ณ กระท่อมหลังน้อย
“นายซื้ออะไรมาเยอะแยะเต็มรถเลย”หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยความสงสัยเมื่อเห็นข้าวของเต็มท้ายกระบะ
“ก็เห็นอยู่ว่าของเยอะทำไมถึงได้นั่งดูเฉยๆไม่คิดจะช่วยกันขนของเข้าบ้าน”
“ก็เดี๋ยวนายจะหาว่าฉันยุ่งเลยขออยู่เฉยๆดีกว่า อีกอย่างฉันโดนล่ามโซ่อยู่”
เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าใกล้ค่ำแล้วเขาจึงตัดสินใจไขกุญแจให้หญิงสาว จากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันขนของที่อยู่ท้ายกระบะเข้าไปไว้ในบ้าน และในขณะที่ชายหนุ่มยกฟูกที่นอนเข้าไปไว้ในบ้านอย่างทุลักทุเลหญิงสาวจึงใช้โอกาสนั้นแอบหยิบกุญแจรถกระบะคันเก่าอย่างระมัดระวังไม่ให้เขารู้ตัว เมื่อได้กุญแจมาแล้วเธอก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีค่อยๆไขประตูรถกระบะ ส่วนชายหนุ่มที่จัดการวางฟูกที่นอนบนแคร่ไม้ไผ่เสร็จก็รีบเดินออกจากห้องเพื่อช่วยหญิงสาวขนของต่อ แต่แล้วเขาก็พบว่าเธอกำลังพยายามจะสตาร์ทรถยนต์เพื่อหนี
“ให้ตายเถอะมันขับยังไงเนี่ย!”หญิงสาวหายใจเข้าออกลึกๆแล้วตั้งสติเพื่อคิดหาวิธีสตาร์ทรถกระบะคันเก่า โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากระกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของเขา
“ให้ฉันสอนวิธีสตาร์ทมั้ย”ชายหนุ่มเปิดประตูรถออกแล้วยืนดูการกระทำของเธออย่างใจเย็น
“ไอ่บ้า! ฉันตกใจหมด”ส่วนหญิงสาวที่เห็นดังนั้นก็แสดงอาการตกใจพร้อมกับเอามือมากุมที่อกข้างซ้าย
“ฉันให้โอกาสเธอขับรถหนีภายในห้าวินาที ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง”ชายหนุ่มนับเลขไม่เร็วมากแต่หญิงสาวก็ยังไม่สามารถสตาร์ทรถหนีไปได้ ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงดึงกุญแจรถออกแล้วลากร่างผอมเพรียวลงจากรถอย่างไม่คิดถนุถนอม
“นายให้โอกาสฉันอีกสักนิดไม่ได้รึไง”
“ต่อให้ฉันให้โอกาสเธอเป็นครึ่งชั่วโมงเธอก็สตาร์ทรถคันนี้ไม่ติดหรอก เพราะฉันตั้งระบบที่ไม่มีใครสามารสตาร์ทรถคันนี้ได้ยกเว้นช่างที่ชำนาญมากๆ”
“แล้วก็หลอกให้ดีใจเล่น”
“เธอคิดว่าฉันโง่นักหรอ”
“เปล่า ฉันแค่คิดว่านายไม่รอบคอบ”
“กลับเข้าบ้าน”ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ส่วนเธอที่ได้ยินดังนั้นก็เดินลงจากรถแล้วกลับเข้าไปในกระท่อมหลังเล็กพร้อมกับเขา
“นายซื้อฟูกที่นอนให้ตัวเองแต่กลับไม่ซื้อให้ฉันเนี่ยนะ”เมื่อหญิงสาวเห็นฟูกที่นอนขนาดเล็กวางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ซึ่งเป็นที่นอนที่เขานอนเมื่อคืนเธอจึงเข้าใจว่าเขาเตรียมไว้สำหรับนอนเอง
“ไม่เห็นรึไงว่ามันวางไว้บนที่นอนเธอมันจะเป็นของฉันได้ยังไง”
“ก็เมื่อคืนนายนอนบนนั้น”
“งั้นคืนนี้เธอนอนข้างบนส่วนฉันจะนอนข้างล่าง”
“เอามันลงไปไว้ข้างล่างไม่ได้หรอ พอดีฉันไม่อยากนอนข้างบน”
“ให้นอนที่ไหนก็นอนไปเถอะอย่ามาเรื่องมาก”
“โอเค ฉันนอนข้างบนก็ได้”
“อ่ะ ทานซะ ทานเสร็จจะได้ไปอาบน้ำต่อ”ชายหนุ่มยื่นข้าวกล่องให้หญิงสาวพร้อมกับน้ำดื่มขวดเล็ก
“ถ้ากินแบบนี้สักสิบวันน้ำหนักขึ้นแน่”เมื่อหญิงสาวเห็นข้าวหมูกรอบที่อุดมไปด้วยไขมันเธอจึงบ่นพึมพำแล้วเลือกตักแต่ข้าวเปล่าเข้าปาก
“นี่เธอเต็มหรือเปล่า”ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็ส่ายหัวด้วยความหนักใจ
“นายอ่ะสิไม่เต็ม ซื้อแต่ของมันๆให้ฉัน”
“เธอจะอะไรนักหนากับเรื่องกิน ไหนบอกจะไม่เรื่องมากไง”ชายหนุ่มแสดงท่าทีรำคาญหญิงสาว
“ถ้าฉันเรื่องมากคงไม่กินข้าวเปล่าๆ”
“งั้นดีเลย ต่อไปนี้เธอกินแต่ข้าวเปล่าๆนะจะได้ไม่เปลืองเงินฉัน”
“ฉันกินอะไรก็ได้ที่ไม่มันเกินไป”หญิงสาวรีบอธิบาย
“เธอต้องพูดว่า กินอะไรก็ได้ที่มันถูกปากฉัน” ชายหนุ่มทำเสียงเล็กล้อเลียนหญิงสาว
“ฉันผิดอะไรที่เป็นคนรักสุขภาพ”
“ก่อนจะรักสุขภาพกายช่วยรักษาสุขภาพจิตของตัวเองก่อนเถอะ เห็นความเยอะของเธอแล้วฉันจะเป็นประสาท”
“นี่นายหาว่าฉันป่วยทางจิตหรอ”หญิงสาวที่ได้ยินดังนั้นก็แสดงท่าทีไม่พอใจแล้วมองหน้าเขาอย่างต้องการเอาเรื่อง
“ฉันคิดว่านะ”
“ฉันไม่ได้ป่วย แค่ยังไม่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ในตอนนี้ นายลองมาเป็นฉันมั้ยจะได้เข้าใจความรู้สึกกัน”หญิงสาวกล่าวกับชายหนุ่มอย่างต้องการให้เขาเห็นใจ
“ไข่ต้มมั้ยเดี๋ยวจะไปต้มให้”
“อืม”หญิงสาวพยักหน้าตอบตกลง ส่วนชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็ออกไปก่อไฟแล้วต้มไข่ให้หญิงสาว ไม่นานเขาก็เดินกลับเข้ามาหาเธอพร้อมกับไข่ต้มสองฟอง