1 ปีต่อมา
“แววตา แววตา”
ร่างเล็กรูปร่างสมส่วนหันมามองบุคคลที่เรียกชื่อตน และฉีกยิ้มหวานออกมาอย่างน่ารัก และเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง “วิ่งทำไมเดี๋ยวก็ล้มหรอก”
“มีรุ่นพี่ปี 4 เขามาขอเบอร์แกจากฉันด้วยแหละ”
อิงอรพูดอย่างตื่นเต้นดีใจไปกับเพื่อนที่โดนผู้ชายขายขนมจีบไม่หยุดตั้งแต่ปีหนึ่งเทอมสอง จะไม่ให้โดนหนุ่มมารุมจีบได้ไงเพราะแววตาดูสวยขึ้นน่ารักขึ้นตอนนี้ผิวอย่างกับคุณหนูเลยก็ว่าได้ และนิสัยแก่นแก้วหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เห็นแต่แววตาผู้สดใส
“แล้วได้ให้ไปไหม?”
“เหอะ” อิงอรรีบส่ายหน้าและยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “เพราะฉันใช้สายตาเรดาร์ส่องให้แล้วพวกหน้าหม้อพวกนั้นไม่มีทางได้เข้ามาเฉียดใกล้เพื่อนของฉันหรอก”
อิงอรพูดอย่างภูมิใจและกอดอกเชิดหน้าให้อย่างน่ารัก ตั้งแต่ปีหนึ่งจนเข้าปีสองเธอมีแค่อิงอรคนเดียวที่เป็นเพื่อน และเธอเป็นเพื่อนคนที่รู้ใจเธอดีที่สุดและดีกับเธอที่สุด เธอเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
“เธอก็รู้นี่ต่อให้ให้เบอร์ใครไปฉันก็คงคุยกับพวกเขาไม่ได้”
“จะแคร์ทำไมตาเสี่ยคนที่เธอบอกเขาก็ไม่เคยมาหาหรือโทรหาเธอสักครั้งเดียวไม่ใช่เหรอ นี่มันก็ปีหนึ่งแล้วนะเสี่ยคนนั้นคงลืมเธอไปแล้วล่ะ พวกเราควรใช้ชีวิตสาวมหาลัยให้สนุกสุดเหวี่ยงดิว่ะ”
อิงอรเธอรู้เรื่องที่แววตาเป็นเด็กเสี่ย เธอเล่าให้อิงอรฟังทั้งหมดตั้งแต่ปีหนึ่งเทอมสองว่าเธอนั้นมีเสี่ยรับเลี้ยง ตอนแรกคิดว่าอิงอรจะรังเกียจเธอไปแล้วด้วยซ้ำไป แต่ผิดคาดอิงอรกับเข้าใจเธอและไม่เคยคิดที่จะรังเกียจเลย
“ถ้าเสี่ยเขาลืมจริงคงไม่โอนเงินให้ทุกเดือนหรอกอร”
“เขาอาจจะตั้งระบบโอนอัตโนมัติทุกสิ้นเดือนก็ได้”
“ถ้าเป็นยังงั้นจริงฉันก็คุยกับพวกผู้ชายคนอื่นไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้ฉันยังรับเงินเขาคนนั้นไว้กินไว้ใช้อยู่ แต่มันก็ดีนะอรเพราะเขาไม่เคยเจาะไข่แดงแต่เราได้เงินไว้กินไว้ใช้ทุกเดือนสบายจะตายมีแต่ได้กับได้”
“เออ จริง เสี่ยเธอถ้าจะแก่จนหลงลืมไปแล้วแน่ ๆ”
แววตาได้แต่ยิ้มเพราะรู้ดีว่าเสี่ยภูมิยังไม่ได้แก่แถมเขายังหล่อเหลาอีกต่างหาก แต่เขาคงหลงลืมไปแล้วจริง ๆ ก็ได้ เพราะเขาเคยบอกเธอว่าเลี้ยงเด็กเอาไว้หกคนรวมทั้งเธอด้วย
กีไม่เคยเจ็บแต่ได้จับเงินแสนทุกเดือนดีจะตาย
“วันนี้วันเกิดฉัน เจ๊แววไม่ลืมใช่ไหมว่าเราจะไปไหนกัน”
แววตาหัวเราะออกมากับความน่ารักของเพื่อนที่ส่งสายตาละห้อยมาให้ที่เธอเคยสัญญาเอาไว้ว่าจะตามใจเจ้าของวันเกิดหนึ่งวัน และสิ่งที่อิงอรอยากทำนั้นคือการเข้าผับตื้ด ๆ นั่นเอง
“ไม่ลืม ๆ แต่มันต้องชุดประมาณไหนล่ะ” เพราะด้วยไม่เคยไปเที่ยวกลางคืนมาก่อน และประสบการณ์ก็มีแค่ใส่ชุดทำงานกลางคืนแบบสมัยก่อนที่ยังไม่โดนเสี่ยภูมิรับเลี้ยง
“เซ็กซี่เท่านั้นสิจ๊ะเพื่อนจ๋า” อิงอรยิ้มกริ่ม และแววตาไม่ไว้ใจรอยยิ้มและสายตากรุ้มกริ่มแบบนั้นจากเพื่อนตัวดีเลย เพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ร่างเล็กยืนมองตัวเองในกระจกถึงแม้เธอจะตัวเล็กก็จริงแต่หน้าอกเธอกับใหญ่เกินหน้าเกินตาและสะโพกที่ผายออกรับอย่างสมส่วน อิงอรชอบบอกว่าอิจฉาหุ่นของเธออยู่ตลอดเวลา เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าอิงอรจะอิจฉาทำไมเพราะหุ่นเพื่อนของเธอสวยกว่าเธอเป็นไหน ๆ รูปร่างที่สูงและหุ่นดีอย่างนางแบบหุ่นแบบนั้นสาว ๆ ต่างใฝ่ฝันถึงแค่เพื่อนของเธอกลับบอกไม่อยากได้เสียอย่างนั้น กลับอยากได้หุ่นแบบเธอแทน
เธอมองตัวเองในกระจกและถอนหายใจออกมาเพราะกะเอาไว้แล้วว่าเพื่อนตัวดีต้องเล่นพิเรนทร์อีกแน่ เพราะตอนนี้เธอกำลังสวมชุดรัดรูปที่แหวกตรงช่วงอกเผยให้เห็นทรวดทรงของเธออย่างแจ่มชัด และชุดเดรสที่สั้นแค่ครึ่งขาอ่อนของเธอ อิงอรเลือกให้เธอสวมใส่ชุดสีแดงออกมะฮอกกานีโทนดำแดงอมน้ำตาลมากกว่าไปในทางสีแดงสด
“ฉันบอกแล้วว่าเธอใส่สีนี้แล้วสวยมันขับผิวสีน้ำผึ้งเธอมากเลย” อิงอรยิ้มชมกับผลงานของตัวเองและจับเพื่อนหมุนส่ายหมุนขวาอย่างกับชิ้นงานอันล้ำค่า
“มาชมกัน แต่ไม่ได้ดูสีชุดของเธอเลยที่ใส่สีแดงสดขับผิวขาว ๆ ของเธอให้เด่นชัดเหมือนแสงนีออนขนาดนี้”
“แฮะ แฮะ ก็อยากใส่เหมือนเพื่อนอ่ะ”
“ไปแล้วสัญญามาก่อนนะ ถ้าใครเมาก่อนต้องพากันกลับทันที” เธอตั้งกฎแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งเธอและอิงอร เพราะสถานที่เที่ยวแบบนั้นมันอันตรายสำหรับผู้หญิงแบบพวกเธอเป็นที่สุด เพราะประสบการณ์มันสอนเธอมา
“โอเค เจ๊ตาว่ายังไง อิงอรคนนี้ก็ว่ายังงั้นค่ะ”
อิงอรแกล้งตะเบ๊ะอย่างกับทหารและยิ้มปลิ้นตามาให้อย่างทะเล้น แววตาได้แต่หัวเราะและพากันขึ้นแท็กซี่ไปในสถานที่ที่เพื่อนตัวดีอยากไปมากที่สุดตั้งแต่ปีหนึ่ง เพราะตอนนั้นยังอายุไม่ถึง 20 ปี การ์ดไม่ยอมให้เข้าแต่ตอนนี้ทั้งเธอและอิงอรอายุพ้นนิติภาวะแล้วทั้งคู่ อิงอรจึงอยากลองไปดูสักครั้งทันทีที่ผ่านวันเกิดของเธอมาเมื่อวาน
รถแท็กซี่ขับมาจอดหน้าทางเข้าผับสองสาวเมื่อลงรถกันมาได้แต่แหงนหน้ามองชื่อผับพร้อมกับหัวใจที่เต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น พวกเธอต่างมองเหล่าหญิงสาวและชายหนุ่มที่พากันเดินเข้าไปข้างในแต่ละคนแต่งตัวประโคมแบรนด์เนมกันทั้งตัว ดีนะที่เธอเชื่ออิงอรและใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังที่อิงอรพาไปซื้อมาด้วยกันเมื่อตอนเย็น
เพราะผับที่เพื่อนพามามันช่างหรูหราซะเหลือเกิน หรูซะจินตนาการได้ว่าเหล้าหนึ่งแก้วราคาคงซื้อข้าวไว้กินได้สองวัน
และมันก็จริงอย่างที่เธอจินตนาการเพราะราคาค่าเหล้าแพงหูฉี่ไหนจะค่าเปิดโต๊ะอีก แววตาหันมามองเพื่อนที่กำลังดี๊ด๊าอย่างมีพร้อมสุขและส่งแบล็กการ์ดให้พนักงานรูด เธอลืมไปเสียสนิทว่าเพื่อนรวย และเธอก็ลืมไปว่าตัวเองนั้นก็มีเงินและมีเยอะด้วย
“ได้เวลาใช้เงินที่เสี่ยเธอให้แล้วคุณเพื่อนขา ฮ่า ฮ่า”
“ใช้คืนนี้เรามาให้สนุกสุดเหวี่ยงให้ลืมชีวิตกันไปเลย” แววตาลุกขึ้นและเต้นปลดปล่อยชีวิตนักศึกษาที่เป็นเด็กดีและขยันจนเกือบได้เอทุกวิชา
“มันต้องอย่างงี้ อะไรแพงเอาอันนั้นมาเลยพี่” อิงอรลุกขึ้นเต้นและแปะมือกับแววตาอย่างรู้กัน
“สาวโต๊ะนั้นแจ่มฉิบ” โต๊ะมุมที่ไฟส่องสลัวเล็กน้อยและเป็นโซนเฉพาะ VIP หนุ่มหล่อที่นั่งกันได้ประมาณห้าคนต่างหันมามองและพลางยิ้มกันออกมาเมื่อได้เห็นเหยื่ออันโอชะที่ดูแล้วเนื้ออย่างสดใหม่
“แต่คนตัวเล็กนมโตหน้าคุ้น ๆ จังว่ะ”
“คลาสโนว่าอย่างมึงคงแอ้มเขามาแล้วละมั้ง”
“ถ้าเคยแอ้มมาแล้วมันก็ต้องจำได้สิวะ”
“โถ่...ไอ้ภูมิมึงคงเอาไปทั่วจนลืมนะสิ ปล่อยน้องเขาให้พวกกูบ้างเถอะไอ้ห่า เพื่อนอดอยากปากแห้งกันเป็นแถว ๆ แล้วคราบ”
ภูมิแสยะยิ้มและเท้าคางมองหญิงสาวตัวเล็กที่นมโตจนอยากเอามือเข้าไปบีบและขย้ำทดสอบเหลือเกินว่ามันเป็นของแท้หรือของเทียม เขาแสยะยิ้มและมองหน้าเพื่อนในกลุ่ม “ใครดีใครได้”
************************************
นั่นน้องพูดกีไม่ทันเจ็บแต่ได้เงินแสนเงินล้าน ฮ่า ฮ่า