บทที่ 3
“คุณเอเดรียน”
มุกดาราร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าของหญิงสาวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตื่นกลัวกับท่าทีการคุกคามของเขาอยู่ไม่น้อย และเอ่ยเสียงสั่นตอนที่มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าทั้งสองข้างของเธอ ออกแรงฉุดรั้งจนเธอเสียหลักจากที่นั่งชิดผนังห้อง กลายเป็นว่าต้องมานอนหงายอยู่กลางเตียง
“ยะ อย่านะคะ”
มุกดาราร้องปรามตอนที่คนสูงกว่าขยับตัวขึ้นมาอยู่เหนือร่างของเธออย่างรวดเร็ว มือหนาทั้งสองข้างที่เคยยึดข้อเท้าทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ก็เปลี่ยนเป็นมายึดข้อมือทั้งสองข้างของเธอแล้วกดแนบไปกับฟูกนุ่ม
“ไหนว่าจะทำทุกอย่างที่ฉันต้องการไงล่ะมุกดารา แล้วเธอจะร้องโวยวายไปทำไมล่ะหืม”
เอเดรียนแสร้งเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูงพลางถามคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงยียวน ดวงตาคู่คมที่ดูพราวระยับจนเกินควรจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าตื่นตระหนกของมุกดารา
“อย่านะคะคุณเอเดรียน ไม่เอาแบบนี้”
“มันไม่ยากหรอกมุกดารา เธอก็แค่ให้ความร่วมมือ ที่เหลือฉันจัดการเอง บางทีเธออาจจะเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากกว่าฉันด้วยซ้ำ”
มุกดาราทั้งโกรธทั้งอับอายที่คนเหนือร่างกล่าวหาเธอแบบนั้น หญิงสาวพยายามขัดขืนดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่เป็นไปได้ยากเหลือเกินที่เธอจะหลุดพ้นจากพันธนาการของคนที่มีพละกำลังเหนือกว่าได้ แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ไม่ละความพยายาม
“ปล่อยผักหวานนะคะ คุณเอเดรียนไม่ควรทำแบบนี้”
“งั้นฉันต้องทำแบบไหนล่ะมุกดารา เธอลองบอกฉันหน่อยซิ”
เอเดรียนยังคงกล่าววาจายียวนอย่างคงเส้นคงวา ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูยียวนกวนประสาทไม่จากฝีปากของเขาเลยสักนิด มุกดาราไม่ได้โต้ตอบในทันที หญิงสาวยังพยายามขัดขืนดิ้นรนอย่างสุดกำลัง แต่จนแล้วจนรดก็ไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการของคนที่อยู่เหนือร่างได้
“ปล่อยผักหวานสิคะคุณเอเดรียน ผักหวานบอกให้ปล่อยไง”
“ถ้าฉันไม่ปล่อยแล้วเธอจะทำอะไรฉันได้ล่ะมุกดารา”
อารมณ์กรุ่นโกรธปะทุในอกของมุกดารา ดวงตาคู่สวยวาววับตอนที่จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้า เรียวปากสีเรื่อเม้มเหยียดจนเป็นเส้นตรงก่อนจะคลายออก
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ปล่อย อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่ามุกดารา ดูก็รู้ว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายคนแรกที่ได้ใกล้ชิดเธอแบบนี้ คิดซะว่าฉันเป็นผู้ชายคนอื่นๆ ที่เคยผ่านมาของเธอก็แล้วกัน”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าคนใต้ร่างจะเคยผ่านมือใครมาก่อนหรือไม่ แต่ท่าทางขัดขืนดิ้นรนของมุกดาราทำให้เอเดรียนเกิดอยากเย้าแหย่ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในจะใบหน้าสวยหวานที่กำลังบึ้งตึงนั่นก็ด้วย ทำให้เขารู้สึกรื่นรมย์อยู่ไม่น้อยที่ได้พูดจากลั่นแกล้งอีกฝ่ายออกไปแบบนั้น แต่ใครจะรู้ว่าคำพูดที่ออกมาจากเรียวปากสวยๆ นั่น จะทำให้รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลาหายไปฉับพลัน อารมณ์รื่นรมย์ในตอนแรกก็เช่นกัน เปลี่ยนเป็นอารมณ์เดือดดาลเข้ามาแทนที่
“ถึงแม้ว่าผักหวานจะผ่านผู้ชายคนอื่นๆ มา แต่หนึ่งในนั้นต้องไม่มีคุณเอเดรียนแน่นอนอื้อ…”
ประโยคดังกล่าวยังไม่ทันสิ้นสุดลงด้วยซ้ำเรียวปากของมุกดาราก็ถูกริมฝีปากได้รูปของคนเหนือร่างเข้าครอบครอง เอเดรียนบดเบียดกลีบปากนุ่มอย่างไร้ความปราณี โทสะทั้งหมดที่ปะทุขึ้นถูกระบายลงบนเรียวปากสีเรื่อถึงแม้ว่าเจ้าของของมันจะไม่เต็มใจ มุกดาราร้องท้วงในลำคอ
“ปล่อยผักหวานนะ”
ครู่เดียวเสียงร้องท้วงของหญิงสาวก็ถูกกลืนหายไปพร้อมสัมผัสที่เร่าร้อนดุดันจากคนที่อยู่เหนือร่าง ไม่ว่ามุกดาราพยายามจะเอาตัวรอดสักเพียงใด ทว่าความพยายามของหญิงสาวก็เป็นได้แค่ความพยายาม เมื่ออีกฝ่ายตามประกบริมฝีปากของเธอได้อย่างแม่นยำ เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวต้องครางท้วงเพราะหายใจไม่ทัน
“ปล่อยนะ”
แต่มีหรือที่คนที่อยู่ในอารมณ์ที่เต็มไปด้วยโทสะอย่างเอเดรียนจะเมตตาเธอ นอกจากเขาจะไม่ยอมทำตามที่หญิงสาวต้องการแล้ว เขายังจงใจพรากลมหายใจอย่างไร้ปราณี ปลายลิ้นสากระคายแทรกเข้าไปอ่อนนุ่ม กวาดชิมความหวานด้านในอย่างเรียกร้องเอาแต่ใจ
“อื้อ…”
มุกดาราครางท้วง ทว่านั่นกลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้คนเหนือร่างคลุกเคล้าเรียวปากอวบอิ่มได้อย่างแนบแน่นลึกซึ้ง หญิงสาวเริ่มหายใจหอบ ลมหายใจเริ่มขาดห้วง ร่างสูงจึงยอมถอนจูบออกมา มุกดารารีบอาศัยจังหวะนั้นโกยอากาศหายใจเข้าปอด
แต่ก็ได้เพียงแค่ครู่เดียว ริมฝีปากได้รูปก็กดลงมาบนเรียวปากของเธออีกครั้ง
“อื้อ…”
ดูเหมือนว่าเอเดรียนจะติดใจรสชาติความหวานละมุนจากคนตัวเล็กที่อยู่ใต้ร่างเสียแล้ว แม้อีกฝ่ายจะพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่อารมณ์กรุ่นโกรธที่แปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์แห่งความปรารถนา ซ้ำฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ชายหนุ่มเติมเข้าไปในร่างกายนั้นก็ไม่น้อย ทำให้ความยับยั้งชั่งใจของเขาลดลงอย่างน่ากังวล
เอเดรียนไม่เคยต้องใช้กำลังบีบบังคับสตรีคนใดมาก่อนเช่นนี้ เพราะมีแต่คนที่จะยินยอมพร้อมใจเสนอตัวเพียงแค่เขาปรายสายตามอง
แตกต่างจากสตรีร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่างของเขาในตอนนี้
นั่นเป็นเหตุให้ชายหนุ่มต้องการเอาชนะและต้องการครอบครอง
ริมฝีปากหยักได้รูปยอมละความหวานจากโพรงปากอ่อนนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายมามาป้วนเปี้ยนแถวๆ ซอกคอหอมกรุ่นแทน ร่างสูงสูดดมความหอมเข้าปอดไปเสียฟอดใหญ่ ซ้ำยังจงใจขบเม้มผิวเนื้อของหญิงสาวจนเกิดรอยสีกุหลาบ
“อ๊ะ”
มุกดาราสะดุ้งตัวน้อยๆ เหมือนคนเหนือร่างทำแบบนั้น จะว่าเจ็บเพียงอย่างเดียวก็ไม่ใช่ ทว่ากลับกระตุ้นให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในช่องท้องของหญิงสาว สัมผัสดังกล่าวแม้จะดูจาบจ้วงทว่ากลับแฝงความซาบซ่านเอาไว้ไม่น้อย คนไร้ประสบการณ์อย่างมุกดาราแทบจะรับมือกับความรู้สึกนั้นไม่ไหว โดยเฉพาะตอนนี้อีกฝ่ายเคลื่อนริมฝีปากไปขบเม้มที่ใบหูของเธอคล้ายหยอกเย้าระคนปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามไปในคราวเดียวกัน ร่างเล็กพยายามอย่างสุดกำลังที่จะปิดกลั้นเสียงน่าอายเอาไว้ เรียวปากสีเรื่อเม้มเข้าหากันแน่น แต่สุดท้ายความพยายามของเธอก็ไร้ค่าเมื่อใบลิ้นอุ่นชื้นตวัดทั่วบริเวณใบหูขาวสะอาด
นั่นทำให้มุกดารากักเก็บเสียงแห่งความรู้สึกวาบหวิวเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว
“อื้อ...”
ร่างเล็กบิดเร่าเมื่อคนเหนือร่างโจมตีใบหูของเธอหนักขึ้น เสียงหวานครวญแผ่วที่เล็ดลอดออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มกระตุ้นให้ความปรารถนาในกายของชายหนุ่มค่อยๆ พุ่งทะยานสูง มือเล็กทั้งสองข้างที่เคยถูกยึดตรึงแนบเอาไว้กับที่นอนก่อนหน้านี้ได้รับอิสระ เมื่อมือหนาข้างหนึ่งเข้ากอบกุมที่ทรวงอกอวบอิ่มผ่านเสื้อนอนของหญิงสาวและบีบเค้นอย่างเร้าอารมณ์
สติที่กระเจิดกระเจิงของมุกดาราเริ่มกลับคืนมา
“พะ พอแล้ว”
มุกดาราร้องบอกได้เพียงเท่านั้น เรียวปากของเธอก็ถูกริมฝีปากร้อนร้ายเข้าครอบครองอย่างรวดเร็ว เพราะหญิงสาวไม่ทันได้มีโอกาสตั้งตัว เรียวปากที่เผยอน้อยๆ ทำให้ชายหนุ่มฉวยโอกาสสอดปลายลิ้นสากระคายเข้าไปกวาดชิมความหวานในโพรงปากอ่อนนุ่มได้อีกครั้ง
พร้อมๆ กับเสียงร้องท้วงที่ถูกกลืนหายไป