เพียงแค่เห็นหน้า

1368 คำ
เสียงเคาะประตูในเวลาหลังเลิกงานทำให้ซีอีโอหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนคิ้วขมวดเข้าหากันเพราะจำได้ว่าตนเองบอกเลขาให้กลับบ้านไปพักผ่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน “เข้ามา” เสียงเข้มตะโกนบอกก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ “งานยุ่งเหรอวะ” “เฮ้ย ไอ้วิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไหนว่าทริปยุโรปจะไปครึ่งเดือน” พีรกันต์ถามเพื่อนด้วยความสงสัยเพราะธนวินท์บอกเขาเองว่าจะพาแฟนไปเที่ยวยุโรปครึ่งเดือนแต่นี่มันผ่านมาแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น “พ่อไม่สบายไอ้นุโทรไปบอก” “คุณลุงเป็นอะไรมากไหม แล้วตอนนี้คุณลุงอยู่ที่ไหน” “หมอบอกว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหารตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” เขาบอกชื่อโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยในเรือนจำให้เพื่อนฟัง “ย้ายมาที่นี่สิ” “อย่าเลยกันต์ ทางเรือนจำเขามีกฎระเบียบของเขา” “ลองคุยกับผู้คุมดูสิ บางทีเขาอาจจะยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษนะ พ่อมึงอายุมากแล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะรับโทษครบ” บิดาของธนวินท์ต้องโทษคดีปั่นหุ้นและศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปีซึ่งอีก 4 เดือนก็จะครบกำหนดปล่อยตัว “กูไม่อยากยุ่งเท่าไหร่” “งั้นก็ตามใจมึงนะ แล้วเขาให้ไปเยี่ยมไหม” “อือ” “มึงไปเยี่ยมมาแล้วใช่ไหม” “กูก็คิดเอาไว้ว่ามาถึงจะไปเยี่ยมเพราะเป็นห่วงแต่พอเห็นรูปที่ทนายส่งมากูก็เลยเปลี่ยนใจ” “ทำไมวะ” “มึงดูเอาเองก็แล้วกัน” ธนวินท์ส่งรูปที่นุกูลทนายของครอบครัวให้กับพีรกันต์ดู “เธอชื่ออะไร” “ก็น้าปรางเมียน้อยพ่อกูไง กูว่าไม่ได้ป่วยอะไรมากหรอกน่าจะยัดเงินให้หมอเพื่ออยากจะออกมาหากันมากกว่า” “กูรู้ว่านั่นคือน้าปรางเมียน้อยพ่อมึงแต่ที่ถามว่าชื่ออะไรกูหมายถึงพยาบาลที่อยู่ด้านหลัง” “ไม่รู้สิ ทำไมสนใจเหรอ” ธนวินท์ถามอย่างรู้ทันเพราะถ้าพีรกันต์ถามแบบนี้ก็แปลว่าชายหนุ่มกำลังสนใจ “มากด้วย” “กูก็เห็นมึงพูดแบบนี้ทุกครั้งที่เจอผู้หญิงสวย” “คนนี้สนใจจริง น่าจะแม่ของลูกเลย” “นั่นก็มากไป” “ทำไงดีกูอยากเจอ” พีรกันต์เจ้าชู้และคบผู้หญิงไปทั่วแต่ยังไม่เคยมีใครทำให้เขาสนใจได้มากขนาดนี้ แค่เพียงเห็นหน้าเขาก็รู้สึกถูกชะตา หญิงสาวในรูปหน้าคล้ายกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยเจอเมื่อหลายปีก่อน “ถ้าอยากเจอก็ไปเยี่ยมพ่อกูสิ ไปแทนกูด้วย” “แล้วมึงจะไม่ไปดูเขาหน่อยเหรอ” “ก็เห็นอยู่ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากจะไปดูให้เสียเวลาทำไม ไหนๆ มึงก็อยากไปเจอพยาบาลอยู่แล้วกูก็ฝากมึงเยี่ยมเลยก็แล้วกันนะ” “ได้เลย” พีรกันต์รีบเก็บของบนโต๊ะทันที “มึงจะรีบไปไหน” “ก็ไปเยี่ยมพ่อมึงไง” “ไม่ทันแล้วโรงพยาบาลรัฐเขาให้เยี่ยมเป็นเวลา ถ้าอยากไปจริงก็ไปพรุ่งนี้เที่ยง คืนนี้มึงไปกินเหล้ากับพวกกูก่อน” “ไอ้นุไปด้วยไหม” “ไปสิ มึงไปเจอมันก็ดีพรุ่งนี้จะได้ไปพร้อมกันเลย” “มึงจะไปที่ร้านเลยไหม” เขาหมายถึงผับที่ตนเองและเพื่อนหุ้นกันลงทุนโดยมีอธิษหรือเกื้อเป็นคนบริหาร “ไปเลยสิ กูติดรถมึงไปนะ” “มึงกะเมาเต็มที่ใช่ไหม” เพราะทุกครั้งที่ธนวินท์อยากจะดื่มหนักเขาก็มักจะไม่เอารถไปเองเนื่องจากขากลับจะได้ให้พีรกันต์ไปส่งที่คอนโดซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้านพอดี “ไม่ได้เมานานแล้วคืนนี้ขอหน่อยก็แล้วกัน มึงจะเมาด้วยไหมล่ะ กูจะได้บอกไอ้นุไปส่งเราสองคน” “ไม่ล่ะ กูอยากพักตับบ้าง” พีรกันต์นั้นดื่มหนักมาหลายปีตอนนี้จึงอยากจะเพลาๆ ลงบ้าง “พักได้มันก็ดี” อดีตหมอโรคทางเดือนอาหารและตับที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์บอกเพื่อน “มึงล่ะ เมื่อไหร่พัก” “ขออีกนิดน่าหลังแต่งงานกูก็คงได้พักยาว” “ถึงมึงไม่อยากพักเจ้าเอยแฟนมึงก็ต้องบังคับอยู่ดี” “ก็เพราะกูรู้ไง ช่วงนี้กูเลยกินเต็มที่” พีรกันต์และธนวินท์มาถึงผับก็ตรงไปยังบริเวณชั้นสองซึ่งตอนนี้เพื่อนสนิทของพวกเขามาถึงก่อนหน้าแล้ว เด็กเสิร์ฟของร้านรีบชงเครื่องดื่มมาส่งให้อย่างรู้งาน “เป็นไงบ้างวะวีร์ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอมึงเลย “งานยุ่งนิดหน่อย สาขาใหม่กำลังจะเปิดเดือนหน้า” วีรวิชญ์เจ้าของสถาบันเสริมความงามที่มีสาขาไปทั่วประเทศตอบด้วยใบหน้าที่อิดโรย เพราะช่วงนี้สาขาใหม่กำลังจะเปิดตัวและงานบางอย่างมันก็ไม่ลงตัว “มึงก็ขยันเปิดสาขาจริงนะ” “น้ำขึ้นกูก็ต้องรับตัก มึงอย่าว่าแต่กูเลยมึงก็ขยันไม่แพ้กูหรอก เข้าเวรตั้งหลายโรงพยาบาล” “กูไม่มีบริษัทเหมือนพวกมึงกูก็เลยต้องขยันหน่อย” เมฆาเป็นเพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่จบแพทย์มาแล้วยังทำงานตามที่เรียนมา ส่วนพีรกันต์นั้นเรียนจบแพทย์แล้วก็มาต่อบริหารโดยยอมเอาเงินส่วนใช่ทุนให้กับรัฐบาล เช่นเดียวกับธนวินท์และวีรวิชญ์ที่ชดใช้ทุนแล้วออกมาทำธุรกิจส่วนตัว “กูยอมรับเลยว่ามึงขยันจริงแต่ก็ควรแบ่งเวลาบ้าง ถ้ายังทำงานหนักแบบนี้เมื่อไหร่จะมีแฟน วันๆ เจอแต่คนไข้กับพยาบาลไม่เบื่อเหรอเมฆ” นุกูลที่รู้ความเป็นไปของเพื่อนดีกว่าใครก็พูดขึ้น “มันก็มีเบื่อบ้าง แต่พยาบาลที่กูเจอก็สวยๆ ทั้งนั้นมันเลยไม่เบื่อเท่าไหร่” เมฆาตอบไปตามความจริง “เออใช่กูเกือบลืมไปเลย” พีรกันต์เพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้ตนเองก็กำลังสนใจพยาบาลอยู่ก็พูดขึ้นมาจนเพื่อนพากันตกใจ “นึกอะไรได้” อธิษที่นั่งใกล้ที่สุดถามขึ้น “กูมีพยาบาลคนหนึ่งอยากรู้จัก คนนี้ไงมึงรู้จักไหม” เขาเอารูปที่ธนวินท์ส่งให้ทางไลน์ยื่นให้กับเมฆาดู “สวยนี่หว่า น่าจะพามาเป็นพรีเซนเตอร์นะ” วีรวิชญ์ชะโงกหน้ามาดูก่อนใครแล้วพูดขึ้น “ว่าไงหมอเมฆมึงรู้จักไหม” “หน้าคุ้นๆ นะ น่าจะอยู่วอร์ดMedชาย” เขาหมายถึงวอร์ดผู้ป่วยอายุรกรรมชาย “ใช่แล้ววอร์ดนั้นแหละ” “มึงรู้ได้ยังไงกันต์” “ก็พ่อไอ้วินแอดมิทอยู่ที่นั่น ว่าแต่มึงรู้จักใช่ไหม” “ก็เจอตอนไปราวน์แต่ไม่สนิท” เมฆาเป็นหมออายุรกรรมประจำโรงพยาบาลจึงได้เจอกับพยาบาลแผนกนี้อยู่เกือบทุกวันแต่ก็ไม่สนิทกับใครเป็นพิเศษและพยาบาลก็มีมากจนจำชื่อได้ไม่หมด “ถามทำไมหรือว่าสนใจเข้าแล้ว” “โสดไหม” “กูก็บอกไปว่าไม่สนิท” “มึงนี่พึ่งพาไม่ได้เลยนะเมฆ” “ถ้ามึงเจ็บป่วยแล้วกูไม่รักษามึงค่อยพูดว่ากูพึ่งไม่ได้ แต่นี่มันคนละเรื่องกันเลย” เมฆาบ่นอย่างไม่จริงจังนัก “มึงสนใจจริงเหรอกันต์” วีรวิชญ์เห็นท่าทางของเพื่อนที่ดูจริงจังก็ถามขึ้น “สนใจสิ พรุ่งนี้กูจะไปเยี่ยมพ่อไอ้วินมึงไปกับกูด้วยนะนุ” “ทำไมกูต้องไป” “ก็มึงต้องไปเยี่ยมคุณลุงแทนไอ้วินไม่ใช่เหรอ” “กูนึกว่ามันกลับมาแล้วจะไปเยี่ยมพ่อเอง” นุกูลกันมามองธนวินท์ซึ่งนั่งทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับอาการป่วยของบิดา “ไม่ล่ะกูไม่อยากเจอน้าปราง” ธนวิทย์กับแม่เลี้ยงไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่เจอกันทีไรก็ต้องปะทะคารมกันอยู่ตลอด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม