กลีบดอกไม้...ต้องสายลม

2048 คำ
ตอนที่ 5 ภาสกรนั่งเงียบๆ อยู่บนแคร่ไม้ใต้แสงจันทร์สลัวบนเรือนชานที่ยื่นออกไป แสงสีขาวนวลทาบทอทั่วร่างสูงของเขาเป็นเงารางๆ นิ้วแกร่งเลื่อนไถหน้าจอมือถืออย่างไม่ใส่ใจนัก ราวกับความคิดล่องลอยไปไกลกว่านั้น หลังจากที่น้องจีน่าหลับสนิทสู่ห้วงนิทราไปแล้ว พริมาก็ตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบ ในมือมีผ้าห่มผืนหนาพับไว้อย่างเรียบร้อย เธอเดินตรงไปยังชานนอกบ้านที่ภาสกรนั่งอยู่ “คุณภาส นี่ผ้าห่มค่ะ ฉันเอามาเพิ่มให้ ดึกๆ มันจะหนาว” พริมาเอ่ยเสียงเรียบ พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นไหว มือเรียวบางยื่นผ้าห่มให้เขาโดยไม่สบตา “ไม่เอามุ้งแน่นะคุณ ถ้ายุงหาม อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ!” เธอเสริมด้วยน้ำเสียงที่แฝงความประชดประชันเล็กน้อย ภาสกรเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ รอยยิ้มบางๆ แต้มบนใบหน้าหล่อเหลา “ครับ ผมอยู่ได้ สบายมากครับ” แววตาคมๆ ของเขากลับจ้องมองเรือนร่างของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ราวกับกำลังสำรวจทุกรายละเอียด แล้วในฉับพลัน เขาก็เอื้อมมือรั้งมือเรียวบางของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว พริมาเสียหลักเล็กน้อย ตามแรงดึงของเขาลงไปนั่งบนตักอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่วงแขนแกร่งจะโอบกระชับรอบเอวบางของเธอไว้แน่น “คุณ!!!...” พริมาอุทานเสียงแผ่ว พยายามจะลุกขึ้น แต่ภาสกรกลับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “อยู่นิ่งๆ ก่อนสิครับ... ผมแค่อยากอยู่ใกล้ๆ คุณ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างใบหู ราวกับต้องมนต์สะกด พริมาตัวแข็งทื่ออยู่บนตักของภาสกร หัวใจเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมานอกอก กลิ่นกายเฉพาะตัวของเขาอบอวลอยู่รอบกายเธอ สัมผัสจากวงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวทำให้เธอรู้สึกวูบไหวอย่างที่ไม่ควรจะเป็น “คุณภาส ปล่อยฉันเถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็น” พริมาพยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง แต่กลับสั่นเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุมได้ “ไม่ปล่อยครับ คุณต้องให้ผมชื่นใจก่อน” ภาสกรเว้นคำพูด ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ ราวกับต้องการย้ำเตือนถึงความปรารถนา ใบหน้าของพริมาร้อนผ่าว เธอหลบสายตาของเขาอย่างรวดเร็ว “อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ เราเพิ่งรู้จักกันเอง” “เราก็รู้จักกันมาสักพักแล้วนี่ครับ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย?” ภาสกรกระซิบเสียงพร่า เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนของเขาสัมผัสแก้มเนียนของเธอ พริมาเม้มปากแน่น พยายามรักษาระยะห่าง “แต่คุณมีภรรยาแล้วนะคะ ฉันไม่อยากยุ่ง กลัวจะมีปัญหา” “ไม่ต้องกังวลครับ ภรรยาของผมเค้าไม่ยุ่งเรื่องของผมหรอก” ภาสกรไม่ยอมลดละ เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสนุ่มนวลนั้นกลับทำให้ร่างกายของเธออ่อนระทวยอย่างน่าประหลาด “อย่าค่ะ...” พริมาพยายามห้ามเสียงสั่น แต่สายตาของเธอกลับจ้องมองริมฝีปากหยักของเขาอย่างห้ามไม่อยู่ บรรยากาศรอบกายเงียบสงัด มีเพียงเสียงจิ้งหรีดที่ร้องระงม แสงจันทร์สาดส่องลงมาเป็นประกายสีเงิน ราวกับเป็นใจให้ความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของทั้งสองค่อยๆ ปรากฏชัดเจนขึ้น ภาสกรโน้มใบหน้าลงมาใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งลมหายใจของพวกเขาแทบจะหลอมรวมกัน พริมาหลับตาลงอย่างห้ามไม่อยู่ เตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับสัมผัสที่เธอทั้งหวาดหวั่นและปรารถนาในเวลาเดียวกัน... ริมฝีปากหยักของภาสกรแตะลงบนริมฝีปากอิ่มของพริมาอย่างแผ่วเบา สัมผัสแรกนั้นนุ่มนวล ราวกับกลีบดอกไม้ต้องสายลม แต่ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยแรงปรารถนาที่เก็บกักมานาน พริมาสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ได้ผลักไส ในความมืดสลัวใต้แสงจันทร์ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มเลือนรางลง เหลือเพียงแต่ความวูบไหวที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง ภาสกรค่อยๆ เพิ่มแรงกดจูบ ริมฝีปากของเขาเริ่มรุกล้ำอย่างอ่อนโยน พริมาเผลอไผลคลายริมฝีปากออกเล็กน้อย เปิดโอกาสให้เขาแทรกปลายลิ้นอุ่นชื้นเข้ามาสำรวจภายในโพรงปากหวาน รสจูบนั้นหวานล้ำและลุ่มลึก จนพริมาแทบจะลืมหายใจ มือเรียวค่อยๆ ยกขึ้นคล้องรอบคอของภาสกรอย่างไม่รู้ตัว ตอบสนองต่อรสจูบที่โหยหามานาน อ้อมกอดของภาสกรกระชับแน่นขึ้น ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย ราวกับไฟที่กำลังลุกลามเสียงจูบดูดดื่มดังแผ่วเบา ท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน แสงจันทร์ส่องสว่างเป็นพยานให้กับความปรารถนาที่ทั้งคู่ต่างโหยหา มือแกร่งของภาสกรลูบไล้แผ่นหลังเนียนของพริมาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนต่ำลงไปสัมผัสส่วนโค้งเว้าที่ทำให้เขาแทบคลั่ง พริมาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไปอย่างไม่อาจควบคุมได้ เธอซบหน้าลงกับไหล่กว้างของเขา ปล่อยเสียงครางแผ่วเบาออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ บรรยากาศรอบกายอบอวลไปด้วยไอแห่งความปรารถนา จันทราบนฟ้าสูงส่องแสงนวล ละเลยต่อความเร่าร้อนที่กำลังก่อตัวขึ้นบนชานบ้านหลังเล็กแห่งนี้... ลมหายใจของทั้งสองหอบกระชั้น ริมฝีปากยังคงแนบชิด สัมผัสเร่าร้อนและลุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ มือของภาสกรลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบั้นเอวของพริมาอย่างชำนาญ ปลุกเร้าความรู้สึกให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พริมาเองก็ตอบสนองต่อสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ มือเรียวเลื่อนลงมาสัมผัสแผ่นอกกว้างของเขา สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อภายใต้เสื้อยืดบางเบา ในที่สุด ภาสกรก็ผละริมฝีปากออกเล็กน้อย ดวงตาคมกล้าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวานเยิ้มของพริมา แววตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะหักห้าม โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ อีก ภาสกรค่อยๆ ช้อนร่างบางของพริมาขึ้นมาทาบทับบนร่างหนา หญิงสาวซบหน้าลงกับอกกว้างของเขา ปล่อยให้เขาพาไปยังทิศทางที่หัวใจทั้งสองปรารถนา แสงจันทร์สาดส่อง ทำให้เห็นเงารางๆ ของทั้งสองร่างที่แนบชิดกันบนแคร่ไม้ ก่อนที่กายหนาจะพลิกมาทาบทับร่างของเธอลงไป ริมฝีปากของเขายังคงมอบจูบที่เร่าร้อนและโหยหาให้กับเธออย่างต่อเนื่อง มือก็ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอย่างทะนุถนอม เสื้อผ้าชุดค่อยๆ ถูกปลดเปลื้องออกอย่างช้า ๆ เหลือเพียงผิวเนื้อที่สัมผัสกันโดยตรง ความร้อนจากกายของทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เสียงครางกระเส่าดังแผ่วเบาในความมืดมิด สัมผัสที่ลึกซึ้งและแนบแน่นขึ้นเรื่อยๆ นำพาไปสู่ห้วงแห่งความสุขสมที่ทั้งคู่โหยหามานาน จนกระทั่งในที่สุด ทุกอย่างก็เงียบลง เหลือเพียงเสียงหอบหายใจถี่รัว และอ้อมกอดที่กระชับแน่น ความเหนื่อยอ่อนและความสุขสมคลอเคลียอยู่รอบกายของทั้งสอง... ประตูบานไม้ค่อยๆ แง้มออก เผยช่องว่างให้ร่างบางได้เล็ดลอดเข้าไปอย่างแผ่วเบาไร้เสียง ชั่วอึดใจก่อนที่จะรีบปิดลงกลอนอย่างเงียบเชียบ ราวกับต้องการผนึกตัวเองไว้ภายใน ตัดขาดจากโลกภายนอก แสงจันทร์นวลสาดส่องเข้ามาในห้องไม่ได้บดบังสายตาที่อ่อนโยน เมื่อหญิงสาวทอดมองไปยังร่างเล็กๆ ที่นอนหลับใหลอย่างสนิท ภาพของลูกน้อยในห้วงนิทรานั้นช่างสงบเงียบ พริมาพยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปจากความคิด ราวกับมันเป็นเพียงฝันร้ายที่เธอปรารถนาจะลืมเลือน ร่างบางทิ้งกายเบาหวิวลงข้างลูกน้อย สัมผัสไออุ่นจากร่างเล็กๆ นั้นช่วยปลอบประโลมความรู้สึกผิดในใจเมื่อครู่ เวลาผ่านไปนานดวงตาคู่สวยก็ยังคงเบิกโพลง ทอดมองไปยังม่านมุ้งสีขาวบางๆ ความเงียบงันที่ปกคลุมอยู่ภายในกลับก้องกังวานด้วยเสียงแห่งความสับสนในความคิดของเธอ พริมาพลิกตัวตะแคงข้าง ก่อนจะช้อนตามองใบหน้าของลูกน้อยที่หลับพริ้มอย่างไม่รู้เรื่องราว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความละอายใจ และความสับสนว้าวุ่นยังคงวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึง ไม่ยอมจางหายไปง่าย ๆ ...เธอหวังเพียงว่าแสงอรุณในวันพรุ่งนี้ จะนำพาความกระจ่างและความสงบมาสู่จิตใจที่กำลังสับสนนี้ให้จางคลาย ดวงตาของพริมาทอดมองภาพนั้นด้วยความรัก ความโล่งใจที่ลูกน้อยหลับสบาย พริมาสูดลมหายใจลึกๆ ราวกับต้องการซึมซับภาพลูกน้อยตรงหน้าไว้ในทุกอณูของหัวใจ รัตติกาลในชนบทสงบเงียบ ราตรีถูกขับกล่อมด้วยเสียงจิ้งหรีดแว่วหวาน พริมานอนลืมตา จิตใจยังคงว้าวุ่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น สักพักโทรศัพท์ข้างกายของเธอก็สั่นขึ้นเล็กน้อยพอรู้สึกได้ ก่อนจะตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาดูแล้วเห็นเป็นภาสกรเองที่ส่งสติกเกอร์ฝันดีมาให้..