“ผักหวานขอโทษค่ะคุณเอเดรียนผักหวานไม่ได้…”
“เธอจะบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“ค่ะ ผักหวานไม่ได้ตั้งใจ”
มุกดาราตอบเสียงอ่อน แต่เธอก็ยืนยันออกไปแบบนั้นเพราะสำหรับเธอมันคือเรื่องจริง แม้ว่าคนสูงกว่าจะไม่ได้มีทีท่าเชื่อถือคำพูดของเธอเลยก็ตาม
“นี่ขนาดเธอไม่ได้ตั้งใจนะมุกดารา ถ้าเธอตั้งใจบริษัทของฉันเห็นทีคงได้ล้มละลาย”
“ผักหวานไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะคะ”
คราวนี้มุกดาราปฏิเสธเสียงแข็ง เธอไม่เคยคิดแบบนั้น ไม่เลยสักนิด และเธอก็ไม่คิดจะทำเรื่องผิดพลาดนี้อีกเป็นแน่
“งั้นเหรอ” เอเดรียนกล่าวแล้วดันลิ้นไปข้างกระพุ้งแก้ม แววตาคู่คมฉายชัดว่าไม่เชื่อในคำพูดของคนตัวเล็กกว่า “งั้นเธอลองบอกฉันมาหน่อยซิว่าตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่ผักหวาน”
เอเดรียนไม่พูดเปล่ามือหนารั้งร่างเล็กให้เข้ามาแนบชิดร่างกายของตัวเองแน่นขึ้น จนเขาสัมผัสได้ถึงทรวงอกนุ่มๆ ที่บดเบียดเข้าหาแผ่นอกแข็งแกร่งอย่างแนบแน่น
“ผักหวานไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น คุณเอเดรียนปล่อยผักหวานเถอะนะคะ”
“ฉันจะปล่อยเธอก็ต่อเมื่อเธอบอกฉันมาก่อนว่าโดโนแวน กรุ๊ปจ่ายให้เธอเท่าไรเธอถึงกล้าทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้”
“เปล่านะคะ ผักหวานไม่ได้ทำไปเพราะต้องการเงิน ผักหวานบอกคุณเอเดรียนไปแล้วไงคะที่ผักหวานทำไปเพราะต้องการช่วยญาติของผักหวานเท่านั้น”
“ฮึ จนถึงตอนนี้เธอยังแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ อีกงั้นเหรอมุกดารา”
“ผักหวานไม่ได้แก้ตัวนะคะ ผักหวานพูดเรื่องจริง”
มุกดารายังคงยืนกรานคำเดิม แต่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองกำลังกระตุ้นอารมณ์คุกรุ่นให้คนที่สูงกว่ามากขึ้นไปทุกที
“เรื่องจริงที่เธอแต่งขึ้นมาอย่างนั้นน่ะเหรอ”
“ผักหวานไม่ได้แต่งเรื่องนะคะ ผักหวานพูดเรื่องจริง” มุกดาราให้คำตอบอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“ฮึ คิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธออย่างนั้นเหรอ”
มุกดารามองคนตรงหน้าอย่างตัดพ้อ เธอพูดเรื่องจริงเขาก็กล่าวหาว่าเธอพูดปด เขาต้องการได้ยินคำตอบแบบไหนกัน
และตอนนี้มุกดาราก็เหนื่อยหน่ายใจเกินกว่าจะโต้ตอบกับคนตรงหน้าอีกแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณเอเดรียนเถอะค่ะ คุณเอเดรียนจะเชื่อแบบไหนก็แล้วแต่เถอะค่ะ และตอนนี้ก็ดึกมากแล้วคุณเอเดรียนควรจะกลับไปได้แล้วนะคะ เชิญค่ะ”
คราวนี้มุกดาราออกปากไล่อีกฝ่ายอย่างไม่ไว้หน้า หญิงสาวไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมเขาต้องมาระรานเธอแบบนี้ด้วย ทั้งๆ ที่เธอก็ยอมรับผิดทุกอย่างแล้ว และยอมทำตามในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ
“นี่เธอกล้าไล่ฉันเหรอ”
“ผักหวานไม่ได้ไล่นะคะ แต่ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อน คุณเอเดรียนก็ควรจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ เชิญค่ะ”
มุกดาราเน้นย้ำอีกครั้ง หญิงสาวพยายามขืนตัวออกจากมือหนาที่กระชับที่ต้นแขนของเธอเอาไว้ดั่งคีบเหล็ก พยายามสะบัดสุดแรง ทว่ากลับไร้ผล ซ้ำอีกฝ่ายกลับกระชับต้นแขนของเธอแน่นขึ้น ความเจ็บปวดแล่นเป็นริ้วๆ จนหญิงสาวอดจะร้องท้วงไม่ได้
“ผักหวานเจ็บนะคะ”
“เจ็บก็ดี เธอจะได้รู้สำนึกบ้างว่าสิ่งที่เธอทำลงไปมันแย่แค่ไหน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอละโมบเห็นแก่เงิน ไอ้บ้าเจสันคงไม่กล้าเยาะเย้ยฉันถึงขนาดนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นก็เพราะเธอ”
“แล้วคุณเอเดรียนจะให้ผักหวานทำยังไงคะ ผักหวานทราบค่ะว่าผักหวานผิด ผักหวานก็ยอมทำตามความต้องการของคุณเอเดรียนแล้วทุกอย่าง ถ้าคุณเอเดรียนไม่พอใจถ้าอย่างนั้นก็จัดการยัดผักหวานเข้าคุกเข้าตะรางไปเถอะค่ะ จะได้สาสมกับสิ่งที่ผักหวานทำไงคะ”
มุกดาราก็เริ่มมีอารมณ์กรุ่นโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว หญิงสาวใช้แรงฮึดสุดท้ายผลักร่างสูงให้ออกห่าง และครั้งนี้มันก็ได้ผล เมื่อร่างเล็กได้รับอิสระ
“อยากติดคุกเพื่อชดใช้ความผิดอย่างงั้นเหรอ มันจะไม่ดูง่ายไปหน่อยเหรอมุกดารา”
“แล้วคุณเอเดรียนต้องการอะไรคะ บอกผักหวานมาสิคะ ผักหวานจะได้ทำในสิ่งที่คุณเอเดรียนต้องการ”
“แน่ใจงั้นเหรอว่าเธอจะทำในสิ่งที่ฉันต้องการ”
เอเดรียนเหยียดยิ้ม ดวงตาโกรธขึ้งก่อนหน้านี้ที่เปลี่ยนเป็นวาววับอย่างเจ้าเล่ห์ เขามองมาที่หญิงสาวคล้ายราชสีห์กำลังจ้องตะครุบเหยื่อนั่นทำให้มุกดาราเริ่มหวั่นใจ ร่างเล็กใบ้กินไปชั่วขณะ หญิงสาวพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
“ว่าไงล่ะ แน่ใจใช่ไหมว่าจะทำในสิ่งที่ฉันต้องการ”
“คะ คุณเอเดรียนหมายความว่าไงคะ”
มุกดาราถามเสียงสั่น นัยน์ตาสีดำขลับฉายชัดว่ากำลังตื่นตระหนกเพราะคนตรงหน้าเริ่มขยับเท้าเข้ามาหาเธอด้วยท่าทีคุกคาม นั่นทำให้หญิงสาวเจ้าต้องขยับเท้าถอยหนีไปทางด้านทางหลังอย่างอัตโนมัติ และแน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าว่าะหยุดคุกคามแม้ว่าหญิงสาวจะแสดงทีท่าว่ากำลังตื่นกลัว
“เธอก็ลองคิดดูสิ”
เอเดรียนเผยรอยยิ้มร้ายกาจที่ทำให้มุกดาราขนอ่อนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง เธอไม่เคยเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์แบบนี้ของอีกฝ่ายมาก่อน นั่นทำให้เจ้าตัวสั่นหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ผักหวานไม่คิดอะไรทั้งนั้น เชิญคุณเอเดรียนกลับไปได้แล้วค่ะ”
มุกดาราร้องบอกแต่นั่นไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย คนสูงกว่ายังขยับเท้าไล่ต้อนคนตัวเล็กกว่ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งปลีน่องของหญิงสาวกระแทกเข้ากับขอบเตียง
ดีที่มุกดารายังทรงตัวเอาไว้ได้ หญิงสาวพยายามยืนหยัดอย่างมั่นคง ไม่ให้ร่างของตัวเองล้มลงไปบนฟูกนุ่มเสียก่อน
“ดูเหมือนเธอจะรู้แล้วสินะว่าฉันต้องการอะไร”
ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้มุกดาราอย่างคุกคามจนกระทั่งร่างบางเสียหลัก ร่างเล็กล้มหงายลงบนที่ฟูกนุ่ม หญิงสาวรีบกระถดตัวไปจนสุดเตียงที่ติดกับผนังห้อง ดวงตาคู่สวยไหวระริก กล้ามเนื้อในอกซ้ายเต้นถี่รัวจนเจ็บอก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างตอนที่คนสูงกว่าถือวิสาสะก้าวขึ้นมาบนเตียงของเธอในท่าเดินเข่า ใบหน้านวลเนียนที่เคยมีสีเรื่อแทบจะไร้สีเลือด และแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินประโยคหนึ่งที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูป
“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกมุกดารา”