พินัยกรรมของคุณปู่
หลังจากคุณธีระทนายความประจำตระกูลอ่านพินัยกรรมของคุณปู่จบลงทินภัทรก็มีสีหน้าเครียดกว่าทุกคนที่อยู่ในห้อง
“คุณลุงธีระครับ ตอนที่คุณปู่เขียนพินัยกรรมคุณปู่มีสติดีใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถามออกมาอย่างไม่เกรงใจเพราะเขารู้สึกว่าพินัยกรรมนั้นมันไม่สมเหตุสมผลและไม่ยุติธรรมกับเขาเลย
“ทินทำไมไปว่าคุณปู่แบบนั้น ตอนที่คุณปู่ท่านป่วยจนถึงท่านเสียชีวิตท่านก็มีสติดีมากและพูดจารู้เรื่องมาตลอด” คุณย่าอรุณีว่าหลานชาย
“คุณย่าครับแต่พินัยกรรมมันผิดปกติมากๆ เลยนะครับคุณย่าจู่ๆ คุณปู่จะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ได้ยังไง”
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหนนะ ทินเธอเป็นหลานสาวของคุณอำนาจเพื่อนสนิทของคุณปู่” คุณอรุณีอธิบายให้หลายชายฟังอย่างใจเย็น
“คุณย่าครับนี่มันสมัยไหนแล้วยังจะมีการคลุมถุงชนอีกเหรอผมไม่ยอมหรอกนะครับ ผมยังไม่อยากแต่งงานกับใครทั้งนั้น”
“ถ้าคุณทินณภัทรไม่ทำตามพินัยกรรมที่คุณปู่ระบุไว้ สมบัติทุกอย่างของคุณปู่ก็จะถูกยกให้กับฝ่ายนั้น” คุณธีระทนายบอกกับชายหนุ่มอีกครั้ง
“ลุงธีระครับเราแก้พินัยกรรมไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้หรอกครับมันผิดกฎหมาย”
“แต่ในห้องนี้ก็มีแค่คุณลุงกับผู้ช่วย คุณย่า คุณอาและผม พวกเราก็คนกันเองทั้งนั้น คุณลุงช่วยผมไม่ได้เหรอครับ” ทินภัทรขอร้องเพราะเขาไม่อยากจะแต่งงานตามที่คุณปู่เขียนไว้ในพินัยกรรม
“ผมทำแบบนั้นไม่ได้ครับผิดทั้งกฎหมายผิดทั้งจรรยาบรรณวิชาชีพและที่สำคัญมันจะทำให้ผมผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณปู่ของคุณไว้ ผมเป็นทนายต้องทำตามคั้งย่างเคร่งครัดครับ”
“คุณย่าช่วยผมหน่อยครับ” เมื่อขอร้องทนายไม่ได้เขาก็หันมาขอร้องคุณย่าแทน
“ย่าก็ไม่รู้จะช่วยทินยังไงนะ”
“อาว่าทินลองไปคุยกับฝ่ายผู้หญิงก่อนสิเผื่อว่าทางนั้นก็อยากจะแต่งเหมือนกัน” วศินผู้เป็นอาเสนอ เรื่องนี้เขาไม่เดือดร้อนอะไรเลยเพราะบิดาของเขาได้มอบหุ้นและที่ดินกับเขาก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตเขาจึงไม่มีส่วนในสมบัติที่เหลือของท่าน
“แล้วถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอมแต่งล่ะครับลุงธีระ”
“ถ้าฝ่ายนั้นไม่ยอมแต่งก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องทำให้เธอยอมแต่งงานครับ”
“แบบนี้ผมก็แย่น่ะสิถ้าเธออยากจะได้สมบัติของคุณปู่ไปคนเดียว”
“ไม่หรอกครับ เท่าที่ผมได้คุยกับคุณปู่ของคุณท่านบอกว่าคุณอำนาจเองก็อยากให้หลานสาวของเขาแต่งงานกับคุณทินภัทรเหมือนกัน”
“เขาจะยอมเหรอครับ”
“ทางนั้นเขาก็คงมีวิธีบังคับเธอเหมือนกันครับ”
“มีทางไหนที่พอจะทำให้งานแต่งถูกยกเลิกไหมล่ะคุณทนาย ฉันไม่อยากให้หลานชายแต่งงานกับคนที่เขาไม่รักหรอกนะ” คุณอรุณีเห็นใจหลานชายอยู่ไม่น้อย
“คุณอรุณีครับในพินัยกรรมระบุไว้ว่าคุณทินภัทรจะต้องแต่งงานกับหลานสาวของคุณอำนาจและมีลูกชายด้วยกันสมบัติทั้งหมดถึงจะกลายเป็นของคุณทินภัทร ถ้าเกิดมีการยกเลิกการแต่งงานสมับติก็จะตกเป็นของหลานสาวคุณอำนาจ คุณทินภัทรจะได้แค่เงินเดือนอยู่แต่ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของท่านเลยแต่ถ้าแต่งงานแล้วไม่มีลูกภายในห้าปีและสมบัติก็จะแบ่งครึ่งครับ”
“แล้วถ้าผมไม่อยากได้สมบัติของคุณปู่ ผมก็ไม่ต้องแต่งงานใช่ไหมครับคุณลุง”
“ใช่ครับ”
“ถ้าอย่างงั้นผมไม่เอาก็ได้ผมคิดว่าผมสามารถสร้างทุกอย่างขึ้นมาเองได้ไม่ต้องง้อสมบัติของคุณปู่หรอก”
ทินภัทรพูดอย่างหัวเสียเพราะเขาเป็นคนช่วยคุณปู่บริหารบริษัทมานานหลายปีแต่พอท่านเสียชีวิตเขากลับไม่ได้สมบัติอะไรของท่านเลย
“ทิน ย่ารู้นะว่าทินเป็นคนเก่งมีความสามารถและบริษัทที่ทินเปิดกับเพื่อนก็กำลังไปได้ดี แต่ทินลองนึกถึงหัวใจของปู่และพ่อของทินบ้าง ปู่กับพ่อช่วยกันสร้างบริษัทจนเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้แล้วจู่ๆ จะให้มันไปอยู่ในมือของคนอื่นทินคิดว่าปู่จะรู้สึกยังไง ที่น้ำพักน้ำแรงของท่านสุดท้ายแล้วก็จะกลายไปเป็นของคนอื่น”
คุณอรุณีกล่อมหลานชายเพราะถ้าหากทินภัทรตัดสินใจแบบนั้นจริงๆ สมบัติที่สามีเธอพยายามสร้างมามันก็จะตกไปให้กับหลานของคุณอำนาจซึ่งเธอเองก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เธอคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยไม่ใช่ว่าเธอห่วงสมบัติแต่สมบัติมากมายขนาดนั้นมันก็ควรจะเป็นของลูกของหลานไม่ใช่ยกให้คนอื่น
“คุณย่าครับผมจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ครับ”
“เพื่อรักษาสมบัติของคุณปู่ไว้มันคงไม่หนักหนาอะไรหรอกลูก ทินแต่งงานกับเธอรีบมีลูกกับเธอจากนั้นก็หย่า”
“ผมกลัวว่าเธอจะไม่ยอมหย่าสิครับคุณย่าแล้วการสมบัติทุกอย่างก็จะกลายเป็นของเธอ”
“ย่าว่าเราก็คงต้องตกลงกับก่อนนะ”
“แต่การมีลูกไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ระหว่างนั้นชีวิตผมจะเป็นยังไงผมคงเหมือนคนตกนรกทั้งเป็น”
“คุณทินภัทรอย่าคิดลบแบบนั้นสิครับบางทีอาจจะมีความสุขก็ได้เพราะผู้หญิงที่คุณปู่ให้คุณทินแต่งงานด้วยเธอหน้าตาก็สวยใช้ได้ทีเดียว”
“ผมเจอผู้หญิงสวยมาเยอะแล้วครับคุณลุง”
“ลุงรู้ว่าคุณทินภัทรผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่จะลองคบกับเธออีกสักคนก็คงไม่แปลกอะไรหรอกนะครับ ลองให้โอกาสตัวเองได้รู้จักเธอ ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันดีไหม จากนั้นก็แต่งงานกับเธอมีลูกชายหนึ่งคนตามที่คุณปู่ระบุไว้ตามพินัยกรรมแล้วหลังจากนั้นจะตัดสินใจยังไงก็ตามใจคุณเลยครับ”
“คุณลุงธีระพูดง่ายนี่แต่ผมต้องขาดอิสระนานเลยนะครับ”
“แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันก้าวหน้าแล้วนะเราสามารถให้คุณหมอช่วย ให้การตั้งครรภ์เร็วขึ้นรวมถึงเลือกเพศได้อามีเพื่อนเป็นหมอเดี๋ยวอาจะช่วยเอง” คุณวศินเสนอทางช่วยหลานชาย
“ขอโทษนะครับคุณวศินแต่ในพินัยกรรมก็ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าการตั้งครรภ์ต้องเป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น” คุณธีระอธิบายอีกครั้ง
“แล้วถ้าเกิดผมแต่งงานมาแล้วมีแต่ลูกล่ะครับ ผมคงไม่ต้องทนอยู่กับเธอตลอดชีวิตเหรอ”
“สงสัยคุณทินภัทรจะฟังที่ลุงพูดไม่หมดนะครับ พินัยกรรมข้อสุดท้ายระบุไว้ว่าถ้าหากคุณแต่งงานกับหลานสาวของคุณอำนาจห้าปีแล้วยังไม่มีลูกด้วยกันท่านก็จะยกสมบัติให้คุณทินภัทร ครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็จะยกให้กับหลานสาวของคุณอำนาจ”
“ไม่มีทางหรอกสมบัติของคุณปู่ที่ผมช่วยหามาจะแบ่งให้คนอื่นได้ยังไง”
“ย่าก็ไม่เห็นด้วยเลย สมบัติครึ่งหนึ่งมันก็เยอะนะ”
“ถ้าคุณทินภัทรไม่อยากให้สมบัติทั้งหมดตกไปอยู่ในมือของคนอื่นคุณก็ต้องรีบแต่งงานกับเธอและมีลูกกับเธอทางเลือกมันมีแค่สองทางครับ” ทนายความอธิบายให้เขาฟังอีกครั้ง
“แล้วถ้าระหว่างแต่งงานเธอขอหย่าล่ะครับ”
“ถ้าเธอเป็นคนขอหย่าสมบัติทั้งหมดจะเป็นของคุณครับแต่นั้นต้องผ่านไปแล้วหนึ่งปีนะครับ”
คำตอบของทนายประจำตระกูลทำให้ทินภัทรพอจะมองเห็นทางออก เขาจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นขอหย่าจากเขาให้ได้
“แล้วผมต้องแต่งงานตอนไหนครับลุงธีระ”
“แล้วแต่คุณทินภัทรเลยครับอยากแต่งตอนไหนก็ได้แต่ทางที่ดีก็ควรไปเจอกับหลานสาวของคุณอำนาจก่อน”
“ทางนั้นเขารู้ตัวไหมครับว่าจะต้องแต่งงานกับผม”
“ผู้ใหญ่รู้ครับ แต่หลานของคุณอำนาจจะรู้หรือเปล่าผมเองก็” แน่ใจ”