"ยังอีก...ยังไม่หยุดอีก คิดว่าฉันไม่กล้าทำหรือไง" ภูผาเอ่ยออกมาด้วยความหมั่นไส้ เขาก็ไม่กล้าลงโทษลูกน้องจริงๆ นั่นแหละ เพราะมันไม่ใช่ความผิดร้ายแรงอะไร เพราะความใจดีแบบนี้แหละ สมพงษ์ถึงแทบจะเล่นหัวเขาแล้วตอนนี้
"หยุดแล้วครับนายเชิญนาย เดินตรวจต่อได้เลยครับผมไม่กวนนายละ" เมื่อเห็นเจ้านายเริ่มมีอารมณ์ที่เปลี่ยนไป สมพงษ์ก็เลยปล่อยให้เจ้านายของเขาไปเดินตรวจตราตามปกติ
หลังจากที่ลูกน้องเอ่ยออกมา ภูผาก็พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินต่อไปเรื่อยๆ เพื่อไปดูในฝั่งของแปลงองุ่น ที่อีกไม่นานจะต้องส่งเข้าโรงบ่มไวน์แล้ว สายตาของเขามองผลผลิตที่มากกว่าทุกปีด้วยความพึงพอใจ ปีนี้นับว่าที่ไร่มีกำไรมากเหลือเกิน เขาคงจะแจกโบนัสพนักงานในไร่ มากกว่าทุกปีแน่ๆ เพราะทุกคนทุ่มเททำงานหนักเพื่ออะไรของเขา ไม่เช่นนั้นไร่เชิงเดือนแห่งนี้คงไม่ใหญ่โตเท่าทุกวันนี้ และตอนนี้เขายังขยายอาณาเขตไร่ออกไปอีกร้อยกว่าไร่ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่ที่เขาเพิ่งจะซื้อเพิ่ม
"ปีนี้ผลผลิต มากกว่าที่คิดเยอะนะครับนาย" ไผทผู้จัดการของไร่เดินเข้ามาหาเจ้านายของตนเองทันที
"ผมต้องขอบคุณคุณมากนะครับ สำหรับผลงานที่มันน่าพอใจแบบนี้" ภูผาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม เขาโชคดีเป็นอย่างมากที่มีไผททำหน้าที่ดูแลไร่ของเขาเป็นอย่างดี ทำให้ผลผลิตได้มากกว่าเป้าที่กำหนดเสียด้วยซ้ำ
"มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับนาย ว่าแต่ว่านายสนใจไปดู แปลงองุ่นพันธุ์ใหม่ที่ผมกำลังทดลองปลูกไหมครับ ตอนนี้ผมว่า มันกำลังไปได้สวยเลย" ไผทเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม พร้อมทั้งเชิญชวนเจ้านายของตนไปชมผลงานที่เขาภาคภูมิใจไม่น้อย
"นายครับ!! นายครับ!! เกิดเรื่องแล้ว" สนที่เป็นคนงานในไร่รีบวิ่งมาหาภูผาด้วยความตกใจ ส่วนไผทและภูผาที่กำลังสนทยากันอยู่นั้น ก็หันไปมองหน้าสนด้วยความสงสัย เหตุใดเขาจึงวิ่งมาด้วยท่าทางหน้าตาตื่นเช่นนั้น
"มีอะไรเหรอสน ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด" ด้วยเพราะเห็นว่าสนเหนื่อยหอบเพราะวิ่งมา
"ไอ้อมรน่ะสินายมันแย่แล้ว" สนยังไม่สามารถพูดได้ทั้งหมด เขาหอบหายใจออกมา ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ ส่วนภูผาก็สงสัยเป็นอย่างมากนายอมรเป็นอะไร เพราะนายอมรก็คือคนงานในไร่ของเขาเช่นกัน