ภายในห้องรับรองของสนามแข่ง Survey Circuit หรือที่พวกเขาเรียกกันว่า คลับเฮาส์ลับ ๆ เพราะนอกจากจะเป็นสนามแข่งรถสุดหรู มีพื้นที่ให้เหล่านักบิดได้มาประลองฝีมือกันแล้ว ที่แห่งนี้ก็ยังคงมีห้องรับรองสำหรับพักผ่อนและพักใจ คลับเฮาส์ที่อำนวยความสะดวกให้กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันได้โดยครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเกมให้เล่น ที่นอนนุ่ม ๆ ให้นอน ของอร่อยให้กิน และที่สำคัญคือแอลกอฮอล์ของโปรดไม่ขาดปากสักวัน เอาเป็นว่าครบจบในที่ที่เดียวโดยไม่ต้องแวะที่อื่นให้เสียเวลา
และกลุ่มที่พูดถึงนั้นคือแก๊งโฟร์ก็อดแห่งคณะวิศวะ โฟร์ที่แปลว่าสี่คือจำนวนสมาชิกของคนกลุ่มนี้ และก็อดที่แปลว่าพระเจ้า คำที่สามารถสื่อถึงความหมายของอะไรหลายอย่างพร้อมกัน แน่นอนอย่างแรกคือลูกรักพระเจ้า ด้วยฐานะ หน้าตาของคนกลุ่มนี้ที่เกินหน้าเกินตาคนอื่นไปมาก เรียกว่ารวมพลคนโคตรหน้าตาดีและโคตรจะรวยอยู่ที่นี่ พระเจ้าต่อไปคือสมองพระเจ้า แม้จะมีข่าวการขาดเรียนโดดเรียนของคนกลุ่มนี้อยู่บ่อยครั้ง ทว่าเรื่องความฉลาดที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นทำให้ชื่อของพวกเขามักได้รับคำชื่นชมตลอดเวลา
โดยสมาชิกก็อดคนแรกคือ ไคเลอร์ลูกชายนักลงทุนพันล้านมีชื่อเสียงในแวดวงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่มีใครไม่รู้จักครอบครัวเคลวานกรุ๊ปที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอความหน้าตาดีกันทั้งบ้าน ทว่าสิ่งที่พวกเขาต่างกันลิบลับคือนิสัยส่วนตัว ไคเลอร์ขึ้นชื่อเรื่องความกวน เจ้าเล่ห์ และเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง เขาชอบในความเร็ว ได้อยู่กับรถจักรยานยนต์คันใหญ่คู่ใจก็เหมือนได้เป็นตัวของตัวเอง การแต่งตัวที่มีสไตล์ ความหล่อร้ายทำให้เขามีผู้หญิงต่อคิวกันเป็นแถว หัวกระไดไม่เคยแห้งเลยสักวัน
แน่นอนว่าคนพราวเสน่ห์แบบเขาก็ยังเลือกไม่ได้สักที ยังหาคนที่อยากจริงใจด้วยไม่ได้ ตอนนี้เขาจึงทำได้แค่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เปลี่ยนเป็นว่าเล่นเพื่อพยายามตามหาคนที่ใช่ต่อไป
"ไคมึงไม่มาเล่นด้วยกันอะ" เสียงของก็อดคนต่อมาดังขึ้น เขาคือชลธี ลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยเอกชนที่เรียนอยู่ในขณะนี้ หน้าตาออกทางชายไทยแท้ หล่อคมตรงสเปกของสาวส่วนใหญ่
"เออ กูกับไอ้ธีลงคนละพัน" ตามมาด้วยเสียงก็อดที่เป็นผู้ชายในกลุ่มคนสุดท้าย เขาคือเซอร์เวย์ เจ้าของสนามแข่งรถ Survey Circuit แห่งนี้ หลงใหลในความเร็วจนสร้างสนามแข่งเป็นของตัวเอง เนรมิตสิ่งที่ชอบรวมมาอยู่ที่นี่ที่เดียว นิสัยค่อนข้างจะสุขุมมากกว่าคนอื่น ทว่าความเจ้าเสน่ห์ของเขาก็ไม่ได้แพ้คนคนในกลุ่มเลยสักนิดเดียว
"กระจอก ระดับกูต้องหมื่นหนึ่ง" ไคเลอร์เก็บโทรศัพท์ที่กำลังสไลด์เล่นแก้เบื่อ ก่อนจะเดินไปรวมตัวกับเพื่อนอีกสองคนที่กำลังเล่นสนุกเกอร์พ่วงด้วยการพนันเล็ก ๆ อย่างสนุกสนาน
"มึงกะเล่นครั้งเดียวแล้วรวยเลยดิ" เขาไหวไหล่กับคำพูดของเพื่อนสนิท ใช่...สำหรับลูกคนรวยแบบพวกเขา เงินหนึ่งหมื่นบาทมันก็แค่เศษเงินเท่านั้น
"บรรยากาศที่ไร้เสียงบ่นแม่งดีแบบนี้นี่เอง" เซอร์เวย์สูดอากาศเข้าเต็มปอด หลับตาพริ้มลิ้มรสของความสบายใจที่ไม่ได้ประสบพบเจอมาหลายวัน
จนกระทั่ง...
ครืดดด ๆ
เสียงข้อความเตือนเข้าโทรศัพท์มือถือทำให้คนสบายใจตอนแรกรีบลืมตาขึ้นมา
ก่อนที่จะชะงักแล้วโหวกเหวกออกมาเสียงดังเล่นทำเพื่อนอีกสองคนตกใจตื่น
"แม่มา!!"
"เชี่ย!" ชายฉกรรจ์ทั้งสามสบถพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย แล้วรีบวิ่งหาที่หลบคนละทิศคนละทาง เพราะแม่ที่เซอร์เวย์พูดถึงมีเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้วงพวกเขาแตกกระจายได้ขนาดนี้
"ใครไม่ออกมาจากที่ซ่อนกูจะโทรฟ้องพ่อกับแม่มันให้หมด" เสียงทรงพลังของหญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มดังกราว เธอคนนั้นคือเดนิสก็อดสาวสวยเพียงคนเดียวท่ามกลางกลุ่มชายฉกรรจ์สามคน ลูกสาวคนเดียวของมาเฟียตระกูลเดรโก ครอบครัวที่สนิทชิดเชื้อกับเคลวานกรุ๊ปเป็นอย่างดี ทำให้รุ่นลูกอย่างพวกเขาเติบโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่วัยเยาว์ กระทั่งโตขึ้นก็ไม่คิดจะแยกห่างทั้งยังมีเพื่อนสนิทเพิ่มอีกสองยิ่งทำให้ 4GOD รวมตัวกันอย่างสมบูรณ์
"มาแล้วเหรอเพื่อนรัก" คนซ่อนตัวทั้งสามรีบโผล่หน้าออกมาอย่างไม่รีรอ คำขู่ของเธอเล่นเอาหนุ่ม ๆ ไม่กล้าจะเสี่ยง โดยคนยิ้มแห้ง ๆ คนแรกคือเซอร์เวย์ เดินมาหาเพื่อนรักตัวเล็กที่รู้ทันไปเสียทุกอย่าง
"มึงคิดว่ากูรู้ไม่ทันพวกมึงเหรอ กูนี่แหละให้พี่ยามส่งข้อความหามึงเอง ส่วนกู...ก็ยืนดูพวกมึงวิ่งหัวซุกหัวซุนอยู่หน้าห้อง" ประสบการณ์ที่คบคนหนึ่งถึงหนึ่งปี สองคนที่เหลืออีก 2 ปี ทำให้เดนิสเรียนรู้อะไรหลายอย่างมากมาย คนพวกนี้เจ้าเล่ห์แค่ไหนทำไมเธอจะตามไม่ทัน ให้ยามหน้าสนามแข่งบอกกับเธอว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่ ทั้งยังแอบจอดรถคู่ใจของพวกเขาไม่ให้เธอเห็นเป็นอย่างดี ไม่สนิทจริงก็คงหลงกลคนพวกนี้ไปแล้ว
"เก่งจังเลย เพื่อนใครเนี่ย" ชลธีรีบพุ่งเข้ามาหาหมายจะลูบหัวหญิงสาวอย่างที่ชอบทำ ทว่า...
"มึงหยุด แล้วไปนั่งรวมกับพวกมัน" ชายทั้งสามนั่งเรียงกันตามคำสั่งหน้าสลอน เพราะแบบนี้แหละเพื่อนตัวเล็กอย่างเธอจึงถูกเรียกว่าแม่จากชายผู้องอาจทั้งสามคน
"พวกกูก็มาที่นี่เป็นปกติปะวะ มึงซีเรียสอะไร" ไคเลอร์ว่าอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้าน ใบหน้าระรื่นจนเดนิสรู้สึกหมั่นไส้
"ปกติ?...ถ้างั้นกูจะโทรหาแม่มึงคนแรกไอ้ไค"
"เดนิสเพื่อนรัก เพื่อนไคขอโทษ" เพียงเท่านั้นไคเลอร์ก็สลดลงในทันที รีบแย่งโทรศัพท์มือถือในมือของคนที่รู้ดีว่าเธอไม่ใช่แค่ขู่แน่นอน
"พวกมึงวางแผนกันอยู่แล้วใช่ไหม?" คลาสเรียนครึ่งเช้าแทนที่จะมีพวกเขาสามคนแต่ดันหายไปครบ ไม่มีเอ่ยหรือบอกอะไรเธอเลยสักคน เดนิสจึงไม่แปลกใจที่จะมาตามคนหนีเรียนถึงที่นี่
"เปล่า พวกกูแค่บังเอิญ"
"เออใช่ บังเอิญจริง ๆ"
"ใครโกหกขอให้พวกมันโดนฟ้าผ่าตาย"
"เฮ้ย ตลกเขาไม่เล่นกันถึงตายนะเว้ย" ชลธีรีบร้อนแก้ตัวทันควัน
"มึงเห็นกูตลกไหมล่ะ" ในขณะที่เดนิสเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มเลยสักนิด
"เออยอมรับก็ได้วะ ก็มึงเล่นจะพาพวกกูไปคลินิกอะไรนั่น ใครมันจะไปด้วยวะ" ได้ยินอย่างนั้นเดนิสก็ขมวดคิ้วยุ่ง พลางจมอยู่กับความคิดที่ชลธีกำลังพูดถึงกระทั่ง...
"อ๋อ...คลินิกตรวจภายใน" หญิงสาวลากเสียงเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ ใช่...เธอเคยพูด
"มึงจะให้ผู้ชายมีสไตล์เทสดีแบบพวกกูไปที่แบบนั้นเนี่ยนะ อายเขาตายห่า" ไคเลอร์ส่ายหัวเป็นประวิง ขืนให้ผู้ชายมาดเข้มเจ้าเสน่ห์แบบเขาไปยืนอยู่หน้ากิจกรรมคลินิกตรวจภายใน รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น
"พวกมึงเพื่อนกูหรือเปล่า แค่นี้ทำให้กูไม่ได้เลย?" เดนิสเลิกคิ้วขึ้น เธอแค่ออกปากชวนหรือสำหรับคนอื่นเรียกว่าคำสั่งให้ไปคลินิกตรวจภายในเป็นเพื่อน แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้...
"แค่ตรวจภายใน ไอ้เวย์มันไปเป็นเพื่อนมึงคนเดียวก็พอแล้ว เวย์มึงไปเลย" ชลธีว่าจบก็ดันหลังเจ้าของชื่อ เซอร์เวย์เป็นคนเดียวที่ตามใจเพื่อนตัวเล็กที่สุด และไคเลอร์เองก็เห็นด้วย เขาพยักหน้ารัว ๆ แล้วใช้เซอร์เวย์เป็นตัวประกัน
"ได้...กูไปก็ได้ แต่เดนิส มึงคิดดูว่าการตรวจภายในสำหรับผู้หญิงแม่งเรื่องใหญ่แค่ไหน มึงต้องการกำลังใจนะเว้ย จะให้กูไปเป็นเพื่อนมึงคนเดียวจริง ๆ เหรอ" แน่นอนว่าเซอร์เวย์จะไม่ยอมขายหน้าเพียงคนเดียว เขาพูดจบก็ยักคิ้วให้เพื่อนอีกสองคนที่หนีไม่พ้น เล่นเอาชลธีและไคเลอร์ก่นด่าในใจอย่างหนักพอสมควร
"ใครไม่ไป กูเลิกคบ"