ก่อนที่หญิงสาวจะโต้ตอบกลับไป ไม่นานนักมือเรียวบางก็ปลดกลอนประตูออกอย่างแผ่วเบา พร้อมกับเงาของร่างสูงที่เคลื่อนไหวในความมืดมิด ภาสกรตามเธอเข้ามาในห้อง ก่อนที่หญิงสาวจะแย้มชายมุ้งออก เพื่อให้เขาสอดกายเข้าไป ก่อนที่ร่างบางจะตามเข้ามาแนบชิดข้างกายหนา หญิงสาวสะดุ้งน้อยๆ ที่ถูกกอดรัด แต่จำต้องนิ่งเงียบ เพราะกลัวลูกน้อยจะตื่น “ขอบคุณนะครับ...ข้างนอกยุงเยอะจริง ๆ” เสียงกระซิบแผ่วเบาร้อนระอุข้าง ๆ ใบหูของพริมา ปลุกเร้าความรู้สึกที่หญิงสาวพยายามเก็บกดเอาไว้ ก่อนริมฝีปากอิ่มจะเผลอหลุดปากเอ่ยออกไป “ก็ฉันจะกางมุ้งให้คุณ คุณก็ไม่เอา..แล้วเป็นไงล่ะ” เธอตอบกลับด้วยกระซิบแผ่วเบาเช่นกัน ทว่าในน้ำเสียงนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคืองระคนหวั่นไหว “ผมขอโทษ..ที่ไม่เชื่อฟังคุณตั้งแต่แรก...” สิ้นเสียงออดอ้อน มือแกร่งที่วางทาบทามบนต้นแขนเปลือยเปล่าของเธอก็ค่อยๆ ลูบไล้ขึ้นลงอย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นราวกับเปลวไฟลามเลีย ผิวเนื้อเธอร้อนวูบวาบ พริมาพยายามขยับหนี แต่เขากลับรุกคืบเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังเธอแนบสนิทกับอกกว้าง “อย่าค่ะ คุณภาส!!! ฉันจะไม่ใจอ่อนแบบเมื่อกี้นี้อีกแล้วนะ...คุณหยุดเลย!!!” เธอเตือนเสียงสั่น แม้ความตั้งใจจะหนักแน่น แต่ร่างกายกลับทรยศ “อย่าดิ้นสิครับ อยากให้ลูกคุณตื่นหรือไง” ภาสกรกระซิบเตือนกลับ น้ำเสียงทุ้มนุ่มนั้นกลับแฝงไปด้วยอำนาจที่ทำให้เธอชะงัก ริมฝีปากร้อนผ่าวเริ่มไซร้ซอกคอระหง สูดดมกลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของเธออย่างยั่วยวน พริมาพยายามห้ามปรามด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน “คุณภาส!!!!... อย่าค่ะ... จีน่าหลับอยู่...” “โถ่วว...ที่รัก!!! น้องจีน่าหลับสนิทไปแล้ว...อย่าดื้อกับผมเลยนะ...เดี๋ยวกลับไป ผมสัญญาว่า..จะหาบ้านให้คุณอยู่ ไม่ให้คุณลำบากเลย นะครับที่รัก ให้ผมชื่นใจอีกครั้งนะ..” คำพูดหวานหูราวกับน้ำผึ้งเคลือบยาพิษ สอดคล้องกับสัมผัสที่เร้าร้อนจนแทบจะแผดเผา ในความเงียบงันยามค่ำคืน ความเหงาที่กัดกินหัวใจ ความสับสนในความรู้สึก และแรงปรารถนาที่ถูกปลุกเร้า ค่อยๆ คลายความแข็งกระด้างในตัวพริมาทีละน้อย เธอต่อต้านเขาได้ไม่นาน... สุดท้าย ภายใต้มุ้งแคบๆ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกายของทั้งสอง บวกกับความมืดมิดที่ปกคลุมทุกสิ่ง พริมาก็ยอมจำนน ปล่อยให้ภาสกรมอบจุมพิตเร่าร้อนและสัมผัสลึกซึ้งให้เธออีกครั้ง ริมฝีปากของเขาบดเบียดกับเธออย่างหนักหน่วง มือแกร่งลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบั้นเอวอย่างชำนาญ ราวกับโลกทั้งใบในเวลานี้เหลือเพียงแค่เธอกับเขา... และความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างไม่อาจต้านทาน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม