทำงานของคุณพริมามากนะครับ ดูเป็นธรรมชาติและเข้าถึงง่าย ผมเชื่อว่าภาพลักษณ์ของคุณจะเข้ากันได้ดีกับโครงการบ้านแห่งใหม่ของเรา ที่เน้นความอบอุ่นและเป็นกันเองครับ” เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังรอฟังความคิดเห็นจากเธอ “ถ้าคุณพริมาสนใจ ผมยินดีที่จะส่งรายละเอียดของเนื้องานเพิ่มเติมให้ครับ...” น้ำเสียงของเขาลงท้ายด้วยความคาดหวังอย่างชัดเจน พริมาฟังอย่างตั้งใจ ความรู้สึกประหลาดแล่นริ้วในใจ น้ำเสียงของภาสกรมีความจริงใจและนุ่มนวลอย่างบอกไม่ถูก... และคำชมที่เขาเอ่ยมานั้น ก็ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด หญิงสาวสีหน้าเปลี่ยนเป็นลังเล เพราะเธอเพิ่งนัดกับจีน่าบุตรสาวเอาไว้ “คุณภาสกรจะเปิดตัวโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งใหม่เหรอคะ... อื้มฉัน… ไม่แน่ใจเลยค่ะคุณภาส... ว่าจะว่างหรือเปล่า” “เสียงคุณฟังดูไม่ดีเลย มีอะไรหรือเปล่าครับ” หญิงสาวลังเลเล็กน้อยก่อนตอบ “คือพริมาเพิ่งคุยกับน้องจีน่าเรื่องงานวันพ่อเค้าน่ะคะ ก็เลยแอบกังวลนิดหน่อย” “เอางี้มั้ยครับ คุณพริมา ถ้าไม่รังเกียจ ผมไปงานวันพ่อของน้องจีน่าก็ได้ ถือว่าช่วย ๆ กัน คุณช่วยผม ผมก็ช่วยคุณ” น้ำเสียงของไฮซีหนุ่มพยายามโน้มน้าวหญิงสาว “ผมอยากให้คุณมาจริงๆ นะครับคุณพริมา งานนี้ใหญ่พอสมควร คุณจะได้เจอผู้คนเยอะแยะ อาจจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับธุรกิจของคุณด้วยนะครับ และที่สำคัญ...” เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย “ค่าจ้างสำหรับแม่ค้าออนไลน์อย่างคุณ ผมจ่ายให้วันล่ะห้าหมื่นบาทเลยนะครับ” พริมาเงียบไปครู่หนึ่ง สีหน้าสับสนอย่างหนัก ตัวเลขห้าหมื่นบาทต่อวัน เป็นจำนวนที่มากพอที่จะช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินของเธอได้ไม่น้อย แต่ภาพใบหน้าลูกสาวก็ลอยขึ้นมาในหัว เมื่อเห็นพริมาเงียบไป ก่อนจะตัดสินใจ พูดออกไปช้าๆ ด้วยความลังเล “งั้น... ฉันขอคิดดูก่อนนะคะคุณภาส เดี๋ยวถ้ายังไงจะติดต่อกลับไปค่ะ” “ได้ครับคุณพริมา แล้วผมจะรอคำตอบจากคุณนะครับ” พริมาไม่ได้ตอบอะไร หญิงสาววางสาย มองโทรศัพท์ในมือด้วยสีหน้าหนักใจยิ่งกว่าเดิม “มีอะไรไม่สบายใจหรือคะ พี่พริมา” น้องเนยเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายไม่สู้ดี “ก็คุณภาสกรนะสิ เสนอให้พี่ไปงานเปิดตัวโครงการหมู่บ้านแห่งใหม่ของเขา” พริมาตอบเสียงอ่อนลง “งานเปิดตัวหมู่บ้านพิมานธารา ใช่มั้ยคะ” เนยทวนคำถาม ที่ได้ยินเสียงสนทนาช่วงที่เจ้านายคุยสายกับภาสกรเมื่อสักครู่ “อื้ม...นั่นแหละ” “อ๋อ!!!...สงสัยคุณภาสกรเนี่ย!!!...เค้าคงอยากจะเกาะกระแสความปังของพี่นะคะ งั้นพี่ก็ไปช่วยเค้าโปรโมทโครงการหน่อยสิคะ ดู ๆ แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลย” เด็กสาวแอบเชียร์ เพราะรู้ว่าเจ้าของโครงการรวยไม่ใช่เล่น ก่อนจะเสนอความคิดแบบเป็นกลางออกไป “แล้วค่าตอบแทนล่ะคะ มันโอเคมั้ย ถ้าโอเค..เดี๋ยวเนยไลฟ์แทนพี่ก็ได้นะ” พริมาส่ายหน้าเบาๆ “มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ พี่นัดกับน้องจีน่าเอาไว้แล้ว” น้ำเสียงของเธอมีความรู้สึกผิดเจือปน “อ้าว!!! จบกัน...” เนยอุทาน “แล้วงานคุณภาสจะเริ่มวันไหนคะพี่” “วันอาทิตย์นี้แหละ” “งั้นพี่ก็ไปหาน้องจีน่าตั้งแต่เย็นวันศุกร์สิคะ แล้ววันเสาร์ช่วงบ่ายๆ พี่ก็เดินทางกลับ ไม่เห็นจะยากเลย” เนยเสนอทางออกให้กับเจ้านาย “ตอนแรกพี่ก็คิดไว้แบบนั้นแหละ แต่สงสารจีน่าเนี่ยสิ” พริมาขมวดคิ้ว “เนยว่าน้องจีน่าคงเข้าใจแหละค่ะ พี่บอกเหตุผลน้องดีๆ เนยว่าเดี๋ยวน้องจีน่าก็เข้าใจ แกไม่งอแงหรอกค่ะ” เนยให้กำลังใจ “โอเค งั้นถ้าเดี๋ยวเขาโทรมาเอาคำตอบ พี่ค่อยตกลงก็แล้วกัน” พริมาตัดสินใจ สองวันต่อมา พริมามองกองเอกสารทวงหนี้บนโต๊ะทำงาน แววตาเต็มไปด้วยความหนักใจ ยอดตัวเลขดูเหมือนภูเขาที่ยากจะปีนข้าม เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เลื่อนดูรูปจีน่าที่กำลังยิ้มร่าเริง จากนั้นเสียงโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้น หน้าจอแสดงชื่อ ‘คุณภาส’ พริมาสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะกดรับสาย “สวัสดีค่ะคุณภาส” “สวัสดีครับคุณพริมา ผมโทรมาเอาคำตอบครับ” ภาสกรเอ่ยตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างเป็นกันเอง หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง เธอเองลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิท เพราะสองวันที่ผ่านมามีออเดอร์สินค้าเข้ารัว ๆ ทำให้พริมาแทบไม่มีเวลาตัดสินใจ แต่กระนั้นคุณแม่สายสตรองก็ยังคงมีเรื่องกลุ้มใจหนักอกด้วยหนี้ก้อนโตที่สามีของเธอทิ้งเอาไว้ก่อนเสียชีวิต ฉับพลันสายตาของหญิงสาวก็เหลือบมองไปยังรูปถ่ายใบเล็ก ๆ รอยยิ้มสดใสไร้เดียงสาของจีน่า ใต้กระจกบนโต๊ะทำงานนั้น ช่างตัดกับความเป็นจริงที่แสนโหดร้าย..พริมารู้ดีว่าข้อเสนอของภาสกรนั้นมีเงื่อนไขแอบแฝงอยู่... ปลายสาย สังเกตได้ถึงความเงียบไปนานอย่างผิดปกติ จึงรีบเอ่ยถาม “ทำไมถึงเงียบไปละครับ คุณพริมา?” เสียงทุ้มเอ่ยถามดึงสติของหญิงสาวให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน “อ๋อ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเสียงติดขัดเล็กน้อย ก่อนจะพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ “ผมไม่ได้กดดันคุณใช่มั้ยครับ? ถ้าคุณไม่สะดวกจริงๆ ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมแค่... อยากช่วยเหลือคุณจริง ๆ” “อ๋อ ๆ ไม่หรอกค่ะ พอดีฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อยค่ะ” พริมารีบปฏิเสธ ทั้งที่ในใจยังรู้สึกกังวลกับความช่วยเหลือที่แอบแฝงของเขา หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ อีกครั้ง เธอรู้ดีว่ากำลังก้าวเข้าไปในวังวนอะไร แต่ความจำเป็นและความปรารถนาที่อยากเห็นลูกมีความสุขมันมีมากกว่า จึงเอ่ยตอบเขาไป “ตกลงค่ะ...คุณภาส ฉันจะรับงานเปิดตัวโครงการบ้านของคุณ” ปลายสายดีใจอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงบ่งบอกถึงความพอใจ “เยี่ยมไปเลยครับคุณพริมา! ผมดีใจมากเลยครับ ที่ได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ อย่างคุณ งั้นเดี๋ยวผมจะส่งรายละเอียดไปให้ทางไลน์นะครับ แล้ว... เรื่องที่ผมจะอาสาไปส่งคุณที่ต่างจังหวัดในวันศุกร์นี้... บ่ายโมงผมจะไปรับคุณที่หอพักเลยนะครับ คุณสะดวกไหมครับ?” “อ๋อคุณภาส!!!...ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ฉันไปเองได้” พริมารีบตอบปฏิเสธด้วยความเกรงใจปนอึดอัด “อ่าว!!..ก็เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ... อย่าเกรงใจผมเลยครับ ผมรู้ว่าคุณก็เป็นห่วงความรู้สึกของน้องจีน่า” ภาสกรพูดน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น แต่ยังคงนุ่มนวล พริมาอึกอักกับคำพูดของภาสกรที่จี้ใจดำของเธอ ความรู้สึกผิดเรื่องงานวันพ่อทำให้เธอแทบไม่มีข้อโต้แย้ง พริมาเสียงเบาลงก่อนจะตอบสายกลับไป “อ๋อ!!!... อื้ม... ฉันว่า...จะไม่ให้จีน่าไปร่วมงานนี้แล้วค่ะ...” ภาสกรรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “อย่าใจร้ายกับน้องจีน่าสิครับ คุณพริมา!... เด็กๆ วัยนี้เค้าก็อยากมีคุณพ่อไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ทั้งนั้นแหละครับ คุณไม่สงสารน้องจีน่ารึไง ให้ผมไปเป็นคุณพ่อให้น้องจีน่าสักวันนะครับ ผมเต็มใจ จริง ๆ นะครับ...นะครับคุณพริมา!” น้ำเสียงขอร้องแกมบังคับของภาสกรทำให้หญิงสาวรู้สึกสับสนไปหมด เขาเน้นย้ำและแสดงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงกึ่งห่วงใยกึ่งตัดพ้อเล็กน้อยทำให้พริมารู้สึกผิด ภาสกรรุกจีบพริมาอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงแสดงความห่วงใยบุตรสาวของเธอ ซึ่งลูกเป็นจุดอ่อนไหวที่สุดของพริมาก และภาสกรณ์ก็รู้จุดอ่อนของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้เป็นอย่างดี ถึงแม้พริมารู้ดีว่าภาสกรกำลังใช้สถานการณ์นี้เป็นเครื่องมือในการเข้าหาเธอ แต่ความกลัวที่ลูกสาวจะต้องรู้สึกน้อยหน้าเพื่อน ๆ หรือถูกเพื่อนล้อที่ไม่มีพ่อไปร่วมงาน ทำให้เธอตัดสินใจอย่างยากลำบากอีกครั้ง พริมาเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะยอมจำนนต่อสถานการณ์ ... “ค่ะ...เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ..คุณภาส” “ไม่เป็นไรครับคุณพริมา...ผมเต็มใจ! งั้นตกลงตามนี้นะครับ แล้วเจอกันบ่ายวันศุกร์ครับ” พริมาวางสายลงโดยไม่ได้โต้แย้งอะไรอีก เธอมองโทรศัพท์ในมือด้วยสีหน้าหนักใจยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะรู้สึกถึงเจตนาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความช่วยเหลือของภาสกร แต่ในวินาทีนั้น ความต้องการที่จะเห็นลูกสาวมีความสุขในงานวันพ่อ ก็เอาชนะความรู้สึกสับสนในใจทั้งหมดของผู้เป็นแม่จนได้ พริมากำลังจะพาตัวเองและลูกเข้าไปพัวพันกับผู้ชายคนนี้อย่างเต็มตัว โดยไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งที่สำคัญเขาไม่ใช่คนโสดเหมือนอย่างคนอื่น ๆ ที่เธอเคยคบมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม