สองสตรีเดินเลาะไปตามชายป่าเก็บฟืนไว้ที่ด้านหลังแค่พอแบกกลับไหว ด้วยเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยของนางจึงคิดหาเถาวัลย์มามัดกับฟืนแล้วก็สอดไม้ไผ่ที่ตัดให้มีความยาวถอดที่กองท่อนฟืนที่มัดไว้แล้วช่วยกันหาม ยามนี้ตะวันเริ่มฉายแสงมาแล้วแสงสีทองบนท้องนภาบอกเวลาว่าเมื่อเริ่มสายพวกนางจะเริ่มร้อนและเหนื่อยมากขึ้น “เพียงเท่านี้ก่อนเถิดจื่อฝู ข้าเองก็เริ่มหิวแล้ว” อย่างไรวันนี้นางก็ได้หาฟืนมาแล้วหวังว่าคนสั่งการผู้นั้นคงพอใจ “เจ้าค่ะนายหญิง” จื่อฝูเองก็เหนื่อยและหิวแล้วเช่นกัน จึงพากันเดินเลาะลงมาตามทางในดงป่าไผ่ ที่มีทางเดินสะดวกน่าจะเป็นทางที่ชาวบ้านเดินหาของป่ากัน “ชีวิตข้านี่ช่างพลิกผันเสียจริงเจ้าว่าหรือไม่จื่อฝู” นางชวนสาวใช้คุยไปเพื่อคลายเหนื่อย “อดทนนะเจ้าคะนายหญิง สักวันเราต้องออกจากจวนโหวให้ได้” “เจ้าคิดเช่นนั้นหรือจื่อฝู” “เจ้าค่ะ” รอยยิ้มแย้มออกจากริมฝีปากที่เริ่มแห้งเนื่องจากขาดน้ำขอ