มุกดาราเข้าไปจัดการล้างหน้าล้างหน้าในห้องน้ำ ในอกของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เธอต้องรับผลจากกระทำที่ไม่ถูกต้อง
มุกดาราหยุดเท้าที่หน้าห้องทำงานของเอเดรียน ไม่บ่อยนักที่เธอจะได้เข้ามาเหยียบในห้องนี้ เธอเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ก็จริง แต่ส่วนใหญ่เวลาที่มีการนำเสนอแฟ้มงานให้เอเดรียนอ่านก็จะเป็นหน้าที่ของเลขาฯ อย่างคาเรน ส่วนเธอก็มีหน้าที่ช่วยคาเรนเตรียมเอกสารอีกที หญิงสาวรวบรวมความกล้า แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายก็ยกมือขึ้นเคาะประตู
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก…
“เข้ามา”
สิ้นเสียงของเจ้าของห้องมุกดาราก็พาตัวเองเข้าไปด้านใน มือบางดันประตูปิด ก่อนจะก้าวเท้าไปหยุดที่หน้าโต๊ะของเอเดรียน ซึ่งชายหนุ่มไม่ได้อยู่เพียงลำพัง พอลก็อยู่กับเขาด้วย
“เธอมีอะไรจะแก้ตัวหรือเปล่ามุกดารา”
น้ำเสียงของเอเดรียนดูราบเรียบกว่าที่มุกดาราเตรียมใจเอาไว้มาก หญิงสาวคิดเอาว่าอีกฝ่ายคงจะสาดอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่เธอมากกว่านี้ ทว่าเมื่อหญิงสาวช้อนสายตาขึ้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าที่แข็งกร้าว มุกดาราจึงทราบว่าอีกฝ่ายมีโทสะอยู่ไม่น้อย หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวหนึบลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะรีบหลุบสายตาลงต่ำเพราะไม่อาจหาญทนสู้สายตาคู่นั้นได้อีกแล้ว
“ไม่มีค่ะ”
มุกดาราตอบไม่เต็มเสียงนัก และตอนนี้หญิงสาวก็ก้มหน้าลงต่ำจนคางแทบจะชิดอก เรียวปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนเม้าเข้าหากันแน่น มือทั้งสองข้างที่ประสานกันเอาไว้ด้านหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ ความอึดอัดก่อตัวขึ้นเมื่อบรรยากาศภายในห้องมีเพียงความเงียบหลังจากที่เธอตอบคำถามของอีกฝ่าย อึดอัดเสียจนมุกดาราแทบจะหายใจไม่ออก ผ่านไปพักใหญ่เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“โดโนแวน กรุ๊ปจ่ายให้เธอเท่าไรเธอถึงกล้าทรยศฟรีเดล กรุ๊ป”
“คือว่า…”
มุกดาราไม่ทราบว่าควรจะให้คำตอบอย่างไรดี หากเธอตอบอกไปแล้วเขาจะเชื่อคำพูดของเธออย่างนั้นหรือ แต่ถึงแม้จะคิดแบบนั้น หญิงสาวก็เลือกจะพูดความจริงออกไป
“ผักหวานไม่ได้รับเงินจากโดโนแวน กรุ๊ปเลยนะคะ ที่ผักหวานทำไปนั่นก็เพราะ…”
“เพราะอะไร”
“ญาติของผักหวานถูกจับตัวไปเพราะเป็นหนี้การพนันและถูกขู่เอาชีวิต ซีอีโอของโดโนแวน กรุ๊ปทราบว่าผักหวานทำงานอยู่ที่นี่ก็เลย…”
“ให้ส่งข้อมูลเรื่องราคายื่นซองประมูลเหมืองเพชรไปให้เพื่อแลกกับชีวิตญาติของเธอ”
“ใช่ค่ะ”
มุกดาราตอบแล้วรีบหลุบสายตาลงต่ำเพราะนัยน์ตาสีฟ้าที่มองมาคล้ายดูแคลนและไม่เชื่อในคำพูดของเธอ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม
“ฮึ แต่งเรื่องเก่งดีนี่”
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นเต็มเป็นด้วยความเย้ยหยัน มุกดาราทำได้เพียงก้มหน้างุดจนปลายคางของเธอแทบจะชิดกับอก ไม่ผิดหรอกที่เขาจะไม่เชื่อในคำพูดของคนที่กล้าทรยศต่อบริษัทแบบเธอ
แต่เธอมีทางเลือกทางอื่นเสียที่ไหนกัน
หญิงสาวจึงก้มหน้ารับอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
“แล้วเธอไม่คิดจะรับผิดชอบต่อการกระทำของเธอหน่อยงั้นหรือมุกดารา เธอรู้ไหมว่าฟรีเดล กรุ๊ปต้องพลาดโอกาสในการทำกำไรจากเหมืองเพชรที่เวอร์จิเนียมหาศาลขนาดไหน เธอจะชดใช้ยังไง”
ยิ่งได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น มุกดาราก็ยิ่งก้มหน้างุด ขอบตาทั้งสองข้างเริ่มร้อนผ่าว หญิงสาวรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยต่อการกระทำของตัวเอง ถ้าในเรื่องมูลค่าที่ฟรีเดล กรุ๊ปต้องสูญเสียไปชาตินี้ทั้งชาติเธอคงไม่มีปัญญาชดใช้ได้หมดแน่ ทางเดียวที่เธอคิดออกในการรับผิดชอบเรื่องนี้ก็คือการลาออก
คิดได้แบบนั้นมุกดาราจึงรวบรวมความกล้าก่อนจะค่อยๆ แหงนเงยใบหน้าขึ้นสบสายตาคู่คมของเอเดรียน
“ผักหวานจะลาออกค่ะ”
“ฮึ” ใบหน้าหล่อเหลาแค่นยิ้ม นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องที่ร่างเล็กตรงหน้าที่ก้มหน้างุดลงไปจนปลายคางแทบจะชิดอกอีกครั้ง ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำแฝงความเย้ยหยันจะดังขึ้น “รับผิดชอบแค่นั้นมันจะไม่ดูมักง่ายไปหน่อยหรือมุกดารา เธอลาออกก็เท่ากับเธอจะได้ไปใช้เงินที่ได้จากโดโนแวน กรุ๊ปได้อย่างสะดวกสบายน่ะสิ”
แน่นอนว่าเอเดรียนไม่เชื่อในสิ่งที่มุกดารากล่าวอ้างไม่เลยสักนิด ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยความดูแคลนอย่างไม่ปิดบังตอนที่มองคนตัวเล็กกว่าตรงหน้า ส่วนคนฟังอย่างมุกดาราทำได้เพียงกลืนน้ำลายเหนียบหนึบลงคออย่างยากลำบาก น้ำใสๆ ที่เอ่อล้นขอบตาจวนเจียนจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ
แต่จะให้โทษใครได้ล่ะ ในเมื่อเธอทำผิดจริง
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่คุณเอเดรียนเลยค่ะ ผักหวานยินดียอมทำตามที่คุณเอเดรียนเห็นต้องการทุกอย่าง”
“อวดดี”
การยอมจำนนของมุกดาราได้รับการตอบรับจากเอเดรียนด้วยการตำหนิ อย่างเธอน่ะหรือจะกล้าอวดดีกับคนอย่างเขา ในเมื่อเธอเสนอว่าจะลาออกแต่เขากลับปฏิเสธ เป็นแบบนั้นแล้วจะให้เธอทำอย่างไรได้ เธอจะทำตามที่เขาต้องการทุกอย่างก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรอกหรือ
แต่มุกดาราก็เลือกที่จะเงียบ หญิงสาวไม่ได้โต้ตอบ เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นฝ่ายผิด ส่วนเอเดรียนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเงียบไปก็รู้สึกหงุดหงิด คิ้วหนาที่พาดเหนือดวงตาเรียวรีขยับเข้าหากัน นัยน์ตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ในเมื่อเธอบอกว่าจะทำทุกอย่างที่ฉันต้องการ และฉันหวังว่าเธอจะรักษาคำพูด เพราะไม่อย่างนั้นฉันคงต้องเอาผิดเธอทางด้านกฎหมาย ซึ่งก็คงไม่ใช่เพียงแค่เพียงข้อหาที่เธอขายข้อมูลของบริษัทแน่ เพราะฉันพร้อมจะยัดเยียดข้อกล่าวหาที่ทำให้เธอจนจดจำไม่มีวันลืมแน่”
ได้ยินแบบนั้นมุกดาราก็ได้แต่เพียงกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก และเธอก็มั่นใจเหลือเกินว่าเอเดรียนสามารถทำทุกอย่างที่เจ้าตัวพูดออกมาได้อย่างแน่นอน ไม่มีทางเลือกใดให้เธอ นอกจากจะยอมจำนนในทุกๆ ทาง
“ผักหวานจะทำทุกอย่างที่คุณเอเดรียนต้องการค่ะ”