บทนำ
บทนำ
“พี่มึงยังไม่มาเหรอไอ้ฝุ่น ลีลาฉิบหาย”
ไป๋ หนุ่มคณะวิศกรรมศาสตร์ชั้นปีที่สี่ หันไปถามเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งดื่มอย่างเงียบ ๆ มือก็เล่นโทรศัพท์ไป ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แม้กระทั่งสาวสวยโต๊ะใกล้กันนี้ที่กำลังมองมาโต๊ะของพวกเขาหลายครั้งแล้ว มันก็ไม่คิดจะสนใจ
นั่นมันอดีตดาวมหาวิทยาลัยเลยนะ น้องนุ่นที่เขาอยากลอง…
“กูไม่รู้” ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา มีความสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร รูปร่างราวกับนายแบบ ทุกอย่างบนร่างกายเขาราวกับพระเจ้าตั้งใจสร้างมาดูเป็นเอกลักษณ์น่ามอง
ติดอยู่แค่ ดันมีคนหน้าเหมือนเขาอีกคน
ใต้หล้า แฝดพี่ที่เกิดห่างกันไม่กี่นาที คนที่ไอ้ไป๋กำลังถามถึง คนที่นิ่ง ๆ แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากวนตีนฉิบหาย ไม่สนใจใคร ไม่ยุ่งเรื่องใครถ้าเรื่องนั้นไม่มีประโยชน์กับมัน
“พูดถึงก็มา ตายยากฉิบ” ไป๋ว่าพลางหัวเราะในลำคอ
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนกันราวกับแกะ จะมีเพียงสีหน้าที่ทำให้ใครหลายคนแยกออกว่าใครเป็นใคร คนหนึ่งหน้าตึงตลอดเวลาอีกคนก็ติดยิ้มเจ้าเล่ห์
ใต้หล้าเดินหน้านิ่งตามแบบฉบับของเขามาจากทางเข้าร้าน แม้ว่าไม่มีเรื่องให้เครียดแต่หน้าเขาก็เหมือนจะฆ่าคนได้ตลอดเวลา
ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่เขาก็ยังเป็นที่สนใจของสาว ๆ หลายคน เป็นเสน่ห์ที่จับใจสาว อยากค้นหา ชอบความท้าทาย หรือแม้กระทั่งอยากพลีกายให้เขา
แต่ยังไม่มีใครที่ทำให้คนอย่างใต้หล้ารู้สึกรักได้สักคน เพราะเขาเป็นเขา ไม่เคยสนใจความรู้สึกใคร ไม่อยากมีภาระและไม่ชอบที่ต้องผูกมัดกับใคร
“มึงมัวทำอะไรอยู่ตั้งนาน” ไป๋เอ่ยปากถามเมื่อเพื่อนสนิทหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาข้างกัน
“ไปคุยกับพ่อ” เขาตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มือเอื้อมไปหยิบแก้วเปล่ามาวางตรงหน้าก่อนจะเทเครื่องดื่มราคาแพงลงไปครึ่งแก้วแล้วยกขึ้นดื่มราวกับน้ำเปล่า
“อนุมัติหรือเปล่า” ไต้ฝุ่น น้องชายฝาแฝดของเขาเอ่ยถามเพราะรู้แล้วว่ากำลังพุดถึงเรื่องอะไร
“อืม แต่ก็ต้องตามหาเจ้าของ”
คนนั่งฟังสองคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ เรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจของใต้หล้าช่วงนี้คือเรื่องที่ดินผืนหนึ่งซึ่งเป็นทำเลที่เพื่อนอยากได้มาทำสนามแข่งรถ สิ่งที่ใต้หล้าชอบมากที่สุดคือการแข่งรถและสิ่งที่เขารักที่สุดคือรถทุกคันของตัวเอง
ถ้าแต่งงานกันได้ไอ้เหี้ยนี่มันคงแต่งกับรถไปแล้ว
“แล้วมึงรู้ยังว่าใคร”
“มีแต่ชื่อ ถามใครก็ไม่รู้จัก รู้แค่ว่าย้ายไปอยู่แถวภาคเหนือ”
“เป็นไปได้เหรอวะมีที่ดินทำเลทองขนาดนั้นจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีใครรู้จัก” ไป๋ขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเห็นเพื่อนหาเจ้าของมาระยะหนึ่งแล้ว
“เหมือนจะเปลี่ยนคนถือแล้วแต่อาจจะเป็นคนใกล้ตัว” ไต่ฝุ่นออกความเห็นบ้างเพราะเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ธุรกิจนี้เพราะเขาจะช่วยส่วนหนึ่ง ใต้หล้ากับไต้ฝุ่นจะเป็นคนจัดการเองทั้งหมดและถือว่าเป็นแบบทดสอบที่พวกเขาต้องเรียนรู้หลังจากเรียนจบ
“มันยากนักมึงก็หาที่อื่น ที่ดินมีตั้งเยอะแยะ”
“ไม่” คนหน้านิ่งเอ่ยออกมาแบบไม่ต้องคิด “กูจะเอาที่นี่”
ในเมื่อการตัดสินใจของเขาเด็ดขาดแล้วทุกคนจึงไม่ขอคัดค้าน คนอย่างใต้หล้าถ้าอยากได้อะไรก็ต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาเป็นของตัวเอง เรื่องนี้พวกเขารู้ดีจึงไม่คิดจะขัด เป็นเพื่อนกันมาหลายปีกับอีกคนที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตย่อมรู้นิสัยของเขาดี
ถ้าใครทำมันไม่พอใจก็เตรียมตัวเดือดร้อนได้เลย
ณ สถานบันเทิงชื่อดังแห่งนี้ เป็นร้านประจำของเหล่านักศึกษามหาวิทยาลัยที่พวกเขาเรียนอยู่ มีสถานบันเทิงเปิดเรียงรายกันตลอดเส้นทางของถนนเส้นนี้
“มึงดูโต๊ะนั้น” ไป๋สะกิดแขนไต้ฝุ่นเมื่อมีสาวสวยจากโต๊ะหนึ่งที่ไม่ห่างกันกำลังเมียงมองมาทางพวกเขา ก็ต้องเดากันอีกว่า คนสวยคนนั้นกำลังสนใจใคร
“มึงว่าใคร” ไต้ฝุ่นหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยปากถามเพื่อนสนิท ขณะที่อีกคนไม่คิดจะสนใจ เอาแต่นั่งคิ้วขมวดหาข้อมูลเรื่องที่ตัวเองกำลังสนใจ
“ไม่มึงก็กูเนี่ยแหละ คิดว่าจะเป็นไอ้เหี้ยนั่นเหรอ ทำหน้าเครียดขนาดนั้นสาวคงกลัว”
“เออ ไม่มึงก็กูแน่ ๆ” ไต้ฝุ่นเอ่ยปากอย่างติดตลก ทั้งที่ก็พอจะเดาออกว่าผู้หญิงกำลังมองใครอยู่
“น้องนุ่นเลยนะนั่น สงสัยคืนนี้เราต้องมีเรื่องกันละไอ้ฝุ่น”
“วันนี้กูเหนื่อย ให้มึงเลย” ไต้ฝุ่นว่าพลางหัวเราะ เขารู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่มีใครจริงจัง เรื่องผู้หญิงที่เจอกันในร้านเหล้ามันไม่ใช่เรื่องต้องจริงจังอยู่แล้ว
ทั้งคู่สนทนากันพลางทอดสายตามองคนที่แอบมองมาทางพวกเขานั่งอยู่เป็นระยะ ก่อนที่เธอจะส่งยิ้มให้แล้วชี้ไปที่ใครบางคนจนทั้งคู่ต้องเลื่อนสายตามอง
ไอ้หน้าโหดเหมือนโกรธใครมานั่น
“มันเหรอ” ไป๋ถามออกมาอย่างนึกเหนื่อยหน่าย
ทั้งที่มันนั่งอยู่เฉย ๆ ผู้หญิงก็ยังสนใจ ราวกับว่านั่นคือเสน่ห์ของมันที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนสนใจ
“น้องเขาเอาตาหรือตีนมองวะ หน้ามันไม่รับแขกขนาดนั้น” ไต้ฝุ่นหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะชูแก้วขึ้นเป็นการเชิญชวนให้อีกฝ่ายมาชนด้วยและแน่นอนว่าสาวสวยใจกล้าคนนั้นรีบลงจากเก้าอี้ตัวสูงตรงมาทางโต๊ะของเขา
“สวัสดีค่ะพี่ไป๋ พี่ไต้ฝุ่น จำนุ่นได้ไหม” เธอเอ่ยคำทักทายด้วยรอยยิ้มก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งเล่นมือถือไม่สนใจใคร
“จำได้ครับ น้องนุ่นคนสวยใครจะจำไม่ได้” ไป๋ตอบด้วยรอยยิ้มหวานสะกดจิต แต่ก็ไม่ได้ผลกับคนตรงหน้าเมื่อเธอมีคนที่เฝ้ามาอยู่แล้ว
“นั่งได้ใช่ไหมคะ” เธอถามคนที่นั่งเงียบไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมองเธอเลย
“นั่งได้ ๆ” ไป๋เอ่ยปากอนุญาต ทว่ากลับถูกสายตาคมกริบตวัดมอง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะสาวเจ้าขยับตัวนั่งลงข้างใต้หล้าไปแล้ว
“พี่ใต้หล้าสวัสดีค่ะ”
“อืม” คนที่ถูกให้ความสนใจขานรับในลำคอ เขาแค่ปรายตามองเธอก่อนจะสนใจหน้าจอที่กำลังหาข้อมูลเรื่องที่ดินอยู่
“น้องนุ่นมากับเพื่อนเหรอ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเหมือนจะเสียหน้าเพราะถูกเมิน ไป๋จึงแกล้งถามเธอเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกแย่
ไอ้ใต้หล้าก็เหลือเกิน มันคิดว่าหล่อแล้วจะใจร้ายกับสาวยังไงก็ได้เหรอวะ
“ไม่ค่ะ พอดีรุ่นพี่พามาเลี้ยงเพราะช่วยงาน” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มเจื่อน ก็เธออุตส่าห์พาตัวเองเข้าหาเขา แต่ใต้หล้ากลับทำเหมือนเธอเป็นอากาศที่มองไม่เห็น
“ออ”
“ไม่ค่อยสนิทค่ะ ก็เลยแอบหนีมาตรงนี้” เธอหัวเราะกลบเกลื่อนความตั้งใจ
ใต้หล้าละสายตาจากเครื่องมือสื่อสารก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาดื่มจนหมด ดวงตาคมกริบตวัดมองคนที่นั่งข้างกัน พลางคิดในใจว่า
แล้วเขาสนิทกับเธอหรืออย่างไรถึงมานั่งข้างกัน
ออ คงสนิทกับไอ้ไป๋
“นุ่นเติมให้ค่ะ” สาวสวยยิ้มหวานส่งไปให้เมื่อถูกใต้หล้ากำลังมอง บางทีเขาอาจจะสนใจเธออยู่ แต่เพราะบุคลิกของเขาที่นิ่งแบบนี้ เลยดูเหมือนเขาไม่สนอะไรเลย
มันจะมีผู้ชายคนไหนบ้างที่ไม่ชอบผู้หญิงสวย ๆ และเธอก็มีดีกรีเป็นถึงดาวหมาวิทยาลัย ที่ทั้งสวยทั้งมีความสามารถ มีผู้ชายตามจีบเป็นแถว
แต่คนที่เธอแอบมองก็ดันมีแค่เขาคนเดียว