บทที่ 4 ปากร้ายใจเป็นห่วง 1/2

1128 คำ
หลัวอวิ๋นหยางยืนเอามือไพล่หลังอยู่ในห้องหนังสือ ใบหน้าหล่อเหลาตีสีหน้าเรียบตึงอย่างไม่พอใจ เขาหงุดหงิด แต่ไม่รู้ว่าหงุดหงิดสิ่งใด ทั้งที่คิดไว้แล้วจะไม่ปรานีนาง แต่เมื่อทำให้นางลำบากกายและเจ็บปวด กลับรู้สึกไม่พอใจ เมื่อหลังจากออกจากห้องหอ เขายืนมองนางที่เดินด้วยความอ่อนล้าแล้วก็กัดฟัน ต่อให้เขาจิตใจหยาบกระด้างแต่ก็ไม่เคยทำร้ายสตรีมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจึงรู้สึกผิดบาปอยู่ในใจ แต่ปากกลับมิปริออกหรือให้ผู้ใดเข้าไปช่วยเหลือนาง เพียงแต่สั่งให้แม่นมนำยาห้ามครรภ์ไปให้เพียงเท่านั้น ใบหน้ามืดครึ้มคิดถึงยามเสียงหวานของนางครวญครางบนเตียง มันวนเวียนในหัวคล้ายกับเคยได้ยินมาก่อน เสียงของนาง... กลิ่นกายของนาง... เหตุใดเหมือนเคยได้สัมผัสมาก่อนแต่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใด และเมื่อไหร่กันแน่ ทั้งที่พยายามนึกจนปวดหัว แต่เมื่อมีคนเข้ามาในห้อง เขาก็หยุดความคิดนั้นเสียแล้วหันไปตามเสียงคนเดินมา “คารวะท่านโหว” แม่นมจี้ฉงจัดการตามที่ท่านโหวสั่งเรียบร้อยแล้วจึงคิดมารายงานให้ทราบ “แม่นมเป็นอย่างไรบ้าง” “จัดการส่งฮูหยินไปที่เรือนด้านหลังแล้วเจ้าค่ะ” “ลำบากแม่นมแล้ว” หลัวอวิ๋นหยางกล่าวอย่างอ่อนล้า เขาเคร่งเครียดหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องแก้แค้นกับนาง “ท่านโหวเหนื่อยแล้วควรพักผ่อนให้มาก” นางจี้ฉงเห็นสีหน้าที่แบกรับหลายสิ่งไว้บนบ่าก็เข้าใจ แต่ว่าควรจะรักษาสุขภาพตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน “ข้าเพียงแต่กรำศึกมานาน” “เช่นนั้นบ่าวจะให้คนจัดยาบำรุงทั้งอาหารให้ท่านโหวเจ้าค่ะ รีบไปพักเถิด” แม่นมที่ชราวัยผ่านร้อนหนาวมามากเห็นบุรุษสตรีในวัยหนุ่มสาวรักใคร่เข้าหอก็เข้าใจดี แต่ที่ติดใจเหตุใดท่านโหวถึงทำกับฮูหยินเช่นนั้น ทั้งที่เป็นฮูหยินพระราชทาน แล้วฐานะเดิมนั้นสูงศักดิ์เป็นถึงองค์หญิง หากไม่แต่งเข้าจวนหลัว คงได้เป็นถึงพระสนมในฝ่าบาท แต่ท่านโหวทำเหมือนฮูหยินเป็นนางบำเรออุ่นเตียงที่ไม่ต่างจากสาวใช้ที่เหล่าคุณชายชั้นสูงเรียกใช้งานก่อนแต่งฮูหยินก็เท่านั้น “เช่นนั้นแม่นมก็ไปพักเถิดลำบากมานานแล้ว” หลัวอวิ๋นหยางกล่าวกับแม่นม ก่อนจะนั่งที่เก้าอี้คิดทบทวนเรื่องที่ค้างคาใจ แต่ไม่ทันได้คิดสักหนึ่งเค่อ เสียงโหวกโหวกโวยวายของสองบุรุษที่อยู่ข้างกายมาตลอดก็กอดคอกันเข้ามา กลิ่นสุราหึ่งมาตั้งแต่หน้าประตูทำให้คนที่ไม่ดื่มเหล้าเป็นอาจิน อย่างอวิ๋นหยางโบกมือไปมาไล่ความฉุนออกจากจมูก “คารวะท่านโหว...ข้าน้อยเสี่ยวหมิ่ง ส่วนนี่สหายร่วมดื่มของข้าโหยงเยี่ยน รายงานขอรับท่านโหว” คนเมาเปล่งเสียงด้วยอาการลิ้นเปลี้ย รายงานเหมือนกำลังอยู่ในกองทัพก็ไม่ปาน ทำเอาคนที่เป็นนายนั้นเอือมระอา “ข้านึกว่าจะหอบผ้าไปสถิตอยู่หอเริงรมย์ จะได้เร่งให้คนเก็บของให้” เมื่อไหร่ที่กลับเมืองหลวงก็สิ้นลายกุนซือ ชาญอันฉลาด ฝีปากกล้าในกองทัพเสียแล้ว ยามนี้ต่างอันใดจากคนเร่ร่อนขี้เมาตามท้องถนนกัน แถมยังลากเจ้าเสี่ยว หมิงไปเสียผู้เสียคนอีกด้วย “ท่านโหว...ท่านมิรู้สิ่งใด ยามได้ดื่มสุราเคล้านารีมันช่างสร้างความสุนทรีย์ไม่น้อย วันนี้เสี่ยวหมิงได้รับรู้รสชาติแห่งความหวานล้ำของสตรีแล้ว ท่านดูใบหน้าเปี่ยมสุขนี่สิ...ส่วนท่านทำเหมือนไม่ได้เข้าหอ นอกจากหน้าตาไม่สดใสแล้วยังเหมือนโกรธใครมา” โหยงเยี่ยนกล่าวออกมาพร้อมกับเสียงกลั้วหัวเราะถากถางคนที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานาน “หะ...หรือ...หรือว่า...ท่านโหวนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ...!” เสี่ยวหมิงเพิ่งเข้าใจว่านกกระจอกไม่ทันกินน้ำเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยเข้าหอเริงรมย์ ติดตามท่านโหวมานานหลายปี จนวันนี้เมื่อท่านโหวมีฮูหยิน ท่านกุนซือผู้เจนในตัณหาก็พาเขาไปสัมผัสความสุขแบบใหม่ที่ไม่เคยได้รับ “เจ้า...!” สามหาวนัก! “ท่านโหวไม่เคยได้ฝึกซ้อม...เข้าหอต่างอันใดจากซ้อมรบ หากไม่เคยลงสนามก็พลาดได้” โหยงเยี่ยงถากถางต่อ “ใครว่า ข้าได้กินหลายน้ำต่างหาก” คนที่ไม่ยอมแพ้ลูกน้องกล่าวออกมา จะให้พวกมันดูแคลนได้อย่างไร เสียงของท่านโหว ทำเอาสองบุรุษที่กอดคอกันมาสร่างเมาทันที มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “หลงสตรีนอกด่าน” “ขะ...ข้าไม่ได้หลง...เพียงแต่อยากแก้แค้นให้นางเจ็บต่างหาก” คนที่โดนกล่าวหาร้อนตัวพูดแก้ด้วยเสียงตะกุกตะกัก “แก้แค้นมีตั้งมากมาย เหตุใดถึงเข้าหอเล่าท่านโหว...ไม่สนใจ ส่งไปอยู่เรือนหลัง หรือไม่ให้มีอำนาจ หากเกลียดแล้วอยากใกล้ชิด...ปากท่านตรงกับใจหรือไม่” โหยงเยี่ยนผู้เจนจัดเรื่องกามราคะมองดวงตาไหวระริกอย่างจับผิด “...” “ข้าก็จะย่ำยีนางให้เจ็บอย่างไรเล่า อีกอย่างหนทางนี้เป็นการแก้แค้นได้ดี ตาต่อตาฟันต่อฟัน” “ผู้ใดแนะท่าน?” โหยงเยี่ยนรีบมานั่งใกล้ ๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาถาม แต่คนที่นั่งอยู่ก่อนรีบผลักไสออกไปไกล ๆ เขาไม่อยากได้กลิ่นโสโครกของพวกมันสองคน เดี๋ยวกลิ่นนางที่ติดปลายจมูกของเขาอยู่จะจางเสีย “ฝ่าบาท!” หึ หึ...! “ท่านมิต้องเชื่อทุกอย่างที่ฝ่าบาทบอกก็ได้เหตุใดท่านจึงเชื่อฟังนักเล่าท่านโหว” หรือที่จริงแล้วนิ่งอันโหวก็มีใจให้องค์หญิงต่างแคว้นผู้นั้น “ข้าทำตามรับสั่ง” “จงรักภักดีมาก!” โหยงเยี่ยนกล่าวอย่างระอาใจ ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงคนปากไม่ตรงกลับใจเขาเร่งไปพักสักสองชั่วยาม ก่อนจะตื่นมาทำงานสักหน่อย แน่นอนว่างานของเขาคือเป็นคุณชายเจ้าสำราญ บ้านช่องไม่กลับสิงอยู่จวนนิ่งอันโหว พร้อมสอดส่องความเป็นไปของคนทุกผู้ในจวนนี้ โดยเฉพาะฮูหยินนิ่งอันโหว “ข้าจะไปนอนแล้ว...กินไปหลายน้ำท่านก็พักเถอะ เดินตรวจแถวทหารขาอ่อนเหล่าแม่ทัพนายกองจะหัวเราะเยาะเอา” สาบานว่าเขาเตือนด้วยความหวังดี เพราะท่าทางอ่อนต่อเรื่องบนเตียงเช่นนี้คงต้องบำรุงร่างกายอีกมาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม