บทที่ 06 คนที่ใช่

1353 คำ
"เฮ้อ...เหนื่อยจัง" ชายหนุ่มในชุดปฏิบัติการหรือที่เขาเรียกกันว่าเสื้อช็อปทิ้งตัวลงบนตักนุ่ม คนเป็นแม่ผู้มีใบหน้าสวยอย่างนานะ หญิงวัยกลางคนที่แม้จะอายุเข้าเลขสี่แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะแก่ไปตามวัย ยังคงดูดี เปล่งปลั่งเพราะมีครอบครัวที่เพียบพร้อมไปด้วยความสุขในทุก ๆ วัน "อะไรกันเด็กคนนี้ โตป่านนี้แล้วยังจะอ้อนอีก" นานะลูบหัวลูกเบา ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตก็ยังติดนอนตักแม่ไม่หาย "โตที่ไหนครับแม่ ผมเพิ่ง 20 เองนะ" ไคเลอร์ตอบอย่างทะเล้น ได้รับความอบอุ่นจากฝ่ามือบางที่ให้ความรักมาเป็นอย่างดี "หึ รีบขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า เดี๋ยวพี่ชายลูกกับหนูเฌอแตมมาจะได้ทานข้าวพร้อมกัน" พี่ชายคนเดียวของเขาและว่าที่พี่สะใภ้ คนที่สามารถพิชิตใจของไคเรนและครอบครัวรวมไปถึงตัวเขาด้วย "วันนี้พี่กลับบ้านเหรอครับ?" ไคเลอร์ฉายดวงตาวาววับ นาน ๆ ทีพี่ที่ห่างกันหกปีจะกลับบ้าน ได้ทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาก็รู้สึกถึงความสุข "ใช่ลูก แม่โทรตามเพราะอยากเจอหนูแตม" นานะยิ้มกว้าง พูดถึงว่าที่ลูกสะใภ้ก็มีความสุขจนปิดไม่อยู่ "เดี๋ยวนี้เห่อลูกสะใภ้มากกว่าลูกชายแท้ ๆ แล้วเหรอครับ" ทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในสายตาของไคเลอร์ เขาเองก็ชอบพอในตัวว่าที่พี่สะใภ้ไม่ต่างจากคนเป็นแม่ เพียงแค่อยากเย้าแหย่คนอารมณ์ดีก็เท่านั้น "ก็อยู่กับลูกชายมายี่สิบปี ก็ต้องเบื่อบ้าง ลูกก็รีบมีแฟนสิ แม่จะได้เห่อแฟนลูกบ้าง" นานะยิ้มกรุ้มกริ่ม คนยอมรับว่ายังไม่โตไม่เคยพาใครเข้าบ้าน และไม่เคยพูดถึงใครเป็นพิเศษจึงสรุปได้ว่าเขายังไม่มีใคร "ยังหาคนที่ใช่ไม่ได้เลยครับแม่" ไคเลอร์ยอมรับไปตามตรง แน่นอนว่าเรื่องนี้กับคนเป็นแม่เขาไม่เคยคิดจะปิดบัง "ก็เลยควงคนนั้นทีคนนี้ทีใช่ไหม" คนนอนตักสายตาชะงัก จ้องมองมารดาแล้วเริ่มเอ่ยหลังจากที่สรุปคำพูดมาได้ "ไอ้เดนิสมันฟ้องแม่ใช่ไหมครับ ไอ้เพื่อนเวร" จะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่เพื่อนตัวเล็ก นอกจากจะสนิทกับเขาแล้วกับนานะก็ไม่ได้ต่างกัน ข่าวคราวทั้งหมดเกี่ยวกับเขาจะเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่เธอที่ชอบฟ้อง เพียะ! มือบางที่ลูบหัวจัดการฟาดหน้าผากคนนอนเบา ๆ "ใครสอนให้ลูกพูดแบบนั้น หนูเดนิสถึงจะเป็นเพื่อนกันแต่น้องก็เป็นผู้หญิง" คำสบถแม้จะบ่นพึมพำแต่แม่ก็คือแม่ เบาแค่ไหนก็ยังได้ยินจึงไม่รีรอที่จะลงโทษคนทำผิด "ขอโทษครับ ผมก็แค่ศึกษาไปเรื่อย ๆ ไงครับแม่" ไคเลอร์หัวเราะแหยะ ๆ ยอมรับทุกข้อกล่าวหาแต่โดยดี "แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เราเป็นผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิงให้มาก ๆ อย่าทำให้ใครต้องเสียใจ โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะมาเป็นแฟนลูกในอนาคตเข้าใจไหมครับ" ในเวลาที่จริงจังเธอก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ยิ่งเป็นไคเลอร์ก็ต้องเข้มงวดกับเรื่องนี้ให้มาก ทั้งที่คนเป็นพ่ออย่างไคโร หรือแม้แต่ไคเรนที่เป็นลูกอีกคน ไม่มีใครได้นิสัยเจ้าชู้มาเลยสักนิด แต่เหมือนว่าไคเลอร์จะหลุดคิวซีมาเสียเยอะ นอกจากนิสัยนี้แล้วความดื้อรั้นความเอาแต่ใจไม่มีใครเกินเขาเลย "รู้แล้วครับแม่ จำได้ขึ้นใจแล้ว ตอนนี้ให้ผมหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอก่อนนะครับ สัญญาว่าผมจะพามาให้แม่รู้จักคนแรกเลย" สำหรับเขาท่าว่าจะยาก สำหรับสเปกหาผู้หญิงแบบแม่ของเขา นอกจากเฌอแตมว่าที่พี่สะใภ้ บนโลกนี้ก็คงไม่มีเหลืออยู่แล้ว "พูดแล้วนะ" "ค้าบ ~" ไคเลอร์ลากเสียงกวน ส่งยิ้มให้คนเป็นแม่ที่ตั้งหน้าตั้งตารอวันที่ไม่รู้จะมาถึงตอนไหน ครืดดด ๆ เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นให้คนนอนตักเปิดออกมาดู ทันใดนั้นเจ้าตัวก็รีบเด้งตัวขึ้นมานั่ง ทำใบหน้าระล่ำระลักจนนานะต้องเอ่ยปากถาม "มีอะไรหรือเปล่าไคเลอร์" "เปล่าครับแม่ แม่ครับเย็นนี้ผมไม่ทานข้าวที่บ้านนะครับ ลืมไปว่านัดเพื่อนเอาไว้" ชายหนุ่มไม่ว่าเปล่า เขารีบหยัดยืนขึ้นในขณะที่เอ่ยกับแม่ "อ้าว กะทันหันแบบนี้เลยเหรอ?" "ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ รักแม่นะ" ไคเลอร์ไม่ลืมที่จะหอมแก้มนุ่มสักฟอด ก่อนที่จะเดินออกมาถึงหน้าบ้านเปิดดูโทรศัพท์เครื่องหรูที่ยังค้างหน้าห้องสนทนาของเพื่อนสนิท จากนั้นก็กดโทรออกทันที "ไอ้เวย์ ไอ้ชลเป็นไงบ้างวะ" ไคเลอร์รีบกรอกเสียงถามปลายสาย มือหนาไม่ลืมที่จะคว้ากุญแจรถยนต์แทนที่จะเป็นรถจักรยานยนต์คู่ใจ (ขาเดี้ยงว่ะ มึงรีบมาหน่อยแล้วกัน กูต้องไปทำธุระให้ป๊า) ปลายสายคือเซอร์เวย์ คนที่ส่งรูปภาพของชลธีเพื่อนสนิทที่นอนหมดสภาพในสนามแข่ง เหตุเพราะรถล้มจากการแข่งขันเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมา และนั่นเป็นสาเหตุที่เขาต้องโกหกมารดา ขืนเธอรู้เรื่องนี้มีแต่จะกังวล ทั้งต้องห้ามไม่ให้เขาไปสนามอีกแน่ กับสิ่งที่รักจึงไม่สามารถที่จะบอกความจริงได้ "สิบห้านาทีกูถึง" ไคเลอร์มาถึงโรงพยาบาลของพี่ชายภายในสิบห้านาทีตามคำพูด รีบพุ่งตัวไปหาเพื่อนสนิทที่ทำแผลอยู่ห้องฉุกเฉิน แต่เมื่อเห็นสภาพแล้วก็พอเบาใจเพราะยังถือว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ขาซ้ายต้องเข้าเฝือก กระดูกหักแต่ก็ไม่ได้ถึงกับนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล สภาพนี้คงจะหายซ่าไปอีกหลายวัน "ใบจ่ายยาคุณชลธีค่ะ รับยาชำระเงินก็กลับบ้านได้เลยค่ะ" คนรับหน้าที่เป็นญาติคนไข้ยื่นมือรับกระดาษจากพยาบาลสาว "ขอบคุณครับ" จากนั้นก็รีบทำตามระหว่างรอคนไข้ทำแผล จึงมาหาห้องจ่ายยาของโรงพยาบาลที่แสนจะกว้างขวาง "แม่งห้องจ่ายยาอยู่ตรงไหนว่ะเนี่ย" ร่างสูงบ่นโอดอยู่กับตัวเอง การเป็นน้องชายเจ้าของโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้เขารู้จักที่นี่มากกว่าใครเลย นอกจากแผนกทำงานของพี่ชายเขาก็ไม่รู้จักที่ไหนอีก เท้าหนักจึงก้าวไปตามแผนกศัลยกรรมที่คุ้นเคย อย่างน้อยก็ยังคุ้นเคยก็พยาบาลในวอร์ดที่พอจะถามทางอยู่บ้าง "ฉันแทบช็อกตอนได้ยินอาจารย์ไคเรนบอกว่าเป็นพ่อของเด็กในท้อง" ชื่อของพี่ชายที่หนาหูมาถึงเขากับข่าวที่สร้างความฮือฮาทั้งโรงพยาบาล เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการปรากฏตัวของว่าที่พี่สะใภ้ที่มีพ่วงมาด้วยลูกในท้องของเธอ แต่ไคเลอร์ไม่ได้สนใจคำพูดของผู้คนเหล่านั้น การนินทามีอยู่ทั่วไปในที่ที่มีคนหมู่มาก เท้าหนักก็ตั้งใจจะเดินไปถามความข้องใจในตอนแรก แต่แล้ว... "ตอนแรกฉันคิดว่าคบกับหมอเค้กสูติฯซะอีก" ประโยคสนทนาที่ดังขึ้นต่อทำให้เท้าหนักชะงักกึก จากนั้นก็ยืนหลบพยาบาลที่จับกลุ่มคุยกัน โดยประโยคต่อไปที่ได้ยินก็ทำเขาขมวดคิ้วไม่พอใจ "แล้วแบบนี้หมอเค้กต้องทำหน้ายังไงต่อ ใคร ๆ ก็ดูออกว่าหมอเค้กน่ะ...ชอบอาจารย์ไคเรนมาก"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม