มีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังสั่น รบกวนสมาธิของคนหลับสนิทได้สองชั่วโมง มือหนากำลังคว้าเอามือถือตัวเองมากดปิดแจ้งเตือน
สายตาพลันเห็นข้อความจากเพื่อนแก๊งเสือเพลย์บอยกำลังคุยประเด็นหัวข้อบทสนทนาเรื่องของเขาอยู่ ตาสว่างทันที คนต้นเรื่องตั้งคำถามคือเจ้าของไนต์คลับอลองเซส
‘ไอ้เนี่ยยังไม่เลิกขุ้ยคุ้ยเรื่องเขาอยู่อีกเหรอ สงสัยต้องหาเมียให้ไอ้เจมส์เสียแล้วละ’
Karany : มีใครอยู่มั้ยวะ เพิ่งเลิกงานมา
ส่งข้อความเมื่อวานตอนตีหนึ่งของเช้าวันใหม่ เวลาประเทศอังกฤษแตกต่างจากประเทศไทยหลายชั่วโมง
James : กูยังอยู่ เหนื่อย เพิ่งไปซัมกับสาวมา ไอ้เซตคงหมดแรงกับกล่อมเมียเด็ก ปากบอกว่าไม่อยากแต่งงาน ที่ไหนได้เป็นแผนมันตั้งแต่แรก
Karany : กูเพิ่งรู้ว่าไอ้เซตมันร้ายกาจ ว่าแต่ไอ้เสือเข้าถ้ำจำศีลมันมุดหายหัวไปไหน ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
คนที่ไล่อ่านข้อความจนครบ เลื่อนถึงข้อความสุดท้ายส่งมาเมื่อเก้าโมงสี่สิบสามที่แล้ว ชายหนุ่มเปลือยท่อนบนพิมพ์ข้อความส่งเข้าไลน์เป็นการพูดคุยว่าเจ้าของยังอยู่
Tiger : กูเพิ่งตื่น จะกลับเชียงรายแล้ว ฝากถามไอ้เซตด้วยว่าจัดงานแต่งตอนไหนก็บอกด้วย กูจะส่งซองไปให้ มีธุระด่วน หายเข้าตัวเมืองกรุงเทพมานาน สงสัยเจ้าแดงมันคงคิดถึงเจ้าของแล้ว
ส่งไปไม่ถึงหนึ่งวิเสียด้วยซ้ำ อ่านแล้วหนึ่งคน เจมส์เข้ามาตอบบทสนทนาคนแรก
James : คนรักสันโดษอย่างไอ้เสือคงหาเมียตัวเองไม่ได้ คงเอาเจ้าแดงมาเป็นเมียแล้วล่ะ
พยัคฆ์ยักไหล่กับข้อความล่าสุดจากเจมส์ เพื่อนสนิทชอบดักคอรู้ทัน เจ้าแดงที่เขาว่าคือโคนมตัวโปรดเพศเมีย ซึ่งเจ้าของไร่องุ่นและมีฟาร์มโคนมเนื้อ ฟาร์มสัตว์เลี้ยงปีกทุกชนิด ตั้งอยู่จังหวัดเชียงราย ที่ดินนี้ได้รับการถ่ายทอดจากคุณตาของเขา
พยัคฆ์ผูกพันรักธรรมชาติ รักความสงบ เขาเป็นลูกครึ่ง เพราะพ่อแม่พบรักอยู่ต่างประเทศแล้วมีเขาออกมาเป็นลูกคนเดียว เขาได้รับความเท่าเทียมจากคนเป็นพ่อแม่ ใช้ชีวิตอิสระตามใจชอบ
เขาเป็นคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าเขาเป็นคนเทาๆ เข้ากับกลุ่มเพื่อนเสือเพลย์บอยได้ แต่ไม่ถึงกลับเลวระยำ
มือหนาโยนมือถือรุ่นล่าสุดลงบนเตียงรุนแรง ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าขนหนูหายเข้าห้องน้ำ วันนี้เขาจองตั๋วไฟล์เครื่องบินตอนบ่าย หาอะไรกินรองท้องเวลารอขึ้นเครื่องแล้วกัน
หลายชั่วโมงต่อมาที่ต้องนั่งนานๆ เมื่อยขาสำหรับพยัคฆ์ จากกรุงเทพฯ ลงมาจอดจังหวัดเชียงรายก็ทำให้ชายหนุ่มแทบเป็นขาตะคริว
“คุณเสือทางนี้ครับ”
มิ่ง คนสวนของไร่แสงจันทร์โบกมือทันทีที่เห็นร่างชายหนุ่มสูงใหญ่สะพายกระเป๋าเป้มาทางรถจิ๊ป รถประจำตัวของเจ้านายหนุ่ม
พยัคฆ์โยนเป้เข้าข้างในรถแล้วเอาตัวนั่งเบาะข้างของฝั่งคนขับรถ มิ่งรีบขึ้นรถและขับรถออกจากบริเวณนี้ กลัวว่าเจ้านายพาลหงุดหงิด อารมณ์เสีย
ระหว่างทางขับรถเพื่อไปถึงจุดปลายทาง พยัคฆ์ลดกระจกรถเพื่อรับลมเย็นจากธรรมชาติด้านนอก สองแถวข้างทางลูกรังมีแต่ป่าและแม่น้ำ ถัดมาก็มีไร่ปลูกชา เมล็ดกาแฟของเจ้าของที่อื่น
“ถึงแล้วครับเจ้านาย”
“ขอบใจมากมิ่ง ขอตัวเข้าบ้านก่อน”
พยัคฆ์ก้าวลงจากรถก่อนยืดเส้นยืดสายไล่ความเหนื่อยกับนั่งเครื่องบินลงมาต่อด้วยนั่งรถหลายชั่วโมง แต่ไม่ทันขาก้าวเดินเข้าบ้านก็ต้องร้องอุทานตกใจเมื่อมีสิ่งมีชีวิตสี่ขาวิ่งตัดหน้าเขาเกือบล้มฝุ่นคลุกดิน
“เฮ้ย!”
“อย่าวิ่งไปแกล้งพี่เสือสิลูก”
พยัคฆ์เหลือบหันไปมองทางต้นเสียงกำลังตะโกนเรียกเจ้าสุนัขขนฟูสีน้ำตาลวิ่งเข้ามาวนรอบตัวเขาจนเกือบเวียนหัว ส่งสายตาอ้อนปริบๆ เหมือนกับว่าตัวเองเป็นเจ้านาย มันก็เลยดีใจ
“หมาใครที่ไหนวะเนี่ย” เขาตั้งคำถาม
แพรชมพูวิ่งตามสุนัขน้อยออกมาจากบ้านพักคนสวน เธอเห็นมันกระดิกหางดีใจบางอย่าง ทำเหมือนว่าดีใจที่ได้เจอเจ้าของ เผอิญสบสายตาเจ้าของไร่ ซึ่งครอบครัวของเธอพักอาศัยอยู่รีบเบนหน้าหนี
เธอไม่ใช่เด็กกะโปโลหน้าสิวผดผื่นคนนั้นแล้ว
พยัคฆ์เพ่งเล็งพิจารณามองดี ๆ ผู้หญิงตรงหน้าผิวเนียนใส หน้าขาวไร้สิวผดผื่น ไร้ฝ้า ไม่มีแม้แต่จุดด่างดำ ถ้าชายหนุ่มไม่เห็นเธอมาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่อยากเชื่อว่าคนคนนั้นคือแพรชมพู ลูกสาวเพ็ญศิริ แม่ครัวประจำของแม่เขา
“แพรชมพู นั่นเธอเหรอ”
พอไม่ได้เจอกับแพรชมพูเมื่อสี่ปี ตอนนั้นภาพจำฝังติดตรึงในหัวคือเด็กหญิงถักเปียใส่ชุดนักเรียน กำลังขี่รถจักรยานเพื่อกลับจากโรงเรียน โชคร้ายเจอฝนตกหนักพร้อมเจอบ่อโคลนน้ำขัง
จากเด็กม.4 หน้าสิวผดผื่น ผิวแทนคล้ำเพราะเธอชอบตากแดดไม่ใส่เสื้อแขนยาวคลุมทับเข้าไร่องุ่น ผ่านมาสี่ปี แพรชมพูไปทำอะไรมา หน้าตาสวย ขาวเนียนเหมือนเด็กกรุงเทพฯ
แพรชมพูหน้ามุ่ยกับคำทักทายแรกของคนเปรียบเสมือนพี่ชายปากร้ายกลับใจดี เธอทำเป็นหูทวนลม ก่อนอุ้มสุนัขขึ้นมา กำลังจะเดินหันหลังเปลี่ยนเส้นทางบ้านพักคนสวน แต่ถูกมือข้างขวาคว้าจับเอาไว้
“ยายเด็กไม่มีมารยาท ฉันถาม เธอก็ต้องตอบคำถามฉันสิ ครอบครัวเธอเป็นลูกจ้างฉัน”
กลิ่นหอมจากตัวเธอเพราะเขาขยับเข้าใกล้อีกนิด และเผลอสูดดมกลิ่นหอมนั้นไม่ตั้งใจ ‘ยายเด็กนี้มีกลิ่นหอมตอนไหนวะ’
อาจเป็นเพราะว่าตอนก่อน พยัคฆ์รักษาระยะห่างจากลูกสาวหัวหน้าคนงานหรือคนงานหญิงคนอื่นเพื่อป้องกันข่าวเสียหายจากคนงานในไร่ เขาจึงไม่ได้ใกล้ชิดกับเด็กกะโปโลแบบนี้
“โฮ่ง โฮ่ง”
เพียงไม่ทันเขาเอ่ยปากถาม เสียงร้องของสุนัขขนฟูที่อยู่ภายในอ้อมกอดแพรชมพูดังขึ้นเป็นการทักทาย ไม่ใช่การเห่ากรรโชก
“หยุดเห่าฉันได้แล้ว นี่เธอเอาหมาปากมอมออกไปห่างๆ ฉันเลย”
พยัคฆ์ไม่ค่อยชอบสุนัข เพราะหมาน้อยตัวนี้เคยไปวิ่งเล่นแถวคอกไก่กับเป็ดที่เขาเลี้ยงไว้ขาย จนสัตว์ปีกเขาตื่นตัวกลัวหมด
แพรชมพูเดินคอตกอุ้มสุนัขตัวน้อยถูกดุกลับเงียบลง ทำหน้าหงอย เสียงออดอ้อนรู้สึกผิดกลับเข้าไปข้างในตัวบ้านพักคนสวน เขาเลิกสนใจยายเด็กตัวปัญหา
ทำเอาเขาปวดหัวอยู่เรื่อย
‘วันนี้ทำไมเหนื่อยมากกว่าทุกวันวะ’
บ้านของพยัคฆ์ตั้งอยู่ข้างในไร่แสงจันทร์ บ้านใหญ่หรูหราหรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ไม่แปลก เพราะตาของแม่เขาเป็นอดีตกำนัน มีชื่อเสียงเลื่องลือทั่วจังหวัดเชียงราย ถึงครอบครัวเขาจะรวย แต่เขาชอบทำตัวติดดิน
ครอบครัวเขารวย แต่เขาไม่รวยนี่น่า
“สวัสดีครับคุณป้าเพ็ญ คุณพ่อคุณแม่ล่ะครับ”
พยัคฆ์เข้ามาข้างในตัวบ้านรีบยกมือไหว้แม่ครัวเก่าแก่ของที่นี่
“สวัสดีค่ะคุณเสือ เจอลูกสาวป้าหรือยังคะ”
เพ็ญศิริชวนถามลูกชายเจ้านายของเธอพลางสวมกอด เธอเห็นพยัคฆ์ตั้งแต่เด็กจนโต เรียกได้ว่าเขาเกิดก่อนสี่สิบปี ป้าเพ็ญก็ตั้งท้องคลอดลูกสาวคนเดียว ซึ่งพ่อแม่พยัคฆ์รักเอ็นดูหนูแพรชมพู ผู้วิ่งเล่นซุกซนในไร่จนได้แผลเป็นประจำ
“เจอแล้วครับ ยังเหมือนเดิมเรื่องเสนอโผล่หน้ามาอยู่เรื่อย”
พยัคฆ์ผละออกห่างจากป้าเพ็ญศิริ มีคำถามมากมายตั้งอยู่ในหัวเกี่ยวกับเรื่องเด็กหน้าสิวผดผื่น ผิวคล้ำตากแดดบ่อย ทว่าตอนนี้กลับสวยขึ้นจนผิดแปลกสายตาแต่พับเก็บความสงสัยไว้
“ก็คุณเสือโผล่แวบไปแวบมาระหว่างไร่กับกรุงเทพฯ ตั้งสี่ปีแถมลูกสาวป้าก็ยุ่งๆ กับการเรียนตอนนั้นก็เลยไม่ได้เจอกัน แต่ยายแพรดูแลตัวเองดีขึ้นเลย แปลกใจว่าทำไมถึงอยากดูแลตัวเองให้สวย”
“ผมไม่อยากได้รู้เรื่องยายเด็กจอมปัญหานั้นเท่าไหร่ครับคุณป้า”
เพ็ญศิริพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนนำทางบอกทางห้องโถงกว้าง เดินไปอีกสองสามก้าวก็จะเจอพวกท่านนั่งรอลูกชายอยู่ ราวกับรู้อยู่แล้วว่าเขาจะกลับมา
“ฝากขึ้นไปเก็บไว้ข้างในห้องผมนะครับ ห้องผมก็เหมือนเดิมอยู่ใช่มั้ยครับป้าเพ็ญ”
พยัคฆ์หันมาเอ่ยถามป้าเพ็ญศิริ ขณะส่งกระเป๋าเป้ส่วนตัวน้ำหนักเบา จะถือของอะไรมากมายนอกจากเสื้อผ้าสองสามชุด แม่ครัวส่งยิ้มบาง
“ค่ะ”
เพ็ญศิริยังไม่ได้บอกให้เขารู้ว่าลูกสาวเธอเป็นคนอาสาขึ้นไปทำความสะอาดบนห้องนอนของพยัคฆ์ทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน แต่ชายหนุ่มสาวเท้าก้าวเข้าห้องโถงกว้างก่อน
“สงสัยลูกสาวป้าคงเหนื่อยเสียเปล่าซะแล้ว”
แม่ครัวบ่นอุบ ก่อนปลีกตัวเข้าห้องครัวทำงานตามหน้าที่ ระยะหลังคนเป็นแม่รู้เห็นว่าลูกสาวชอบอาสาขึ้นไปทำความสะอาดบนห้องพยัคฆ์ ลูกชายเจ้าของบ้าน
ทว่าคงไม่มีอะไรมากกว่าลูกสาวหัวหน้าคนงานกับเจ้าของไร่ที่ครองตัวเป็นโสดสนิท ไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหน หมกตัวอยู่กับฟาร์มโคนมมานานนับเดือน
แต่ใครจะรู้ว่าพยัคฆ์เป็นรักแรกของแพรชมพู ชอบมานาน ตั้งแต่สี่ปีก่อนได้มั้ง...