ตอนที่4 อย่ามายุ่ง | ไฟ&โบวี่

1537 คำ
"ใช่ฉันเอง" เมื่อรู้ว่าแน่ชัดแล้วว่าเป็นเขา โบวี่ก็ผละตัวออกห่างจากเขาทันทีด้วยท่าทางรังเกียจ ไม่ใช่แค่เขาที่รังเกียจเธอได้ เธอเองก็รังเกียจผู้ชายที่ชอบดูถูกผู้หญิงแบบเขาได้เหมือนกัน “นนนี่ไปกันเถอะ”ความมึนเมาก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง เธอเดินไปลากตัวเพื่อนชายใจหญิงของเธอที่กำลังนั่งหลับตาไม่รู้เรื่องอยู่ที่โต๊ะให้ลุกขึ้น ซึ่งเป็นไปด้วยความทุลักทุเลอย่างมาก เพราะถึงแม้เพื่อนเธอจะอยากเป็นผู้หญิงสักแค่ไหนก็ตาม แต่ร่างกายก็ยังเป็นผู้ชายอกสามศอกอยู่วันยังค่ำ ทำให้ผู้หญิงตัวเล็กแต่นมใหญ่แบบเธอไม่สามารถประคองเพื่อนลุกขึ้นได้ ภาพที่เห็นทำให้ไฟเดินเข้าไปหมายจะช่วยประคองเพื่อนของเธอ แต่กลับถูกหญิงสาวสะบัดตัวเพื่อนหนีไปอีกฝั่ง และเกิดเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นทั้งคู่ “โอ้ยยย!!!” “มึงก็ลุกขึ้นดี ๆ สิอีนนท์ ไหนบอกจะดูแลกูไงว่ะ ทำไมมึงเมาเหมือนหมาแบบนี้ ตัวก็หนักอย่างกับช้างน้ำ” โบวี่บ่นพึมพำ เจ็บก็เจ็บที่ล้มลงก้นกระแทกพื้น ตอนนี้ผู้ชายหลายคนที่ล้อมวงอยู่ตรงนั้น ก็อยากจะเข้ามาช่วยเธอ แต่ทว่าสายตาอำมหิตของไฟที่ส่งให้ ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะเข้าไปเสี่ยง ทะยอยกันเดินออกไปคนละทิศ คนละทาง เหลือก็แต่ทัช ผู้ชายที่ยืนพูดคุยกับเธอก่อนหน้า ที่ใจกล้าเดินเข้าไปพยุงเพื่อนของเธอขึ้นมา “เดี๋ยวพี่จะไปส่งเอง” “กูบอกมึงแล้วว่าอย่ายุ่งไงว่ะ”ไฟเดินเข้ามาผลักทัชที่ไม่ทันตั้งตัวจนล้มไปกองกับพื้น ซึ่งก่อนที่จะอะไรจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ ฉลามและเจไดก็เดินเข้ามากลางวงพอดี เมื่อทัชเห็นแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเขา นึกเสียดายที่ยังไม่ได้ชิมสาวน้อยแสนเซ็กซี่คนนี้ แต่วันพระก็ใช่ว่าจะมีหนเดียว ไม่แน่ต่อไปเขาอาจได้เจอเธอที่นี่อีกก็ได้ “ฝากไว้ก่อนเถอะ พวกเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”ทัชหมายมาดก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในฝูงชนที่กำลังวาดลวดลายกันอยู่หน้าเวที “กูฝากมึงไปส่งเพื่อนน้องเขาที”ไฟเอ่ยเสียงเรียบ ตอนนี้เขาโมโหยัยตัวดีตรงหน้าเขามาก เธอทำให้เขาอายที่ทำท่าเหมือนรังเกียจเขาต่อหน้าผู้ชายหลายคน นี่ถ้าเพื่อนเขาสองคนไม่เข้ามา ไม่แน่เธออาจยอมให้ผู้ชายคนนั้นไปส่งเธอกับเพื่อนแล้วก็ได้ “อย่ามายุ่งนะ เพื่อนของฉัน ฉันจะไปส่งเอง” “นี่เธออย่าดื้อนักได้ไหม เดินจะไม่ตรงทางอยู่แล้ว”โบวี่สะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของเขา ยังไงวันนี้เธอก็จะไม่ยอมให้เขาไปส่งเพื่อนเธอ “พี่มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้คะ หรือเห็นว่าก่อนหน้าฉันบอกว่าอยากได้พี่แบบนั้นเหรอ แต่เสียใจด้วยนะคะ ตอนนี้ฉันไม่อยากได้พี่แล้ว ผู้ชายอย่างพี่ใส่ถุงยาง ฉันยังคิดหนักเลย” พูดจบเธอก็ประคองนนนี่ออกมาทันที ไม่รู้ว่าระยะทางจากตรงนี้ถึงลานจอดรถจะไกลสักแค่ไหน แต่เพราะความโกรธ ทำให้เธอสามารถประคองเพื่อนมาจนถึงรถเธอได้สำเร็จ “ขึ้นไป ต่อไปกูไม่มากับมึงแล้วอีนนท์ อีเพื่อนเวร” ส่วนไฟที่ยังยืนอึ้งกับประโยคที่เธอพูดใส่หน้าเขา ร่างกายทุกส่วนของเขาชาวาบตั้งแต่ได้ยินประโยคนั้น มันเหมือนประโยคที่เขาพูดกับเจไดที่ลานจอดรถเมื่อวานไม่มีผิด หรือว่าเธอจะได้ยินที่เขาพูดเมื่อวาน วันนี้เธอเลยไม่สนใจและทำท่าทางแบบนั้นใส่เขา “กูว่าเมื่อวานน้องเขาได้ยินที่มึงพูดแน่เลยว่ะ”เจไดเองก็คิดแบบนั้น อะไรจะบังเอิญขนาดที่คนสองคนจะพูดประโยคเดียวกันได้ขนาดนี้ และท่าทางของน้องเขาก็บอกทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าโกรธที่ได้ยินแบบนั้น “เจ็บไหมล่ะ พอเธอพูดใส่หน้ามึงบ้าง กูบอกมึงแล้วว่าถ้าไม่ชอบหรือไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับมึง ให้เลิกพูดจาเหี้ย ๆ แบบนี้ได้แล้ว ปากมึงกำลังทำร้ายใจมึงเองรู้หรือเปล่า”ฉลามพูดออกมาอย่างไม่กลัวเพื่อนจะโกรธ เรื่องพวกนี้เขาเคยเตือนหลายครั้ง ไม่ใช่โบวี่เป็นคนแรกที่เพื่อนเขาพูดจาไม่ดีใส่ นิสัยปากเสียของมันกับผู้หญิงเป็นมานานแล้วตั้งแต่มัธยม แต่โลกใบนี้ก็ไม่ยุติธรรม ขนาดมันแสดงออกว่าไม่ชอบผู้หญิงขนาดไหน ก็ยังขยันส่งผู้หญิงสวย ๆ มาให้มันด่าได้ตลอด ไฟนิ่งคิดคำพูดเตือนสติของฉลาม ก่อนหน้าที่เพื่อนพูดแบบนี้เขาก็ไม่เคยรู้สึกถึงปัญหาของมัน แต่เหมือนครั้งนี้จะเป็นปัญหาของเขาแล้วจริง ๆ เมื่อคำพูดพวกนั้นมันย้อนกลับมาทำร้ายความรู้สึกของเขา แสดงว่าเมื่อวานที่เธอได้ยิน ก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเขาหลายเท่า เพราะเธอแสดงออกว่าชอบเขา แต่กลับโดนเขาพูดลับหลังเธอแบบนี้ ผู้หญิงที่ไหนก็คงไม่ชอบและเสียความรู้สึกกันทั้งนั้น “แล้วกูต้องทำยังไงว่ะ” ฉลามและเจไดหันขวับมาทันที เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเพื่อน พวกเขาสองคนแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าเพื่อนจะพูดประโยคนี้ออกมาได้ น่าจะในรอบสิบปีได้มั้ง ที่มันเริ่มมีความรู้สึกขึ้นมาบ้าง “ตอนนี้มึงต้องทำใจว่ะ น้องเขาเกลียดมึงไปแล้ว คิดดูนะ....” “…..” “ผู้หญิงที่พยายามหาเรื่องมาอยู่ใกล้มึง เดินผ่านหน้าคณะวิศวะ ทุกวันที่เห็นมึงนั่งอยู่ หรือแม้แต่ยอมเดินเป็นกิโลเพื่อมาจอดรถที่คณะเรา แล้ววันหนึ่งเธอก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ มันก็ชัดเจนแล้วว่าเธอไม่อยากยุ่งกับมึงแล้ว” ทุกเรื่องที่เจไดพูดคือเรื่องจริง ทุกคนในกลุ่มเห็นเหมือนที่เขาเห็นหมดทุกอย่างที่รุ่นน้องสาวทำ ก่อนหน้าที่จะถามไปเมื่อวานว่าที่เธอทำแบบนี้เพราะเธอชอบใครในกลุ่มพวกเขาหรือเปล่า และก็เป็นครั้งแรกที่เธอพูดว่าชอบไฟและอยากได้เพื่อนเขา แต่ก็น่าเสียดายที่เป็นวันสุดท้ายเหมือนกันที่เธอจะทำแบบนั้น ไฟนั่งเงียบ เขาแทบไม่ขยับตัว เขารู้มาตลอดว่าเธอทำแบบนั้นเพราะสนใจเขา เราสองคนเผลอสบตากันบ่อย ๆ เขาจะเห็นเธอยิ้มอย่างสดใสให้เขาเสมอ ในขณะที่เขาจะทำเป็นไม่สนใจเธอ เมื่อวานตอนที่เธอบอกว่าอยากได้เขา ตอนนั้นเขารู้สึกไม่ชอบใจที่เธอพูดแบบนี้กับผู้ชาย เพราะเขาคิดมาตลอดว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ทำให้เผลอพูดจารุนแรงใส่เธอ แล้วยังปากหมาเอาเธอไปนินทากับเพื่อนสนิทอีก ก็สมควรแล้วที่เธอจะเกลียดเขาจนไม่อยากเข้าใกล้ขนาดนี้ “มึงมีอะไรจะบอกกูไหมไอ้ไฟ”ไฟยกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเอง ตอนนี้เขาเครียดจนไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้แล้ว แต่ขาเขาก็ไม่มีแรงเดินออกไปจากตรงนี้เหมือนกัน “กูคิดว่า…กูน่าจะชอบเธอ” “กว่าจะรู้ตัวนะสัดไฟ”ฉลามต่อว่าเพื่อนออกมาอย่างไม่จริงจังนัก รู้สึกโล่งอกที่เพื่อนพูดความจริงออกมาสักที เรื่องนี้เขาสังเกตุมาสักระยะแล้ว ที่มันทำเป็นนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลาโบวี่เดินผ่านหน้าคณะ เพราะมันอายไม่กล้าสบตากับเธอ เขาแค่อยากรู้ว่ามันจะพูดความจริงออกมาตอนไหน เมื่อวานที่โบวี่มาขอเบอร์โทรมันแล้วเขาให้ไป เขาก็แค่อยากช่วยให้อะไรมันง่ายขึ้น แต่ใครจะคิดว่ามันไปนินทาน้องเขาแบบนี้ “นี่มึงรู้มาตลอดเหรอไอ้ฉลาม ว่าเพื่อนมึงชอบน้องเขา”เจไดที่ยังคงสงสัยอยู่พูดออกมา “มึงมันโง่ไอ้เจ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน มองไม่ออกได้ไงว่ะ” “ขอโทษครับพี่ฉลาม พอดีผมไม่ได้เสือกเรื่องคนอื่นเหมือนพี่ครับ โอ้ยยย!!!” “สัด!!! เดี๋ยวกูถีบ” “ไม่ใช่เดี๋ยวครับ มึงถีบกูแล้วไอ้สัด แล้วที่นี้จะเอายังไงต่อว่ะ” “ก็ให้มันไปบอกความรู้สึกกับน้องเขาสิว่ะ” “มึงก็รู้เพื่อนมึงมันเคยมีแฟนเสียที่ไหน งานนี้กูว่ายากว่ะ”เจไดพูดเหมือนสบประมาทไฟที่ยังนั่งนิ่งอยู่ “กูจะทำ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม