ตอนที่ 7 หากว่ามีวาสนา....

1553 คำ
เขาและนางยืนสบตากันครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะแอบเห็นสายตาที่อ่อนโยนลงจากนางแต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นและก็กลับไปเป็นนิ่งเรียบและเย็นชาเช่นเดิม “เช่นนั้นขอบใจเจ้ามากสำหรับการดูแลข้าตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ขอให้เจ้า…โชคดี” “ท่านเองก็เช่นกัน ลาก่อน” เว่ยเฟิงหรงเดินลงจากเนินเขาที่ใช้ฝึกวิชาและมาลาอาหยงและเดินทางลงจากเขาลั่วซางทันทีโดยที่ไป๋ซูเม่ยมิได้ตามลงมาส่ง นางยังคงยืนอยู่ที่ลานฝึกและมองพวกเขาเดินลงจากเขาไปอย่างเงียบ ๆ “คุณชายเว่ย ท่านเป็นผู้ที่ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความแค้นนี้ ตัวข้ามิอาจไว้ใจผู้ใดได้เหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มาอีกต่อไปแล้ว” เว่ยเฟิงหรงหันหลังมามองนางที่ยืนนิ่งอยู่บนเชิงเขา นางเองก็ยังคงมองมาที่เขาเช่นกัน สองคนที่สบตากันแม้ว่าจะไกลแต่เขาคิดไม่ผิด เขาเห็นว่านางกำลังยิ้มให้เขาอยู่เป็นแน่ “หากว่ามีวาสนาคงได้พบกันอีกในวันข้างหน้า ถ้าได้พบเจ้าอีกครั้งข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเหมือนดังเช่นวันนี้เป็นแน่” “คุณชาย…” ต้าหมินเรียกเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าท่านชายเว่ยยังคงยืนอยู่ที่เดิมเขาจึงหันมาบอกต้าหมินก่อนจะเดินนำไปก่อน “รีบไปเถอะ” ระยะทางที่ไป๋ซูเม่ยเคยบอกต้าหมินเอาไว้ทำให้พวกเขาเดินลงจากเขามาในเวลาที่สั้นมากจริง ๆ เขาอยู่ที่หยางโจวมาตั้งแต่เกิดและรู้จักเขาลั่วซางนี้เป็นอย่างดีแต่กลับไม่เคยพบว่ามีทางใดลงจากเขาได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อนเลย “คุณชายขอรับ ท่านอ๋องออกเดินทางไปเมืองหลวงก่อนหน้านั้นแล้ว คนของเราส่งข่าวแจ้งให้ท่านอ๋องทราบเรื่องที่คุณชายจะเดินทางไปถึงเมืองหลวงล่าช้ากว่ากำหนดแล้วขอรับ” “อืม ข้ารู้แล้วไม่เป็นอะไรหรอก ข้าส่งข่าวบอกหานลั่วเอาไว้แล้วว่าให้เขารับรองเสด็จพ่อไปก่อน ข้าจะรีบตามไปทันที” “เหตุใดคุณชายไม่รีบตามท่านอ๋องไปก่อนหน้านี้ขอรับ หรือเป็นเพราะว่า…..” “เจ้าติดตามเรื่องคนร้ายครั้งก่อนไปถึงไหนแล้ว ได้เบาะแสพวกมันบ้างหรือยัง” “ยังเลยขอรับ คนร้ายเก็บตัวเงียบคนที่เราจับได้ก็ฆ่าตัวตายหมดแล้วก็เลย…” “ช่างเถอะ เดาได้ไม่ยากนักหรอก เร็ว ๆ นี้เขาก็ต้องลงมืออีก ผู้ที่อยากจะฆ่าข้ามีไม่กี่คนนักหรอก” กระท่อมไม้ไผ่ “คุณหนูเจ้าคะ ท่านจะเดินทางเข้าเมืองหลวงจริง ๆ หรือเจ้าคะ องครักษ์ต้าหมินพูดว่าพวกเขาเองก็….” “นี่เจ้าคุยกับพวกองครักษ์ของคุณชายเว่ยด้วยงั้นหรือ” “ก็…ใช่เจ้าค่ะข้าเองก็แค่อยากรู้ เห็นว่าท่านอ๋องเองก็จะเสด็จไปด้วยตอนนี้ออกจากเมืองหยางโจวไปก่อนหน้านั้นแล้ว เห็นว่าเป็นงานฉลองครบรอบของแคว้นเจ้าค่ะ ทุกคนจึงมุ่งหน้าไปเมืองหลวงตามเทียบเชิญของฝ่าบาท รวมถึงท่านอ๋องและซื่อจื่อด้วย” “งานฉลอง…สมโภชแคว้นงั้นหรือ…ครบอีกปีหนึ่งแล้วสินะ” ไป๋ซูเม่ยนึกย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา นางอยู่เคียงข้างกับองค์ชายเสวียนอวี่ในทุก ๆ งานฉลองโดยที่สายตานางไม่เคยมองผู้ใดมาก่อน จนเมื่อปีที่แล้วในงานฉลองวันครบรอบการก่อตั้งแคว้นนี้เช่นกัน เพียงแต่ปีก่อนหน้านี้ไม่ได้จัดใหญ่เหมือนเช่นปีนี้ ในงานฉลองปีก่อนนี้เองที่ทำให้นางหัวใจแทบสลายเมื่อฝ่าบาทประทานสมรสให้กับเหล่าบรรดาองค์ชายที่มีผลงาน รวมถึงองค์ชายเสวียนอวี่กับเหยียนเฟยหย่า บุตรสาวของแม่ทัพเหยียนเจิน “ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะดูแลน้องเฟยหย่าเป็นอย่างดีมิให้นางต้องเสียใจเป็นอันขาด ขอท่านแม่ทัพเหยียนโปรดวางใจ” นางจำได้ว่านางยืนกำหมัดแน่นอยู่ด้านหลัง แม้แต่น้ำตาก็มิอาจให้ไหลออกมาได้และต้องทนมองพวกเขาทั้งสองดื่มสุราและป้อนอาหารให้กันในงานเลี้ยง พูดคุยกันราวกับคู่รักใหม่ แต่เมื่องานเลี้ยงเลิกแล้วเขากลับเมาและมาหานางดังเช่นทุกครั้ง “อิ่นหลง…อิ่นหลงมานี่เร็วเข้า” “องค์ชายพระองค์เมาแล้วนะเพคะ โปรดเสด็จกลับไป…อ๊ะ” “แคว่ก!!” “มานี่!! ข้ายังมีแรงมากพอ ดูสิชุดนอนของเจ้าข้าก็ฉีกให้ขาดได้ เจ้ายัง….ดูหน้าเจ้าสิ ทำหน้าอะไรเช่นนี้ไม่พอใจสิ่งใดกัน” “องค์ชาย โปรดระวังวาจาด้วยเพคะ พระองค์มีคู่หมั้นแล้ว” “อ้อ…ที่แท้เจ้าก็โกรธเรื่องนี้ คู่หมั้นก็ส่วนคู่หมั้น เจ้าก็ส่วนเจ้าสิจะเทียบอะไรกันได้เล่า พวกนางก็แค่ตุ๊กตาเอาไว้ประดับบารมี แต่ผู้ที่จะรองรับความต้องการของข้าได้ และ….เจ้าจับดูสิ ข้าบอกให้จับ!! อา….เช่นนั้นแหละ เจ้ารู้หรือยังว่ามันต้องการเจ้าเพียงใด เร็วเข้าอิ่นหลง ใช้ปากกับมันที เร็ว!!” “องค์ชายเพคะ หม่อมฉัน….” “อาา อิ่นหลง…ข้ารักเจ้ายิ่งนัก” เขาพร่ำบอกระหว่างที่กดศีรษะนางให้บำเรอกามให้เขาด้วยปากจนเขาสำเร็จความใคร่และจับนางมัดพร้อมกับร่วมรักกับนางเกือบครึ่งคืนจนร่างกายนางบอกช้ำ ปากนางเริ่มมีเลือดซึมเพราะเขากัดจนเกิดรอย “อาา อิ่นหลงเจ้ายังคงเป็นที่หนึ่งในใจของข้าเสมอ….” เพียงแค่คำว่ารักของเขาทำให้นางลืมทุกสิ่ง นางในเวลานั้นช่างโง่เขลาและงมงายมากจริง ๆ หลงเชื่อเพียงลมปากที่บอกว่ารักและเป็นหนึ่งในหัวใจ แต่นางมารู้ทีหลังว่าคำหลอกลวงเหล่านั้นล้วนเป็นคำโกหกทั้งหมดก็ก่อนที่นางจะตาย “เจ้าคิดว่าองค์ชายรักเจ้าจริง ๆ น่ะหรือ หึ ข้าจะบอกให้นะระหว่างที่เจ้าไม่มีเวลาปรนนิบัติพระองค์ องค์ชายก็ไปทำเรื่องเช่นนี้กับสาวใช้อื่น ๆ ที่ฮองเฮาประทานมาให้ พวกข้าเองก็เข้าร่วมด้วยในบางครั้ง หากว่าพวกนางคนใดปรนนิบัติไม่ถูกพระทัยก็จะส่งมาให้พวกข้า… เช่นเดียวกับเจ้าแต่ว่า…พวกข้าน่ะทำไม่ลงหรอก เจ้ามันเละเทะไปทั้งร่างแล้วเช่นนี้ ฮ่า ๆ” “คุณหนูเจ้าคะ….คุณหนู!!” “หา!! อาหยงเจ้าว่าอย่างไรนะ” “คุณหนู ท่านเหม่อลอยนานเกินไปแล้วนะเจ้าคะ ข้าเรียกท่านตั้งนานแล้ว ข้าถามว่าพวกเราเก็บของเสร็จแล้ว รถม้าก็เช่าเอาไว้แล้วเดินทางได้เลยเจ้าค่ะ” “อ้อ….นั่นสินะ รีบลงเขากันเถอะ” หลังจากเว่ยเฟิงหรงลงจากเขาไปแล้วสามวันนางก็เริ่มเก็บข้าวของและลงจากเขาเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไปยังเมืองหลวง ระหว่างทางก็ไม่มีสิ่งใดที่จะดึงความสนใจพวกนางได้นอกจากทิวทัศน์ที่เริ่มแปลกตามากขึ้น พวกนางต้องแวะพักที่โรงเตี๊ยมนอกเมืองก่อนที่จะเข้าเมืองหลวงพรุ่งนี้เนื่องด้วยประตูเมืองปิดไปแล้วเมื่อพวกนางเดินทางมาถึง “ช่างเถอะ ช่วงเวลาแบบนี้ก็เป็นเช่นนี้แหละแม้ว่าคนเข้าออกมากแต่ก็ความระมัดระวังก็จะสูงไปด้วย หาที่พักสักคืนก็แล้วกัน” “เช่นนั้นข้าจะไปจองห้องพักที่โรงเตี๊ยมด้านนั้นนะเจ้าคะ” “อืม รีบไปเถอะ” ช่างโชคร้ายที่มีผู้คนสัญจรจำนวนมากและเข้าเมืองไม่ทันหลายคน ดังนั้นที่พักในโรงเตี๊ยมจึงได้เต็มอย่างรวดเร็ว “อะไรนะ เต็มแล้ว เช่นนั้นที่อื่นเล่าเถ้าแก่” “คุณหนูขอรับ โรงเตี๊ยมข้าใหญ่ที่สุดยังเต็มหมดแล้ว ที่นี่มีเพียงโรงเตี๊ยมแค่สี่แห่งล้วนถูกจองล่วงหน้าจนหมดแล้วเหตุใดเจ้าไม่มาจองก่อนหน้านี้” “ก็ข้า…” “ช่างเถอะอาหยง นอนบนรถม้าสักคืนก็ไม่เป็นอะไรหรอกพรุ่งนี้ก็เข้าไปได้แล้ว” “แต่…แต่ว่า…” พวกนางเดินกลับไปที่รถม้าแล้วก่อนจะเข้าเมือง รถม้าขบวนหนึ่งยื่นป้ายทองให้กับทหารและพวกเขาเข้าไปได้ทันทีจนอาหยงสงสัยและเดินเข้าไปถามดูเพราะขบวนรถม้าที่กำลังเข้าไปนั้นมีมากกว่าสามคัน “เหตุใดพวกเขาจึงเข้าวังไปได้เล่าท่านทหาร” “แม่นาง ข้ามิได้มีหน้าที่ตอบคำถามเจ้า” “แต่ว่าพวกข้าต้องรออยู่นอกเมืองกันหมดแต่พวกเขาเหตุใดจึงเข้าไปได้” “พวกเขาเป็นคนของทางการและเป็นเชื้อพระวงศ์จึงต้องให้ผ่านเจ้าอย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย” “แต่ว่า….” “อาหยง!!…พวกเจ้าก็มาถึงแล้วงั้นหรือ” อาหยงที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงด้วยความไม่พอใจอยู่ตรงประตูนั้นก็รู้สึกแปลกใจเมื่อมีคนเรียก นางจึงหันไปมองตามเสียงนั้นและยิ้มออกมาทันที “พี่ต้าหมิน พวกท่านเองหรือเจ้าคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม