เป้ยฉีตื่นแต่ยามเหม่า นางรีบล้างหน้าผัดแป้งแต้มชาดอย่างงดงาม ผมเผ้าเคยปล่อยรุงรังกว่าจะตื่นก็ยามซื่อ วันนี้นางกลับรวบผมครึ่งศีรษะอย่างเรียบร้อย
หย่งเทียนบอกว่าต้องรีบไปทำงานที่เมืองเถี่ยนชิง ใช้เวลาเดินทางราวสองชั่วยาม ซุ่นหลงมอบหมายงานในโรงย้อมให้น้องชายช่วยดูแล
เป้ยฉีตักน้ำให้สามีล้างหน้า เตรียมน้ำชากับของว่างหนัก ๆ ไว้ให้รองท้องเขาจะได้ไม่หิวโหยยามเดินทาง นางสั่งให้แม่ครัวประจำเรือนทำขนมต้านกาวกับซาลาเปาไส้เนื้อของโปรดสามีห่อให้สำหรับเดินทางด้วย
"ขอบใจมากเมียรัก ข้ารักเจ้าเหลือเกิน" มือหนาบีบคลึงสะโพกภรรยา หย่งเทียนก้มลงจุมพิตเมียสาวอย่างดูดดื่ม ตั้งแต่นางมาอยู่ที่จวนสกุลซุ่น นางปฏิวัติตัวเสียใหม่ รู้จักตื่นเช้าทำตัวเป็นสตรีที่ดีพร้อม
"เอาขนมกับซาลาเปาไปกินระหว่างทางด้วยเจ้าค่ะ" นางยื่นห่อผ้าให้
"อีกหลายวันกว่าข้าจะกลับ คงคิดถึงเจ้าแย่" หย่งเทียนกวาดสายตามองนางอย่างกระหายใคร่ เมื่อคืนเขากับนางก็ร่วมรักกันไปหลายรอบเพื่อสั่งลา
"เมืองเถี่ยนชิงอยู่ไม่ไกล จะกลับยามไหนก็แล้วแต่ท่านพี่สะดวก"
หย่งเทียนอมยิ้ม นางเรียกเขาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน เขาไม่ได้ยินคำว่าท่านพี่นานมากแล้ว ส่วนใหญ่นางมักแทนสรรพนามตัวเขาเพียงคำว่าเจ้า
"ข้าจะรีบกลับมา เจ้าอยู่กับพี่ใหญ่ก็อย่าเกียจคร้าน ช่วยงานเขาให้คุ้มค่าแรงด้วยเล่า" หย่งเทียนสั่งเสียภรรยา
"ข้าจะช่วยงานเขาสุดฝีมือเลยทีเดียว"
"เจ้าไม่เก่งงานคัดอักษร"
"ทุกสิ่งฝึกฝนกันได้เจ้าค่ะ ข้าจะตั้งใจทำงาน"
ซุ่นหลงฝึกยุทธเสร็จยามเช้าตรู่ เห็นเป้ยฉีกับหย่งเทียนยืนร่ำลากันอยู่หน้าเรือนรับรอง เขาเดินมาสมทบ สายตาตวัดมองเรือนร่างอวบอิ่มของน้องสะใภ้ อาภรณ์สีเขียวอ่อนพลิ้วลู่แนบเรือนกายทำเขาไม่อาจละสายตา สะโพกผายเย้ายวนใจหากมองจากด้านหลังนับว่านางสรีระเต็มตึงยิ่งนัก ส่วนโค้งเว้าอ่อนช้อยยั่วกามเป็นที่สุด
นางหันมาสบตาพี่สามี รู้สึกถูกจ้องมองจากทางด้านหลัง ซุ่นหลงรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที เขาไม่อยากให้นางรู้ว่าเขามองอยู่
"คารวะพี่ใหญ่" หย่งเทียนรีบเดินไปหาซุ่นหลง
"กำลังจะออกเดินทางรึ"
"เมียข้าทำอาหารมาส่ง พวกเราร่ำลากันเล็กน้อย ข้าจะรีบไป"
"เดินทางปลอดภัย ดูแลกิจการโรงย้อมให้ดี หมั่นตรวจบัญชีรับจ่าย สั่งของให้ตรงเวลา" ซุ่นหลงกล่าวสำทับ อยากให้น้องชายมีโอกาสได้ทำงานแก้มือ
หากกิจการโรงย้อมไปได้สวย พี่ชายคิดไว้ว่าจะยกให้น้องชายเสียเลย ลำพังทรัพย์สินที่มีอยู่ของตระกูลซุ่น เขาคนเดียวใช้อีกห้าชาติก็ไม่หมด
"ฝากเป้ยฉีด้วยนะขอรับ ว่ากล่าวตักเตือนนางได้ตามที่พี่ใหญ่เห็นสมควร" หย่งเทียนฝากฝังเมียสาวไว้กับพี่ชาย
รถม้าเคลื่อนออกไปจากจวนสกุลซุ่น หย่งเทียนเปิดม่านมองเมียรักจนลับสายตา เขาถอนหายใจออกมาแรง ๆ นางคงคิดถึงเขามาก โดยเฉพาะรสกามราคะที่คอยปรนเปรอนางอย่างถึงใจทุกค่ำคืน
"ข้าขอตัวไปทำอาหารต่อเจ้าค่ะ" เป้ยฉีนึกขึ้นได้ว่าสั่งสาวใช้ตุ๋นโสมเอาไว้
"วันนี้มีอะไรกินบ้าง"
"ข้าตุ๋นโสมไว้ให้ท่านพี่เจ้าค่ะ" นางรู้สึกร้อนรุ่มเมื่อเรียกซุ่นหลงว่าท่านพี่ เป้ยฉีลอบมองร่างกายสูงใหญ่ ใบหน้าคร้ามคมหล่อเหลา มีกลิ่นอายถือตัวอย่างพวกคหบดี นางอยากขยี้เขาให้หายอยาก ท่าทางยโสอวดดีเช่นนั้นน่าปราบให้ราบคาบคาเตียง
"ขอบใจมาก นำไปให้ข้าในห้องอักษร ข้าจะสอนงานเจ้าด้วย" ซุ่นหลงอยากกัดลิ้นตนเอง เขาควรปฏิเสธนาง แต่ปากพล่อยเอ่ยออกมาตรงข้ามกับความคิด เท่ากับเปิดโอกาสให้สตรีร้อนร่านอยู่ตามลำพังกับตนเอง
"เจ้าค่ะ" เป้ยฉีหลบเลี่ยงปะทะสายตา นางไม่กล้ามองเขาตรง ๆ รัศมีผู้นำอย่างถือตนของซุ่นหลงทำให้คนอยู่ใกล้เหมือนถูกสะกดข่ม เขามีบ่าวไพร่ลูกน้องมากมายในหลายกิจการ บุคลิกเขาคงเป็นเช่นนี้เอง
เรือนอักษรแยกย่อยออกมาต่างหาก เป็นเรือนขนาดใหญ่เก็บจดหมายจากต่างเมือง เก็บหนังสือให้ความรู้จากทุกเมืองทั่วแคว้น เป็นหอสมุดชั้นดี ตกแต่งด้วยชั้นวางไม้หลี่สลักลายสิงห์ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยหรูหรา เสียงน้ำตกหินเล็ก ๆ ด้านนอกฟังแล้วชวนให้สงบใจ
ซุ่นหลงนั่งอ่านตำราอยู่ด้านใน ลักษณะกึ่งนั่งกึ่งเอนบนตั่งตัวใหญ่ช่างดูสง่างาม เขาปล่อยผมสยายสบาย ๆ สาบเสื้อหลุดลุ่ยจนเห็นแผงอกกำยำ เป้ยฉีเดินเข้าไปในห้อง วางโสมตุ๋นไว้บนโต๊ะทำงานของเขา
นางยืนก้มหน้า ลอบมองเขาเป็นบางครั้ง ซุ่นหลงยังจดจ่อกับตำราการค้า ทำให้น้องสะใภ้มีโอกาสแอบมองพี่สามีต่อโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ซุ่นหลงปรายตาเห็นนางยืนอยู่นานแล้ว เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็น กำลังเพลิดเพลินกับสายตาชื่นชมที่นางมองมา เขาพอมองออกว่านางกำลังคิดอะไร แต่ต้องบอกตนเองยั้งใจไว้เพราะนางคือน้องสะใภ้ น้องชายเขายิ่งหลงใหลนางขนาดหนัก ดูท่าหย่งเทียนจะรักเป้ยฉีมาก เรื่องกามกิจอาจเป็นเรื่องบาดหมางครั้งใหญ่ระหว่างพี่น้องหากซุ่นหลงล่วงเกินเมียรักของน้องชาย
"เอาถ้วยโสมตุ๋นมาให้ข้า แล้วหยิบจดหมายบนชั้นที่สองลงมาด้วย"
"เจ้าค่ะ" เป้ยฉีนำถ้วยโสมตุ๋นมาให้พร้อมจดหมายอีกห้าฉบับ
"จดหมายพวกนี้มีรูปแบบในการตอบ เจ้าต้องเขียนขึ้นต้น ลงท้ายตามแบบ แล้วประทับตราสิงห์ในจดหมายทุกฉบับบนลายมือที่ข้าลงนาม" ซุ่นหลงสอนเป้ยฉีตอบจดหมายการค้า
นางตั้งใจเขียนอย่างหนัก คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน พยายามคัดอักษร เขียนตอบจดหมายการค้าแต่ละประเภทอย่างตั้งใจ เขาลอบมองใบหน้างามล่มแคว้น ยิ่งเห็นใกล้ ๆ ยิ่งพ่ายแพ้ต่อความงามของน้องสะใภ้ เต้าอวบล้นทะลักปิดไม่มิดใต้สาบเสื้อทำเลือดลมบุรุษปั่นป่วน แก่นกายของซุ่นหลงแข็งชันขึ้นมาทันใด ซุ่นหลงดั่งถูกมนต์สะกด ชายหนุ่มมองนางแบบตาไม่กะพริบ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้าน้องสะใภ้ เขาอยากจูบซับทุกเม็ดเหงื่อพร่างพรายบนใบหน้าหวานล้ำ
พลันนึกถึงภาพตนเองร่วมรักกับนางจนเหงื่อโทรมกาย หยาดเหงื่อบนใบหน้าเป้ยฉีควรเป็นเหงื่อจากการออกแรงร่วมรักกัน ซุ่นหลงดื่มโสมตุ๋น เขามัวแต่มองร่องอกอวบอิ่ม
พรวด! แค่ก แค่ก ในที่สุดคุณชายสกุลซุ่นก็สำลักอย่างหนัก ซุ่นหลงมัวแต่มองเป้ยฉีทั้งเรือนกาย น้ำแกงหกจากถ้วยรวมถึงจากปากเขารดไปบนอาภรณ์สีเขียวบางเบาของนาง ผ้าบางแนบเนื้อจนเห็นทุกสัดส่วน สองเต้าล้นทะลักถูกน้ำยิ่งบางใสจนเห็นหัวนมสีชมพูยวนใจ
นางไม่ได้สวมเอี๊ยม
น้ำแกงส่วนหนึ่งหกรดลงบนตักเขา เปียกเปื้อนกางเกงแพรจนเห็นท่อนลำขนาดใหญ่ดุนนูนเด่นเป็นรูปรอยอย่างชัดเจน
"ท่านพี่เป็นอย่างไรบ้าง" นางรีบลูบหลังให้ซุ่นหลงเมื่อเห็นเขาสำลักอย่างหนัก มือเรียวเช็ดผ้าสะอาดไปบนหน้าตักพี่สามี
เป้ยฉีถึงกับชะงักเมื่อเห็นเอ็นเนื้อขนาดใหญ่กำลังพองตัวเหยียดขยายเต็มที่ ส่วนซุ่นหลงก็จ้องมองเป้ยฉีอาภรณ์เปียกลู่แนบเนื้อ ทั้งสองต่างเกิดอารมณ์เพศขึ้นมากะทันหันอย่างห้ามไม่อยู่