4.3

1488 คำ
ร้านกาแฟและเบเกอร์รี่แถบชานเมือง ร้านกาแฟและเบเกอร์รี่ขนาดไม่ใหญ่นักแต่บรรยากาศแวดล้อมให้ความรู้สึกสดชื่นอยู่ไม่น้อย มุกดาราก้าวเข้ามาในร้าน พบว่าเหมยลี่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว “ผักหวานทางนี้” เหมยลี่สาวชาวจีนกวักมือเรียกเพื่อนสนิทอย่างมุกดาราแม้ว่าอีกฝ่ายจะเห็นตัวเองแล้ว มุกดาราฉีกยิ้มกว้าง ร่างบางขยับเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง มุกดารายังไม่ทันได้เอ่ยปากทักทายอีกฝ่าย เหมยลี่ก็เอ่ยขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวนะผักหวาน ทำไมเธอถึงได้ใส่ชุดนี้มาล่ะ” เหมยลี่ไม่พูดเปล่า หญิงสาวกวาดสายตามองเพื่อนรักตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แววตาฉายชัดถึงความประหลาดใจ ก่อนจะหยุดสายตาที่ใบหน้าของเพื่อนอย่างต้องการคำตอบ “เอ่อ ฉันก็แค่...เปลี่ยนสายงานนิดหน่อยน่ะ” มุกดารายิ้มแหยตอนที่ตอบกลับไป ซึ่งทำเอาเหมยลี่ถึงกับส่ายหน้า “แบบนี้ไม่หน่อยละมั้ง เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยผักหวาน” “คือว่า…” หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากปากมุกดาราเหมยลี่ถึงกับยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองไปสองสามครั้งราวกับต้องการเรียกสติ ลมหายใจพรืดใหญ่ถูกพ่นออกมา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง “เป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำยังไงต่อ” “จะทำไงได้ล่ะ ก็คงอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่นแหละ” มุกดาราหยิบแก้วโกโก้ร้อนขึ้นมาจิบก่อนจะวางแก้วลงพลางส่งยิ้มจืดเจื่อนไปให้เหมยลี่ที่กำลังทำหน้าจริงจัง “อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ สักประมาณสิบยี่สิบปีงั้นเหรอ” “คงไม่นานขนาดนั้นหรอกมั้ง บางทีถ้าคุณเอเดรียน เอ่อ ฉันหมายถึงเจ้านายของฉันเบื่อๆ ที่จะลงโทษฉันเขาคงจะไล่ฉันออกเองนั่นแหละ เพราะถึงอย่างไรฉันก็คงกลับไปทำงานในตำแหน่งเดิมไม่ได้อีกแล้ว ใครจะมาไว้ใจคนที่ทรยศต่อบริษัทกันล่ะ ถึงแม้ว่าจะทำลงไปเพราะความจำเป็นก็เถอะ” มุกดาราบอกเสียงอ่อยก่อนจะดื่มโกโก้ร้อนลงคอไปอีกหนึ่งอึก ส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้เหมยลี่ตอนที่อีกฝ่ายมองตวัดสายตาขุ่นๆ มองมาคล้ายไม่ชอบใจ “เฮ้อ แล้วอย่างนี้ฉันจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง” “ไม่เป็นไรหรอกเหมยลี่ ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันยังโอเคแหละ แต่ถ้ามีอะไรแล้วละก็ ฉันจะนึกถึงเธอเป็นคนแรกเลย โอเคไหม” “เฮ้อ” เป็นอีกครั้งที่เหมยลี่ถอนหายใจ “ว่าก็ว่าเถอะ ทำไมป้าชารอนถึงได้ทำให้แกลำบากขนาดนี้” “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก ป้าคงไม่ได้ตั้งใจ” “เฮอะ” พอได้ยินมุกดาราบอกออกมาแบบนั้น เหมยลี่ถึงกับแค่นเสียงขึ้นจมูก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ทำให้มุกดาราต้องรู้สึกสะเทือนใจอีก สองสาวพูดคุยเรื่องสัพเพเหระ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับตอนช่วงราวๆ สองทุ่มเศษเพราะเป็นช่วงเวลาที่ร้านใกล้ปิดพอดี ด้วยร้านประจำที่มุกดารานัดเจอกับเหมยลี่อยู่ไกลจากอพาร์ตเมนต์ของเจ้าตัวพอสมควร หญิงสาวจึงกลับมาถึงที่พักราวๆ สี่ทุ่มเศษ ร่างบางเดินผ่านบริเวณลานจอดรถหน้าอพาร์ตเมนต์ ไม่ทันได้ก้าวเข้าไปในตัวตึกใครบางคนก็ก้าวมาขวางทางเธอเอาไว้ “คุณเอเดรียน” น้ำเสียงที่เปล่งออกจากเรียวปากสีเรื่อบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย ยิ่งเห็นใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึง ดวงตาคมกริบที่จ้องมองมาคล้ายไม่พอใจ ทำให้มุกดาราขยับเท้าถอยห่างออกมาอย่างอัตโนมัติ “ไปไหนมา ทำไมถึงได้กลับซะดึกดื่นขนาดนี้” ร่างสูงถามเสียงเข้มพลางขยับเท้าเข้าไม่ใกล้จนปลายเท้าของเขากับเธอแทบจะชนกัน ใบหน้าหล่อเหลาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังไม่สบอารมณ์ มุกดาราไม่เข้าเลยสักนิดว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้มีสีหน้าเช่นนั้น แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยอมตอบกลับไป เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด “ไปทำธุระค่ะ” มุกดาราให้คำตอบเพียงเท่านั้น หญิงสาวไม่จำเป็นต้องลงลึกรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว อันที่จริงแล้วอีกฝ่ายไม่ควรมาอยู่ตรงนี้เลยด้วยและมาถามเธอแบบนี้เลยด้วยซ้ำ “ธุระอะไร” เอเดรียนคาดคั้นด้วยเสียงดุๆ นั่นทำให้มุกดาราช้อนสายตาขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม คิ้วสวยขมวดมุ่น และตอนนี้หญิงสาวเริ่มแสดงออกทางสีหน้าว่ากำลังไม่พอใจที่ถูกคนสูงกว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว เธอเป็นพนักงานในบริษัทของเขา แต่เธอไม่ใช่ทาส “ธุระส่วนตัวค่ะ” “มุกดารา” ได้ยินคำตอบแบบนั้นคนสูงกว่าก็เรียกเธอเสียงกร้าวพร้อมๆ กับมือหนาที่คว้าหมับเข้าที่ต้นแขนทั้งสองข้างของหญิงสาว ออกแรงบีบเค้นจนมุกดารารู้สึกเจ็บ “ปล่อยผักหวานนะคะ ผักหวานเจ็บ” “เจ็บก็ดีเธอจะได้รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ” “ผักหวานทราบค่ะว่าอะไรควรอะไรไม่ควร มีแต่คุณเอเดรียนนั่นแหละค่ะที่ไม่ทราบ ไม่อย่างนั้นเมื่อคืนนี้คุณเอเดรียนจะ…” มุกดารารู้สึกกระดากอายอยู่ไม่น้อยที่จะต้องพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมา และหญิงสาวก็เลือกที่จะกลืนคำพูดดังกล่าวลงคอ “เรื่องที่เรานอนด้วยกันงั้นเหรอ” “คุณเอเดรียน” มุกดาราหน้าแดงก่ำที่อีกฝ่ายพูดจาด้วยน้ำเสียงยียวนชวนโมโหอย่างไร้สำนึก เป็นครั้งแรกที่ดวงตาคู่สวยวาววับยามที่จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังยกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูงมองมาที่เธออย่างน่าโมโห มุกดาราไม่ต้องการจะต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย หญิงสาวเบี่ยงตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการของมือหนา แต่แน่นอนว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด “ปล่อยค่ะ ผักหวานต้องการพักผ่อน” ใบหน้าหล่อเหลาที่เผยรอยยิ้มร้ายก่อนหน้านี้ตึงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินประโยครดังกล่าวจากริมฝีปากเล็ก นัยน์ตาสีฟ้าลุกโชนไปด้วยเพลิงโทสะขนาดย่อม “ธุระของเธอคืออะไรกันแน่มุกดารา ถึงได้เพียงจนอยากจะรีบไปพักผ่อนแบบนี้” “ผักหวานบอกแล้วไงคะว่าเป็นธุระส่วนตัว คุณเอเดรียนไม่เข้าใจหรือไงคะอ๊ะ” มุกดาราร้องเสียงหลงตอนที่ถูกคนสูงกว่ากระชากร่างของเธอเข้าไปหาแผ่นอกแข็งแกร่ง มือเล็กยกขึ้นทาบลงบนแผ่นอกของอีกฝ่ายอย่างอัตโนมัติเพื่อไม่ให้ร่างกายส่วนหน้าแนบชิดกันจนเกินควร แม้ว่าจะช่วยได้ไม่มากนักก็ตาม “เธอต่างหากที่ไม่เข้าใจมุกดารา อย่าลืมนะว่าเธอทำความผิดอะไรไว้และตอนนี้เธอเป็นคนของฉัน เพราะฉะนั้นอย่าอวดดี และเธอก็ไม่ควรไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นไปทั่วแบบนี้” “ผักหวานไม่ได้ทำแบบนั้น” “ฉันเห็นมากับตาเธอยังกล้าปฏิเสธอีกงั้นเหรอ” “ผักหวานไม่ได้ทำแบบนั้น แต่ต่อให้ผักหวานทำ มันก็เป็นสิทธิ์ของผักหวาน ไม่เกี่ยวกับคุณเอเดรีย…” มุกดาราไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยคด้วยซ้ำ ริมฝีปากร้อนผ่าวของคนสูงกว่าก็กระแทกลงบนเรียวปากของเธอ มุกดาราพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าความพยายามของเธอก็เป็นได้แค่ความพยายาม เมื่ออีกฝ่ายจงใจกดจูบหนักราวกับต้องการลงทัณฑ์ ซ้ำยังบีบบังคับให้เรียวปากที่เม้มเข้าหากันแน่นเผยอออกแล้วสอดใบลิ้นอุ่นชื้นเข้ามาในโพรงปากของเธอ “อื้อ” มุกดาราครางท้วง นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนเอาแต่ใจเก็บเกี่ยวความหอมหวานจากเรียวปากเล็กได้ง่ายขึ้น หญิงสาวใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพยายามขืนตัวออกจากเรือนกายสูงใหญ่ ทว่าวงแขนแข็งแรงกับพันธนาการร่างของเธอเอาไว้เสียแน่น มุกดาราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย จนกระทั่งอีกฝ่ายยอมถอนจูบออกไปเอง “จำเอาไว้ด้วยมุกดาราว่าตอนนี้เธอเป็นคนของฉัน ห้ามทำอะไรที่ฉันไม่ชอบใจอีก ไม่อย่างนั้นเราจะได้เห็นดีกัน” คาดโทษเสร็จเอเดรียนก็เป็นฝ่ายปล่อยร่างเล็กออกจากอ้อมแขนเสียเอง ร่างสูงสาวเท้าฉับๆ ก้าวไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ ก่อนที่รถคันหรูจะเคลื่อนออกไป ทิ้งมุกดาราไว้กับความงุนงง ดวงหน้าหวานแสดงสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนักตอนที่มองตามรถของชายหนุ่มไปจนลับสายตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม