พาสำรวจบ้านในมิติ

1287 คำ
นางฮั่วซื่อจึงร้องเรียกให้นางหงซื่อที่วิ่งออกมาอยู่ที่หน้าเรือน เข้าไปจัดการในห้องครัวแทน “ไม่มีปากหรืออย่างไร ทำไม่เป็นเหตุใดถึงไม่พูด ห๊า” นางชี้นิ้วต่อว่าหลินเยว่เสียงดัง “ท่านไม่ได้ถามข้าว่าจุดไฟเป็นหรือไม่ ท่านถามเพียงแค่ว่าข้าทำอาหารได้หรือเปล่า” นางเถียงออกมาเสียงเบา “โอวโยว เจ้า เจ้าโง่เสียจริง เพียงจุดเตาก็ทำไม่ได้ ยังจะมาเถียงข้าอีก” นางฮั่วซื่อคว้าไม้ที่อยู่ใกล้มือได้ก็วิ่งเข้ามาตีหลินเยว่ทันที นางจะวิ่งหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว จึงได้ถูกไม้หวดไปที่ลำตัวถึงสองที แต่พอจะหันไปแย่งไม้กลับมา เลี่ยงรุ่ยที่เห็นควันไฟจากเรือนของตนก็รีบร้อนกลับมาที่เรือน เพราะกลัวว่าหลินเยว่นางจะก่อเรื่อง มาถึงก็เห็นว่านางกำลังถูกท่านย่าทุบตีอยู่จึงได้เอาตัวเข้ามาขวางไว้ ทำให้ไม้ที่ฟาดลงมาอย่างแรงฟาดไปถูกหัวคิ้วของเขาจนเลือดไหลอาบออกมาอย่างน่าหวาดกลัว “เลี่ยงรุ่ย” หลินเยว่ร้องออกมาอย่างตกใจ นางรีบเข้าไปดูเขาทันที นางฮั่วซื่อโยนไม้ในมือทิ้งอย่างรวดเร็ว นางไม่คิดว่าหลานชายจะเอาตัวเข้ามาขวาง แล้วไม่คิดว่าจะตีโดนหัวคิ้วของเขาจนเลือดออกมามากเพียงนี้ “ท่านเป็นย่าของเขาจริงหรือไม่ เหตุใดต้องทุบตีจนได้เลือดด้วย” หลินเยว่ลุกขึ้นต่อว่านางฮั่วซื่อทันที “ผู้ใดใช้ให้เข้ามาขวางเล่า เหอะสมควรแล้ว” นางรีบเดินหนีไปที่เรือนหลักอย่างรวดเร็ว แม้จะทุบตีจางเลี่ยงรุ่ยมาไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยทำให้เขาเลือดออกมากเพียงนี้ อย่างมากก็เพียงช้ำในสองสามวัน (มันต่างกันตรงไหน) หลินเยว่ลากตัวจางเลี่ยงรุ่ยเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะพาเขาเข้าไปในมิติเพื่อทำแผล “ยังไม่ต้องถาม เข้าไปทำแผลด้านในก่อน” นางยังคงลากตัวเขาเข้าไปในบ้านของนาง เลี่ยงรุ่ยมองสำรวจบ้านอย่างแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นบ้านรูปแบบเช่นนี้ ทั้งข้าวของที่อยู่ด้านในก็ล้วนแปลกตาไม่น้อย หลินเยว่ให้เขานั่งรออยู่ที่โถงห้องรับแขก ที่เป็นโซฟาตัวยาว นางเดินเข้าไปด้านในเพื่อหาอุปกรณ์ทำแผล “นางนั่งดีๆ” นางเริ่มเช็ดแผล และใส่ยาให้เขา ยังดีที่ไม่ได้แตกเป็นรอยยาวจนต้องเย็บ เพราะนางคงไม่อาจจะเย็บให้เขาได้ เลี่ยงรุ่ยมองใบหน้างามที่ทำแผลให้เขาอย่างจริงจัง มือของนางสั่นอยู่ตลอดเวลา คงตกใจไม่น้อยกับเรื่องที่เกิดขึ้น “เรียบร้อยแล้ว” นางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ขอบคุณเจ้ามาก” “จะมาขอบคุณอะไรข้า เป็นข้าที่ต้องขอบคุณท่าน หากท่านไม่เข้ามารับไม้แทนข้า คนที่หัวแตกคงเป็นข้าเอง” เมื่อนึกถึงใบหน้าของนางฮั่วซื่อหลินเยว่ก็อดที่จะโมโหไม่ได้ “เอาเถิด กินข้าวกันดีกว่า” นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว จางเลี่ยงรุ่ยจึงได้เดินตามนางเข้าไปด้านใน เขาสนใจกับข้าวของที่นางใช้ไม่น้อย “สิ่งนี่คืออันใด” เขาชี้ไปที่ไมโครเวฟ ที่นางกำลังอุ่นอาหารอยู่ “ที่อุ่นอาหาร ดูนี่ เพียงแค่นำใส่เข้าไป แล้วกดปุ่มตรงนี้” นางดึงเขาเข้าไปใกล้ เพื่อจะสอนให้เขาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า นางยังต้มน้ำจากกาน้ำร้อน เพื่อชงกาแฟอีกด้วย “ที่ที่เจ้าอยู่ล้วนใช้ของเหล่านี้รึ” เขาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ใช่แล้ว ไว้ข้าจะสอนให้ท่านใช้ทุกอย่างที่อยู่ในนี้” เพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกไปวางบนโต๊ะทานข้าว หลินเยว่ชงกาแฟให้จางเลี่ยงหลงได้ลองดื่มด้วย “ท่านลองชิมของข้าก่อนว่ากินได้หรือไม่” เพราะว่านางกินกาแฟดำ ไม่รู้ว่าจะกินยากเกินไปสำหรับเขาหรือไม่ กลิ่นหอมของกาแฟดึงดูดความยากอาหารให้เลี่ยงไม่น้อย เขายกกาแฟดำของนางขึ้นจิบเล็กน้อย แต่ก็ต้องทำสีหน้าประหลาดออกมา “ฮ่า ฮ่า ท่านคงดื่มแบบข้าไม่ได้ รอสักครู่” นางนำแคปซูลกาแฟรสลาเต้ใส่เครื่องชง ก่อนจะนำมายื่นส่งให้เลี่ยงรุ่ยได้ลองดื่มอีกครั้ง ครั้งนี้จางเลี่ยงรุ่ยพอใจไม่น้อย เมื่อกาแฟที่เขาดื่มมีรสชาติกลมกล่อม ดื่มง่ายกว่ากาแฟดำของหลินเยว่มากนัก “ยังมีให้ลองอีกหลายรส ไว้ข้าจะทำให้ท่านลองทุกรสชาติก็แล้วกัน” นางยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหาร แต่เมื่อเห็นโต๊ะกินข้าว เลี่ยงรุ่นก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง เมื่อตรงกลางของโต๊ะมันสามารถหมุนได้ ไม่ว่าอาหารจะอยู่ไกลเพียงใดก็ไม่ต้องลุกขึ้นไปตัก เพียงแค่หมุนให้มาอยู่ตรงหน้าก็ได้แล้ว “ยังมีของประหลาดอีกมาก ไว้ท่านจะต้องตกใจอีกไม่น้อย” เมื่อทั้งสองกินเสร็จเรียบร้อย จางเลี่ยงรุ่ยจะเก็บไปล้างเช่นที่เขาทำทุกที ก็ถูกหลินเยว่นางร้องห้ามไว้เสียก่อน “ไม่ต้อง ท่านดูนี่” นางถือจาน แก้วที่ใช้แล้ว ไปวางลงในเครื่องล้างจาน พอกดปุ่มล้างให้มันทำงาน เพียงครู่เดียวจานชามก็สะอาดจนน่าประหลาดใจ “ช่างน่าอัศจรรย์นัก” เขาอดจะทึ่งไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนที่คิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้ ต้องเก่งกาจมากเพียงใด “เห็นหรือไม่ อะไรก็ง่ายไปเสียหมด” นางยังพาเขาเดินไปดูห้องซักล้าง ที่มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแห้ง โดยไม่ต้องนำไปตากแดด ทั้งยังพาไปดูห้องน้ำที่นางแสนจะภูมิใจอีกด้วย “หากท่านต้องการใช้ เพียงแค่นั่งขับถ่าย เมื่อเรียบร้อยแล้วก็กดปุ่มนี้” นางชี้บอกปุ่มด้านข้างที่กดของเสียที่อยู่ด้านในทิ้งไป และปุ่มฉีดล้างอัตโนมัติ ให้เขาเข้าใจทุกขั้นตอน “ท่านดูนี่” นางเปิดน้ำใส่อ่างอาบน้ำ พร้อมทั้งเปิดระบบน้ำวนและระบบฟองอากาศให้เขาได้ดูด้วย ในหัวของจางเลี่ยงรุ่ยมีแต่คำถาม ว่าผู้ใดกันที่สามารถสร้างสิ่งต่างๆ เหล่านี้ออกมาได้ เขาไม่อยากเชื่อว่าที่ที่นางจากมาจะรุ่งเรืองมากถึงเพียงนี้ เมื่อเดินสำรวจบ้านของหลินเยว่อยู่นาน จางเลี่ยงรุ่ยก็เกิดความกังวลขึ้น “ต้องออกไปได้แล้ว” “เพราะอันใด” นางมองเขาอย่างไม่เข้าใจ นางคิดว่าจะไปอาบน้ำเสียหน่อยแล้วค่อยกลับออกไป "หากข้ายังไม่ไปจัดการให้อาหารหมู อาหารไก่ จะเกิดปัญหาขึ้นได้” เขาไม่อยากจะให้นางโดนตำหนิไปกับเขาด้วย “วันนี้ไม่ต้องทำแล้ว ท่านเจ็บตัวมากเพียงนี้ยังต้องทำอีกรึ” นางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดเขาถึงต้องยอมนางฮั่วซื่อมากเพียงนี้ด้วย “อาเยว่ ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องถูกตำหนิไปด้วย” “เหอะ ผู้ใดสนกัน จะด่าข้าก็ด่าเถิด” นางเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอม “มิได้ ข้าเป็นสามีเจ้า ไม่อยากจะให้ผู้ใดว่าเจ้าได้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม