เมื่อใจได้พักพิง

939 คำ
ตอนที่ 4 ความเงียบโรยตัวเข้ามาอีกครั้ง มีเพียงเสียงฝนที่ตกกระทบหลังคารถและเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของคนทั้งสอง ธันวาหันไปมองขวัญรวินทร์อีกครั้ง ดวงตาของเขาไล่สำรวจใบหน้าหวานซึ้ง จมูกโด่งรั้นเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อที่ดูเหมือนกำลังจะเชื้อเชิญให้ลิ้มลอง เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่พุ่งพล่านในอก แต่ก็พยายามข่มมันไว้อย่างสุดความสามารถ “ขอบคุณค่ะอาหมอ” ขวัญรวินทร์เอ่ยขอบคุณเบาๆ อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา แต่ความอบอุ่นที่เธอสัมผัสได้นั้นกลับมาจากไออุ่นของธันวาที่อยู่ใกล้ ๆ มากกว่า “หนูไม่ต้องกังวลไปนะ เรื่องที่เกิดขึ้น” ธันวาเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาปลอบประโลมราวกับจะโอบอุ้มเธอไว้ ขวัญรวินทร์เงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ “หนู… หนูไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ” เธอสารภาพอย่างอ่อนแอ “หนูไม่เคยเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้มาก่อนเลย” “ไม่เป็นไรหรอกหนู” ธันวาปลอบโยน “คนเราทุกคนล้วนเคยเจอเรื่องที่เลวร้ายด้วยกันทั้งนั้น ขอแค่เรามีสติก้าวข้ามมันไปให้ได้ และเรียนรู้ความผิดพลาดจากมัน” เขาเอื้อมมือไปกุมมือเรียวเล็กของเธอไว้เบาๆ สัมผัสถึงความเย็นชืดและบอบบาง เปรี้ยง!!!... แสงสว่างวาบเจิดจ้าเหนือท้องฟ้า สายฟ้าฟาดลงมาอย่างรุนแรงจนเห็นเป็นทางยาว ตามมาด้วยเสียงฟ้าผ่าที่ดังสนั่นหวั่นไหวราวกับจะฉีกโลกออกเป็นเสี่ยงๆ ขวัญรวินทร์สะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว เธอผวาเข้าหาธันวาอย่างไม่รู้ตัว ซบใบหน้าเข้ากับอกแกร่งของเขา แขนเรียวโอบรัดเอวเขาไว้แน่น ร่างกายบอบบางสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว ธันวาตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ แต่ก็โอบกอดเธอตอบโดยสัญชาตญาณ แขนแกร่งรัดร่างเล็กๆ ของขวัญรวินทร์เข้ามาแนบชิด พลางลูบแผ่นหลังปลอบโยน “ไม่เป็นไรนะหนู แค่ฟ้าผ่าเฉยๆ” เสียงของเขาปลอบโยนอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกอบอุ่นจากเรือนกายของเธอที่แนบชิดกับเขาทำให้หัวใจของธันวาเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เขาเองก็ตกใจเหมือนกันแล้วนับประสาอะไรกับเด็กสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ ธันวาได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนผมของขวัญรวินทร์ กลิ่นหอมหวานที่ชวนให้เขาลุ่มหลงเธอ จนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น “แต่มันดังแล้วก็น่ากลัวมากเลยค่ะ…อาหมอ” ขวัญรวินทร์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงสั่นเล็กน้อย ใบหน้าหวานซบลงกับบ่าของธันวาอีกคราเพื่อซบความกลัวจากเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าที่ยังไม่จางหายไป “หนูตกใจหมดเลย” ธันวากระชับอ้อมแขนที่โอบกอดร่างบอบบางของเธอให้แน่นขึ้นอีกนิด พลางลูบเรือนผมของเธออย่างอ่อนโยน ความรู้สึกห่วงใยและปรารถนาที่จะปกป้องเธอถาโถมเข้าใส่หัวใจของเขาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่เคยรู้สึกผูกพันกับใครได้มากเท่านี้มาก่อน ไม่ใช่ในฐานะแพทย์กับคนไข้ แต่มันลึกซึ้งกว่านั้น… ราวกับว่าเขาต้องการที่จะเป็นโลกทั้งใบของเธอ “ไม่เป็นไรนะหนู” ธันวากระซิบเสียงทุ้มนุ่ม พลางกดจมูกลงไปบนกลุ่มผมหอมกรุ่นของเธออย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วน “ฟ้าผ่ามันก็แค่เสียงดังเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก” เขาปลอบโยน ทั้งที่ในใจก็รู้สึกหวาบหวิวกับความใกล้ชิดที่เกินเลยนี้ ในขณะที่ธันวายังคงกอดปลอบขวัญรวินทร์ เขาก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของเรือนร่างเธอที่แนบชิดกับเขาอย่างเต็มที่ เสื้อนักศึกษาที่บัดนี้เปียกชื้นเล็กน้อยจากเหงื่อและความอบอ้าวภายในรถยนต์ยิ่งทำให้เนื้อผ้าแนบสนิทกับผิวเนื้อ เผยให้เห็นทรวดทรงของเด็กสาวที่กำลังแตกเนื้อสาวอย่างชัดเจน เต้านมอวบอิ่มที่ดันเนื้อผ้าออกมาอย่างยั่วยวนช่างดึงดูดสายตาของเขาเสียเหลือเกิน ธันวาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมสติทั้งหมดไว้ ไม่ให้ความปรารถนาที่ร้อนแรงในอกพลุ่งพล่านออกมาจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เขานึกถึงคำพูดของเธอที่ว่าเธอขาดพ่อมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกที่ขวัญรวินทร์มีต่อเขาคงไม่ใช่แค่ความเคารพในฐานะอาจารย์หรือผู้ใหญ่ แต่เป็นความโหยหาในความรักและความอบอุ่นที่เธอไม่เคยได้รับ และนั่นทำให้เขายิ่งต้องระมัดระวังการกระทำของตัวเอง เพื่อไม่เป็นการทำร้ายจิตใจที่บอบช้ำของเธอไปมากกว่านี้ “ฝนคงอีกนานเลย...กว่าจะหยุด” ธันวาพูดขึ้นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ พยายามดึงตัวเองให้กลับมาอยู่ในบทบาทของคนที่เป็นผู้ใหญ่และเป็นที่พึ่งให้เธอได้ “หนูอยากฟังเพลงไหม จะได้ไม่เงียบ แต่อย่าเล่นโทรศัพท์นะ เดี๋ยวฟ้าจะผ่าเอาได้” ขวัญรวินทร์พยักหน้าเล็กน้อย ยังคงซบหน้าอยู่กับอกของเขา ธันวาเอื้อมมือไปเปิดเพลงเบาๆ คลอเคล้าไปกับเสียงฝนที่ยังคงกระหน่ำอยู่ภายนอก รถยนต์คันหรูที่จอดนิ่งท่ามกลางพายุกลายเป็นโลกใบเล็กๆ ที่มีเพียงธันวาและขวัญรวินทร์ แรงดึงดูดโดยธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ และในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยพายุฝนและความลับนี้ บางสิ่งบางอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ แต่ยากที่จะหยุดยั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม