วันต่อมา พบขวัญลางานหนึ่งวันเพราะต้องการรับลูกกลับบ้านด้วยตัวเอง ตลอดทางที่ขับรถกลับมาโดยมีสายพิณเป็นคนดูแลแทนคุณอยู่เบาะข้างๆ พบขวัญก็คอยมองรถข้างหลังตลอดเวลาว่าจะมีใครตามเธอมาหรือไม่
จนกระทั่งถึงบ้านเธอคงเครียดมากไปหน่อยเพราะแม้แต่เสียงร้องของแทนคุณที่ดังแผดจ้าเธอก็เหมือนยังไม่ได้สติ
“โอ๋ น้องแทนคะ เงียบนะคะถึงบ้านแล้ว สงสัยจะหิวนมค่ะคุณขวัญ” สายพิณบอกพร้อมกับเปิดประตูลงจากรถไปด้วย เมื่อพบขวัญปิดประตูรถเสร็จ เดินมาถึง สายพิณจึงรีบส่งให้
“หิวนมหรือเปล่าครับ มามี๊จะป้อนนมให้นะคนดี” พบขวัญลืมเรื่องทุกข์ไปสนิท เมื่อได้เห็นหน้าลูก แทนคุณก็ช่างเหลือเกินพอเห็นขวดนมเท่านั้นหนูน้อยที่กำลังร้องก็หยุดเสียงลงแล้วยิ้มกว้างยกมือจะคว้าขวดนม
“หิวมากล่ะสิ กินเก่งจริงๆ “
ได้หยอกล้อกับลูกทำให้เธอยิ้มออกมาได้ พบขวัญอุ้มลูกเข้าบ้าน แทนคุณดูดขวดนมไวมากไม่กี่นาทีก็หายไปเกือบสามออนซ์เหมือนจะหิวจก กระนั้นก็ไม่ลืมสั่งสายพิณ
“ป้าพิณปิดล็อกบ้านให้เรียบร้อยด้วยนะคะ สมัยนี้โจรขโมยเยอะ ขวัญไม่ค่อยไว้ใจ” พบขวัญให้เหตุผลไปด้วย ทั้งที่เหตุผลจริงๆคือเธอยังไม่วางใจโดมินิก พบขวัญมองสายพิณปิดล็อกบ้านเรียบร้อยก็อุ้มลูกกลับขึ้นห้อง เธอกำลังคิดว่าบางทีเธออาจขายบ้านหลังนี้แล้วไปหาที่อยู่ใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจจะตามมา
อะไรที่เป็นความเสี่ยงและเกี่ยวข้องกับแทนคุณเธอจะไม่มีวันยอมปล่อยให้เกิดขึ้น
“ขอโทษนะเท็ดที่ขวัญช่วยเท็ดได้แค่นี้ ขวัญไม่อยากเสียน้องแทนไป ไม่อยากถูกเขาข่มขู่บังคับจิตใจอีก” พบขวัญคิดพลางน้ำตาคลอที่จะหนีไปจากกรุงเทพฯ
พบขวัญติดประกาศขายบ้านจากป้ายที่ทำเองชั่วคราว เธอตอบคำถามเพื่อนบ้านว่าได้งานใหม่ที่เชียงใหม่เลยจะขายบ้านที่นี่แล้วไปซื้อใหม่ที่นั่น เพื่อนบ้านต่างบ่นว่าเสียดาย พบขวัญก็ได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ ส่วนสายพิณ พบขวัญก็เตรียมคำตอบไว้แล้ว
“ขวัญได้งานที่เชียงใหม่เลยอยากขายบ้านนี้ไปหาซื้อที่เชียงใหม่แทนค่ะ ป้าพิณไปกับขวัญนะคะ”
สายพิณดีใจเพราะบ้านเกิดอยู่ที่นั่นแต่ก็มีท่าทางลังเลก่อนตอบรับ “ป้าไปก็ได้ค่ะแต่คุณไม่ได้หนีใครแน่นะคะ ป้าเห็นคุณรีบขายบ้านแบบนี้ ป้ากลัวคุณไปทำอะไรผิดมา”
พบขวัญหุบยิ้ม “ขวัญบอกแล้วไงคะว่าไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าป้าพิณไม่สบายใจ ไม่ไปก็ได้นะคะ”
“ถ้าคุณขวัญยืนยันแบบนี้ป้าก็เชื่อค่ะ”
พบขวัญยิ้มสบายใจ หมดกังวลเรื่องบ้านไปเปลาะหนึ่ง เหลือแต่เรื่องงาน เธอจะรีบไปเขียนใบลาออกวันพรุ่งนี้ แล้วหางานใหม่ทำทันที จากนี้ไปชีวิตเธอก็จะกลับเข้าสู่ความสงบสุขอีกครั้งโดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เธอวาดฝันไว้ไม่มีทางเป็นจริง
“ผมยินดีให้ความร่วมมือกับคุณตำรวจครับ ผมเป็นนักลงทุนต่างชาติมาทำมาหากินในประเทศไทยก็ต้องเคารพกฎหมายไทยอยู่แล้วครับ ถ้าคุณตำรวจยังติดใจสงสัยอะไรก็เรียกตัวผมไปพบได้ครับ”
หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มมาเฟียเข้ามาลักตัวคนในกรุงเทพ ตำรวจไทยก็ดำเนินการทันที
ทว่าต้องได้กินแห้วไปเป็นลังเมื่อการตรวจค้นของตำรวจไม่พบอะไร กลุ่มนายตำรวจกำลังจะกลับออกไปแต่ท่าทางลังเลแล้วหันกลับมาใหม่ก็ทำให้โดมินิกที่ยืนรอส่งที่หน้าประตูต้องเลิกคิ้วสูง
โดมินิกได้กลิ่นไม่ดี แต่ยังยิ้มตอบได้อย่างเยือกเย็น
“ขอโทษนะครับมิสเตอร์ เมื่อกี้คุณแนะนำตัวเองว่าชื่ออะไรนะครับ”
“ผมโดมินิก เดฟ เฮลตันครับ คุณตำรวจมีอะไรสงสัยหรือครับ”
คิ้วหนาของนายตำรวจหนุ่มขมวดเข้าหากัน ใบหน้าบ่งบอกว่าใช้ความคิด “ก่อนหน้านี้ที่ผมติดต่อพ่อของคุณเจตนิพัทธ์ ทางนั้นบอกผมว่าคุณเจตนิพัทธ์ไปติดต่อเรื่องธุรกิจที่ประเทศอเมริกา เขามีนัดกับคุณโดมินิก เดฟ เฮลตัน เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และอาหารเสริมบำรุงร่างกาย”
โดมินิกฝืนยิ้มทั้งที่ในใจสบถด่าอีกฝ่ายที่แส่ไม่เข้าเรื่อง “นั่นคือผมเองครับ”
“แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ แล้วคุณเจตนิพัทธ์ไปไหน พวกคุณนัดเจรจาธุรกิจกันไม่ใช่หรือครับ”
โดมินิกแสร้งถอนใจ พลางนึกเข่นเขี้ยวพบขวัญที่สร้างเรื่องให้เขาต้องปวดหัว ตั้งแต่ที่ลูกน้องเขาคลาดกับเธอที่ศูนย์การค้าเพราะเขาต้องการความมั่นใจว่าเธอจะไม่ตุกติกแต่พบขวัญก็ทำมันจริงๆ เธอทำให้เขาไม่ไว้ใจเธอ แล้วต่อมาเขายังนึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าตลบหลังอย่างไม่กลัวเกรงด้วยการไปแจ้งความกับตำรวจ
เห็นหน้าใสๆ ท่าทางซื่อๆแบบนั้นไม่นึกว่าจะแสบขนาดนี้ เขาไม่น่าใจอ่อนให้เธอเลย ถ้าจับตัวได้คราวนี้เขาจะไม่มีทางปล่อยเธอรอดเงื้อมมือไปได้ เธอจะต้องถูกเขาลงโทษอย่างหนัก ด้วยวิธีการที่มีแต่เธอเพียงคนเดียวที่จะได้ไป
“ถ้าคุณเฮลตันยังไม่มีคำตอบถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอเชิญคุณไปที่สถานีตำรวจตอนนี้ได้ไหมครับ ผมขอสอบปากคำไม่นาน”
‘ยัยตัวแสบ ฉันถูกสอบสวนเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะไปล่าตัวเธอกลับมาสอบสวนบนเตียงของฉันแน่พบขวัญ’ โดมินิกคำรามคาดโทษใครอีกคนในใจ
พบขวัญเช็คข่าวของโดมินิกจากประชาสัมพันธ์ที่อยู่ด้านล่างเพ้นต์เฮ้าส์ เธอมาด้อมๆมองๆจนแน่ใจว่าไม่มีคนของเขาอยู่ที่นี่จึงเข้ามา ได้รับคำตอบว่าเขาไม่อยู่ และประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรที่จะเป็นการยืนยันว่าโดมินิกถูกจับไปแล้ว เธอลองโทรหาเจตนิพัทธ์อีกครั้งด้วยความเป็นห่วงก็ยังไม่สามารถติดต่อได้เหมือนเดิม ทุกอย่างคล้ายจะยังคลุมเครือไม่มีคำตอบ แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้า จะช้าไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว
พบขวัญเตือนตัวเองว่าต้องทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว เพราะเขามีอำนาจเงินที่ใช้ซื้อทุกสิ่งได้แม้แต่ความถูกต้อง ทุกอย่างกำลังไปได้ดีแล้วเหลือแต่รีบไปเขียนใบลาออก ส่วนเหตุผลที่กลับมาเขียนใบลาออกก็เพื่อจะได้รับเงินกองทุนสะสมที่สมัครไว้กับบริษัทมาเป็นค่าใช้จ่ายตอนที่ย้ายบ้านไม่เช่นนั้นเธอคงไม่กลับมา
รถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ขับฝ่าการจราจรมาจนถึงหน้าตึกสำนักงานในเวลาเกือบแปดโมง พบขวัญรีบลงจากรถ เพื่อจะได้จัดการธุระที่บริษัทฯให้เสร็จเรียบร้อย แล้วจะได้รีบกลับบ้านเก็บข้าวของเตรียมย้าย เนื่องจากกะทันหันเธอจะไปหาเช่าบ้านหลังเล็กๆอยู่ก่อน อย่างน้อยบ้านที่เธออยู่ตอนนี้ถ้าหากขายก็น่าจะได้สักหกล้านเนื่องจากเป็นบ้านเก่าของบิดามารดาที่ปลูกสร้างไว้อย่างดีบนเนื้อที่กว่าสองไร่ เธอจะนำเงินที่ขายบ้านได้ไปซื้อทาวน์เฮ้าส์เล็กๆอยู่ ส่วนเงินที่เหลือก็จะได้นำไปใช้หนี้ต่างๆให้หมดแล้วเก็บเป็นเงินออมให้แทนคุณ
พบขวัญวาดฝันอย่างสวยหรู กำลังเดินผ่านลานจอดรถของบริษัทฯเข้าสู่ตึกทำงาน หัวใจดวงน้อยก็ต้องตกไปอยู่ตาตุ่มเมื่อเห็นชายร่างยักษ์สองคนเดินตรงมา ไม่ทันหมุนตัวหนี เธอก็ถูกมือหนาเอื้อมมาปิดปาก เสียงหวีดร้องหายไปในลำคอ ความทรงจำสุดท้ายเห็นแต่ใบหน้าเล็กป้อมของลูกชายที่กำลังส่งมือมาให้เธอเอื้อมจับ