บทที่ 7
เธอชอบจูบเหรอ
“เฌอลินน์...” ชายหนุ่มจึงเรียกเธออีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม คราวนี้เลน็อกซ์จึงขยับเข้าไปใกล้ๆ จงใจยื่นหน้าเข้าไปอยู่เหนือหน้าจอโน๊ตบุ๊คของเธอ “น้องลินน์”
“...!!”
เฌออลินน์สะดุ้งเฮือกจนเกือบเผลอร้องกรี๊ดออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอก็เจอหน้าหล่อๆ ของประธานหนุ่ม อีกทั้งยังได้ยินเขาเรียกเธอว่า ‘น้องลินน์’ อีกด้วย
...หะ หูฝาดหรือเปล่านะ เขาอาจจะเรียกฉันว่าอีลินน์ก็ได้...
สาวน้อยพยายามไม่คิดว่าเขาจะเรียกเธออย่างอ่อนหวานแบบนั้นได้ ก่อนจะตอบออกไป
“คะ?”
“ไปกินข้าวกัน ตอนนี้สองทุ่มแล้ว”
“อ้อ เดี๋ยวฉันขอทำต่ออีกสักหน่อยนะคะ พอดีใกล้จะเสร็จแล้ว ท่านประธานไปกินก่อนเลยก็ได้ค่ะ”
“ฉันจะรอ”
“คะ?”
เลน็อกซ์ไม่พูดต่อ เขาเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างอีกครั้ง แต่ไม่ได้ทำงาน เขาเหลือบสายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงไม่วางตา
“ทำงานสิ”
“เอ่อ ค่ะ”
แล้วเฌอลินน์ก็ก้มหน้ามองหน้าจอต่อ ทว่าเธอเห็นจากหางตาว่าประธานหนุ่มจ้องมองเธอไม่วางตา เธอพยายามจดจ่ออยู่กับงานแต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน แต่สุดท้ายเฌอลินน์ก็บรรลุเป้าหมายของตัวเองทำงานจนเสร็จ
“เสร็จแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กปิดหน้าจอโน๊ตบุ๊ต หญิงสาวจึงพยักหน้าแทนคำตอบ “รีบเตรียมตัวสิ ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ”
เธอรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาสวม พลางคิดในใจว่า...
...ฉันคิดว่าคงได้ยินผิดไป แต่นี่ท่านประธานรอฉันจริงๆ เหรอเนี่ย...
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากห้องไป ทว่าเมื่อเดินออกมาเลน็อกซ์กลับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะดึงคนตัวเล็กที่กำลังก้าวเดินออกไปเอาไว้
“...?”
“ฉันลืมกระเป๋าเงิน”
“อ่า ค่ะ”
“เธอเข้าไปเอาให้หน่อยสิ”
แม้จะรู้สึกแปลกใจแต่เฌอลินน์ก็ทำตามที่เขาสั่ง ทว่าทันทีที่เข้าไปด้านในเลน็อกซ์ก็ปิดประตูลง จากนั้นก็ได้ยินเสียงราวกับคนชกต่อยกันอยู่ด้านนอก
“ท่านประธานคะ!?”
“อย่าเพิ่งเปิดประตู”
“...!?”
เฌอลินน์รอไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของเลน็อกซ์ซึ่งบนใบหน้าของเขามีร่องรอยจากการถูกทำร้ายอยู่หนึ่งจุด
“กะ แก้มของท่านประธาน...!”
คนตัวเล็กมองรอยช้ำบนแก้มของประธานหนุ่ม ก่อนจะมองสลับกับผู้ชายคนหนึ่งที่นอนหน้าคว่ำอยู่บนพื้นหน้าประตู
“ไม่เป็นไร แค่คนเมาน่ะ” สิ้นประโยคนั้นเลน็อกซ์ก็ต้องตาเบิกกว้าง เมื่อผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในห้องพุ่งตรงมาหาเขา ชายหนุ่มจึงดึงร่างบอบบางให้หลบ
หมับ!
“ว้าย!”
ทว่ากลับถูกคนร้ายจับเข้าที่คอเสื้อแล้วเหวี่ยงคนตัวเล็กเข้าไปด้านใน เลน็อกซ์เห็นแบบนั้นเขาจึงรีบเข้าไปในห้อง แล้วจัดการกับคนร้ายทันที
ทั้งสองผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใคร เฌอลินน์ที่ถูกเหวี่ยงเข้ามาด้านในรีบลุกขึ้น แล้ววิ่งไปคว้าที่ช็อตไฟฟ้าที่ซื้อติดเอาไว้ออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าใส่คนร้ายจนอีกฝ่ายแทบสลบ
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
เธอพยักหน้าแทนคำตอบ หญิงสาวตื่นกลัว จ้องมองร่างของคนร้ายที่ยังคงขยับตัวได้ แต่ด้วยกระแสไฟฟ้าจากเครื่องช็อตไฟฟ้าทำให้มันไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
“ทะ ทำยังไงดีคะท่านประธาน”
ในตอนนั้นเองประตูห้องของพวกเขาก็ถูกเปิดออก เลน็อกซ์ถอนหายใจก่อนจะยืนบังร่างของหญิงสาวเอาไว้ ทว่าเฌอลินน์กลับดึงร่างของชายหนุ่มให้ถอยห่างออกมา จากนั้นก็โอบกอดชายหนุ่มแล้วพาเขากระโดดลงทะเลไป
ตู้ม!
เฌอลินน์หันไปประกบปากจูบแล้วส่งลมหายใจของตัวเองให้กับชายหนุ่ม เพราะเธอลากเขาลงน้ำมาแบบไม่ทันตั้งตัว เธอเพียงแต่คิดว่านี่อาจจะเป็นทางรอดเดียว ในสายตาของเธอแม้เลน็อกซ์จะมีศิปะป้องกันตัวอยู่บ้าง แต่ก็คงสู้กับคนสองคนไม่ไหว เผลอๆ นี่ไม่ใช่การปองร้ายธรรมดาแน่ๆ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
จากนั้นหญิงสาวก็โอบร่างกำยำของชายหนุ่มแล้วพาแหวกว่ายดำน้ำให้ออกห่างจากที่นั่น โดยระหว่างทางก็จูบกับชายหนุ่มเพื่อส่งผ่านอากาศให้เขาอยู่หลายรอบ เธอดำนำไปตามสะพานทางเดินที่พาดผ่านทะเล ดำผุดดำว่ายโดยโอบร่างกำยำตามมาด้วย กระทั่งมาจนถึงถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งเฌอลินน์ได้ยินจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นถ้ำที่ว่ากันว่ามีผีโผล่มาบ่อยๆ ทว่าหญิงสาวไม่เชื่อเรื่องผี
เสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยของคนร้ายที่ลงมาตามหาตัวพวกเขา ทว่าหญิงสาวที่แอบมองอยู่ใต้น้ำกลับรู้สึกคุ้นเคยคนร้ายคนนี้ อีกทั้งเสียงพูดยังคุ้นหูเหลือเกิน ราวกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
เมื่อเสียงฝีเท้าดังไกลออกไปเฌอลินน์ก็พาเลน็อกซ์ขึ้นสู่เหนือผิวน้ำเพื่อสูดอากาศเข้าปอด สอดส่องสายตามองคนร้ายที่วิ่งไกลออกไป
“ท่านประธานไหวมั้ยคะ?”
“เธอทำบ้าอะไรของเธอ”
“ขอโทษนะคะ แต่ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นทางรอดเดียวของเรา”
“เธอไม่คิดว่ามันจะกระโดดน้ำตามลงมาบ้างเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย เธอว่ายน้ำเป็นคนเดียวคงพาฉันหนีไปด้วยไม่รอดหรอก”
“...ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันคิดถึงเรื่องนั้น”
เมื่อเห็นคนตัวเล็กสำนึกผิด เขาก็ไม่คิดจะต่อว่าอะไรอีก...
“ช่างเถอะ ตอนนี้รีบขึ้นไปก่อนจะดีกว่า” เขาว่าพลางดึงร่างตัวเองขึ้นจากน้ำ ก่อนจะหันไปช่วยคนตัวเล็กที่โอบเขาพาดำผุดดำว่ายอยู่นานสองนานกระทั่งมาถึงที่นี่ โดยระหว่างทางเธอไม่ยอมบอกอะไรเขาเลย ส่วนตัวเขาก็พยายามสูดอากาศให้ได้มากที่สุดก่อนที่เธอจะพาดำน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งอยู่เคียงข้างกันโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา เลน็อกซ์แอบเหลือบสายตามองหญิงสาวที่ตอนนี้เปียกไปหมดทั้งตัว เสื้อผ้าแนบเนื้อจนเห็นไปถึงข้างใน แม้จะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์จะมาคิดเรื่องทะลึ่ง ทว่าเลน็อกซ์กลับลอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหาย
“พรุ่งนี้เจมส์ก็คงมาช่วยแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”
“แต่พี่เจมส์ไม่รู้นี่คะ”
“ถ้าติดต่อฉันไม่ได้ เจมส์จะให้คนออกตามหาทันที”
“อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ดีสิคะ ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าพรุ่งนี้จะทำอย่างไร”
จากนั้นทั้งสองคนก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขารู้ว่าเหตุการณ์นี้มันเกี่ยวข้องกับการลอบทำร้ายเขาในงานเลี้ยงเมื่อเดือนก่อน ทว่าเมื่อให้คนตามสืบกลับไร้ร่องรอย แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าเขาจะวางมือ ถึงอย่างไรก็ต้องสืบหาคนร้ายมาลงโทษให้ได้
เลน็อกซ์ที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นหันมองคนข้างกายที่ตัวสั่นระริก เธอโอบกอดตัวเองด้วยความเหน็บหนาว ทั้งๆ ที่ขึ้นน้ำมาได้สักพักเสื้อผ้าก็เริ่มแห้งแล้ว
“เฌอลินน์”
“คะ?”
หมับ!
“ทะ ท่านประธาน!” เสียงที่เคยหวานตอนนี้กลับแหบแห้ง เธอตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกชายหนุ่มโอบกอด
“อยู่เฉยๆ อยู่แบบนี้จะได้อุ่น”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
“อย่าดื้อสิ สั่นขนาดนี้ หน้าซีดปากซีดหมดแล้วยังมาบอกว่าไม่เป็นไรอีก”
“ก็ฉันไม่...”
“เงียบ...!”
ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดแนบแน่นมากขึ้น เขารับรู้ได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของหญิงสาวที่ร้อนขึ้น ส่วนเฌอลินน์เองก็ได้รับไออุ่นจากเขาทำให้เธอรู้สึกอุ่นขึ้นมาจริงๆ ในเมื่อไม่มีแรงขัดขืนเฌอลินน์จึงยอมให้เขากอดอยู่แบบนั้น
“เธอชอบจูบเหรอ”
“คะ?”
“เห็นเอาแต่จูบอยู่ได้”
“นั่นเพราะฉันส่งอากาศให้ท่านประธานต่างหากล่ะคะ”
“แต่ฉันชอบจูบนะ อยากจูบด้วย”
“...”
“ขอจูบได้มั้ย”
“ไม่ได้ค่ะ”
“ทำไม ไหนบอกยังไม่มีแฟน”
“ยังไม่มีแฟนแต่มีคนคุยแล้วค่ะ แล้วเราก็กำลังไปได้ดีด้วย อีกไม่นานถ้าเขาขอเป็นแฟนฉันก็คิดจะตอบตกลงค่ะ”
“งั้นฉันคงต้องรีบทำคะแนนสินะ”
“คะ? อื้อ!”
แล้วคนตัวเล็กก็ถูกขโมยจูบ เรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้าสู่โพรงปากของเธอไม่ได้จาบจ้วงเหมือนอย่างในจูบแรกที่ถูกเขาจูบ แต่มันกลับหอมหวานละมุนละไม ราวกับพยายามเอาอกเอาใจเธอ เขาถอนจูบออกอย่างอ้อยอิงแล้วสบตาคนในอ้อมกอดอย่างหวานซึ้ง
“ขออีกรอบนะ”
“ไม่...!”
เป็นอีกครั้งที่เฌอลินน์ถูกผู้ชายคนนี้ขโมยจูบ ผู้ชายที่ไม่เคยสนใจผู้หญิงจนคิดว่าชอบผู้ชาย ผู้ชายที่เธอเคยคิดว่าเป็นแฟนกับเจมส์บอดี้การ์ดของเขา อีกทั้งเธอยังเคยจิ้นและจินตนาการตอนพวกเขาใกล้ชิดกันอีก กลับกลายเป็นตัวเธอเองที่กำลังใกล้ชิดกับเขา
เฌอลินน์ไม่ได้ต่อต้านอีกต่อไป เพราะจูบของอีกฝ่ายนั้นอ่อนโยนจนคนตัวเล็กใจสั่น ริมฝีปากบดเคล้าราวกับกำลังเอาอกเอาใจเธอ เรียวลิ้นสำรวจไปทั่วโพรงปากหวานซ้ำแล้วซ้ำเล่า กวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กเพื่อดูดดื่มกับรสชาติของลูกอมที่หญิงสาวเพิ่มอมไปก่อนหน้านี้