ลูกแกะหลงฝูง

1229 คำ
ยิ่งดึกบรรยากาศก็ยิ่งครึกครื่น หกหนุ่มนั่งดื่มบนชั้นสองแต่สายตาก็จับจ้องลงมาทางด้านล่างซึ่งวันนี้มีสาวๆ ให้พวกเขามองละลานตาไปหมดเนื่องจากเป็นคืนเลดี้ไนท์ทางร้านจะมีส่วนลดให้กับสาวๆ เป็นพิเศษส่วนหนุ่มๆ ที่มาในคืนนี้ก็มักจะออกมาล่าเหยื่อสาวๆ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนุ่มขาประจำกับสาวหน้าใหม่ “ดูผู้หญิงกลุ่มนั้นสิ สวยกันทั้งกลุ่มเลยวะ น่าชวนมานั่งคุยชะมัดเลย” วีรวิชญ์มองแล้วก็นึกสนุกตามประสาหนุ่มโสด “กูว่ามึงคิดช้าไปนะวีร์” นุกูลหัวเราะร่วนเมื่อเห็นว่าสาวๆ กลุ่มนั้นกำลังมีหนุ่มเดินเข้าไปจีบ “รอดูก่อน เดี๋ยวเขาก็ถอย” “มึงรู้ได้ยังไงวะเกื้อ” วีรวิชญ์มองหน้าอธิษหุ้นส่วนที่รับหน้าที่บริหารผับถามด้วยความแปลกใจ “ก็ไอ้คนที่เข้าไปจีบนะมันขี้โม้มาก ผู้หญิงเดี๋ยวนี้เขาฉลาดมองออกว่าของจริงเขาไม่โม้กันหรอก” แล้วก็เป็นอย่างที่อธิษพูดเพราะผ่านไปห้านาทีผู้ชายคนนั้นก็กลับมานั่งที่เดิม “เฮ้ย ผู้หญิงคนนั้นทำไมหน้าคุ้นจังวะเหมือนเคยเห็นที่ไหน” “คนไหนวะวิน” เมฆาถามแล้วมองลงไปด้านล่าง “คนนั้นไง สายเดี๋ยวสีดำ” “กูว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่ในรูปที่ไอ้กันต์ให้ดูนะ มึงว่าใช่คนเดียวกันไหม” เขาหันมาถามพีรกันต์ที่กำลังมองลงไปด้านล่าง “ใช่เลย พรหมลิขิตชัดๆ” พีรกันต์พูดแล้วยิ้มตาเป็นประกายเขาไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับเธอในถิ่นของตนเองแบบนี้ “ลงไปสิ” ธนวินท์เชียร์เพื่อนเต็มที่ “ยังก่อน” “ทำไมวะ” “ถ้าเข้าไปตอนนี้เดี๋ยวก็แห้วเหมือนคนเมื่อกี้หรอก ผู้หญิงเวลาอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มน่ากลัวจะตาย แต่ถ้าอยู่คนเดียวก็ลูกแกะดีๆ นี่เอง” “แต่มันยากนะโอกาสที่เธอจะอยู่คนเดียว” “รอดูไปก่อนถ้าโอกาสมาถึงช้าเราก็สร้างโอกาสเองก็ได้มันไม่ยากหรอก” พีรกันต์บอกเพื่อนทั้งที่ตอนนี้ตนเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าทำยังไงถึงจะแยกผู้หญิงคนนั้นออกจากกลุ่มเพื่อนได้ “จะให้พวกกูช่วยไปแยกสาวๆ ออกจากกันไหม” “ยังก่อนอีกตั้งสองชั่วโมงผับจะปิดกูว่ายังไงเธอก็ต้องเดินไปเขาห้องน้ำบ้าง” “งั้นก็ตามใจมึงนะ” เมื่อเพื่อนปฏิเสธวีรวัชญ์ก็นั่งดื่มต่อ เหมือนว่าทุกอย่างจะเข้าข้างพีรกันต์ไปหมดเพราะหลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที่ผู้หญิงที่เขาจ้องอยู่ก็เดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนและตรงไปยังด้านหลังของร้านซึ่งเป็นส่วนของห้องน้ำ เขารีบวางแก้วในมือก่อนจะเดินลงมาดักรอเธอที่ทางเชื่อมระหว่างห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง เมื่อเห็นเธอกำลังเดินออกมาเขาก็ก้มหน้ามองพื้นก่อนจะเดินช้าๆ กะจังหวะที่เธอเดินมาถึงแล้วก้าวเท้าออกไปทันที “อุ๊ย...ขอโทษค่ะ” หญิงสาวอุทานเมื่อจู่ๆ เธอก็เดินชนคนอื่นทั้งที่มองแล้วว่าไม่น่าจะมีใคร “ขอโทษครับเป็นอะไรหรือเปล่า” “เปล่าค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร “หน้าคุณคุ้นจังนะครับเราเคยเจอกันไหม” เขารู้ว่ามันเป็นมุกจีบสาวที่โบราณมากแต่ที่ทักทายออกไปแบบนั้นเพราะรู้ว่าเธอจะต้องคิดเหมือนเขาและจะทำให้บทสนทนานั้นยาวขึ้น “คิดว่าไม่ค่ะ” “แต่ผมมั่นใจนะว่าเราเคยเจอกัน” “คุณคะ มุกจีบสาวแบบนี้ไม่คิดว่ามันเชยไปเหรอคะ” “แล้วมันได้ผลไหมล่ะครับ” “คิดว่าไม่ค่ะ” “แย่จังผมก็จีบผู้หญิงไม่เก่งซะด้วยสิ แบบนี้ทำยังไงถึงจะได้รู้จักคุณล่ะครับ” “ลองบอกเหตุผลมาสิว่าทำไมถึงอยากรู้จักฉัน” “แน่ใจนะครับว่าอยากฟังเหตุผลจริงๆ” “ลองบอกมาก่อนสิคะ” “ถ้าผมบอกเหตุผลกับคุณ คุณจะยอมบอกชื่อผมไหมล่ะครับ” “ก็ต้องดูก่อนว่าเหตุผลของคุณมันฟังขึ้นไหม” “ถ้าฟังไม่ขึ้นก็จะไม่ยอมบอกชื่อเหรอครับ” “ค่ะ” “ผมรู้สึกว่าผมกำลังเสียเปรียบอยู่นะ” “ยังไงคะ” “ถ้าผมยอมบอกเหตุผลคุณก็น่าจะยอมบอกชื่อแลกกันไงครับยุติธรรมดีนะ” “แล้วฉันจะอะไรจากเรื่องนี้ละคะ” “เราก็จะได้ทำความรู้จักกันไงครับ” “แต่ฉันไม่อยากรู้จักคุณนี่ค่ะ” หญิงสาวไม่เคยคิดจะทำความรู้จักกับใครในสถานที่แบบนี้อยู่แล้วเพราะที่ออกมาเที่ยวก็แค่อยากพักผ่อนสมองไม่ใช่ออกมาหาเพื่อนหรือแฟน เธอจำคำสอนของคุณยายได้ดีว่าการเจอกันในสถานที่อโครจรนั้นยากที่จะเจอคนจริงใจเพราะมารดาของเธอเจอบิดาในสถานบันเทิง เรื่องนี้คุณยายของเธอเล่าให้ฟังตั้งแต่จำความได้ว่ามารดาของเธอนั้นเจอกับบิดาที่สถานบันเทิงและคบหากันอยู่นานจนกระทั่งตั้งครรภ์ถึงได้รู้ว่าตนเองนั้นเป็นภรรยาน้อยมาตลอดเกือบสองปี หญิงสาวไม่เคยเจอผู้เป็นบิดาเลยเพราะไม่มีใครยอมบอกว่าเป็นใครมาจากไหน และเมื่อมารดาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุโอกาสจะได้เจอบิดาก็หายไปกับชีวิตของมารดา เธอเพียรถามคุณยายแต่ท่านก็ไม่ยอมบอกจนถึงวาระสุดท้ายที่จากไปเมื่อสองปีก่อนความลับเรื่องชาติกำเนิดจึงหายพร้อมกับลมหายใจของท่าน “แต่ผมอยากรู้จักคุณนะครับ” “พยายามกว่านี้สิคะ” “อย่าท้าทายผมนะครับคุณพยาบาล” “คุณรู้เหรอว่าฉันทำงานอะไร” “ผมรู้ว่าคุณเป็นพยาบาลอยู่ที่วอร์ดอายุรกรรมชายของโรงพยาบบาล XXX” พีรกันต์บอกไปตามที่ตนเองรู้ “แต่ฉันมั่นใจว่าเราไม่เคยเจอกัน” ที่หญิงสาวมั่นใจก็เพราะเธอตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยเจอผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยที่หน้าตาดีจนถึงขั้นหล่อแบบนี้เลยสักคน “นั่นมันเรื่องของอดีตครับแต่ผมว่าอนาคตเราคงได้เจอกันบ่อยขึ้น พนันได้เลยว่าเจอกันครั้งหน้าผมจะต้องรู้ชื่อคุณให้ได้” “ใครอยากพนันกับคุณกันล่ะคะ” “กลัวแพ้เหรอครับ” เขาถามอย่างท้าทายเพราะเห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนไม่ยอมคน “คนอย่างฉันไม่เคยกลัวอะไรแบบนั้น” “ถ้าไม่กลัวก็ต้องยอมรับคำท้าสิ” “ก็ได้ว่ามาสิจะพนันกันยังไง” “ถ้าครั้งหน้าผมเจอคุณและเรียกชื่อคุณถูกคุณต้องเลี้ยงข้าวผมหนึ่งมื้อ” “แล้วถ้าไม่ถูกล่ะคะ” “ผมก็จะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีกเลย” “ตกลงค่ะฉันรับคำท้าค่ะ” เพราะเป็นคนไม่ยอมคนหญิงสาวจึงรับคำท้าและคิดว่าตนเองกับผู้ชายที่ยืนตรงหน้าคงไม่มีทางเจอกันอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม